เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์
ตามรายงานล่าสุดของสมาคมผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์เยอรมัน แจ้งว่า ในปีนี้และปีหน้ามีแนวโน้มที่แจ่มใสดี โดยตลอดปี 2553 นี้จะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และในปี 2554 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 7 ยอดขายตลอดทั้งปีจะเพิ่มขึ้นจาก 145,000 ล้านยูโร ในปี 2552 เป็น 162,000 ล้านยูโรตลอดทั้งปี 2553 นี้หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 การผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์นับเป็นอุตสาหกรรมสำคัญอันดับที่ 2 ของเยอรมนี การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีช่วยให้จำนวนคนงานเพิ่มขึ้น 17,000 คนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 810,000 คน
สินค้าส่งออกของไทย
ตามสถิติกรมศุลกากรไทย มูลค่าการส่งออกสินค้ารายการนี้ของไทยไปเยอรมนียังคงเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วง 11 เดือนแรกปี 2553 มีการส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่า 255.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.0 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 78.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 122.1 เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้สัญญานเสียงแสงมูลค่า 42.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.3 สำหรับเครื่องอิเลคทรอนิกส์ มีการส่งออกเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 666.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มีการส่งออกเป็นมูลค่า 441.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 รองลงมาเป็น แผงวงจรไฟฟ้า มูลค่า 59.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7 วงจรพิมพ์ มูลค่า 59.2 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.3
ปัจจุบันความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศยังคงสูงต่อเนื่อง เพื่อการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป ผู้ผลิตในเยอรมนีจึงมีความต้องการสินค้าประเภทชิ้นส่วนและส่วนประกอบมากขึ้น ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยสามารถส่งออกได้ ประกอบกับประเทศผู้ผลิตสำคัญๆ ในยุโรป โดยเฉพาะไอร์แลนด์ มีปัญหาด้านการเงิน แม้จะได้รับการช่วยเหลือได้เงินกู้จากสหภาพยุโรปจำนวนหนึ่งแล้วก็ตาม ยังคงไม่สามารถผลิตสินค้า เพื่อการส่งออกได้ ส่งผลให้การส่งออกของไทยยังขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
ปัญหาอุปสรรค
1. สินค้าส่งออกสำคัญๆ ของไทยเป็นผลผลิตของกิจการข้ามชาติ มูลค่าของการส่งออกสินค้าจะเป็นไปตามนโยบายของบริษัทข้ามชาติเหล่านี้
2. สำหรับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วน หรือส่วนประกอบ สำหรับการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป ได้แก่ แผงวงจร วงจรพิมพ์ และชิ้นส่วนของเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น การส่งออกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจะขึ้นอยู่กับความต้องการสินค้าสำเร็จรูป
3. ประเทศไทยยังไม่มีความสามารถในการผลิตสินค้า High Tech แบบใหม่ๆ ที่ตลาดมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
4. วัตถุดิบและชิ้นส่วนต่างๆ ได้แก่ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ยังคงมีราคาต่ำ
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th