แผนการพัฒนานครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ตามแนวทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 12 ของจีน
“มุ่งเป้าเพิ่มรายได้ประชากรร้อยละ 10 ในทุกปี”
คณะกรรมการการการปฏิรูปและพัฒนาแห่งนครคุนหมิงได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. แผนยุทธศาสตร์ของนครคุนหมิง จะพัฒนาคุนหมิงให้เป็นสังคมพอเพียงตามแนวทางของรัฐบาลกลางกรุงปักกิ่ง โดยภายในปี 2015 จะพัฒนามณฑลยูนนานรวมทั้งนครคุนหมิง ให้เป็นมณฑลที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ยูนนานเป็นมณฑลศูนย์กลางและเป็นสะพานสำคัญเชื่อมสู่ประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
นักวิชาการได้คาดการณ์ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 จะสามารถเพิ่มมูลค่าจีดีพี (GDP) ของมณฑลได้มากกว่าร้อยละ 13 รายได้เฉลี่ยต่อประชากรเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 การใช้จ่ายตามงบประมาณภาครัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2554 จะจัดการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการกรมการเมืองแห่งนครคุณหมิงและสภาประชาชนนครคุณหมิงเพื่อวางแผนการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
2. ที่ประชุมได้ชี้แจงแนวทางการพัฒนาทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคการบริการ โดยวางเป้าหมายให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมใบยาสูบ อุตสาหกรรมแร่รวมถึงการแปรรูป (หลอม) และอุตสาหกรรม- อีเล็กโทรนิกส์ต่างๆ เป็นต้น โดยได้คาดการณ์ไว้ว่าภายในปี 2015 ภาคอุตสาหกรรมจะมีการพัฒนาและมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 145,000 ล้านหยวน ในส่วนของภาคการเกษตร จะดำเนินการขยายและเคลื่อนย้ายพื้นที่เพาะปลูกไปบริเวณด้านทิศเหนือและตะวันออกมากขึ้น โดยภายในปี 2015 จะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 17,000 ล้านหยวน สำหรับภาคการบริการ จัดให้มีการปรับปรุงและเสริมสร้างภาคการบริการให้เข้มแข็งขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเยี่ยมชมความเป็นอยู่ของชาวเมือง เป็นต้น โดยคาดการณ์ไว้ว่าจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 190,000 ล้านหยวน
3. ภายใต้กรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 นครคุนหมิงจะมีการสร้างส่วนต่อขยายและเชื่อมโยงสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ สนามบินแห่งใหม่ การขนส่งระบบราง รถโดยสารประจำทาง รวมถึงการเชื่อมโยงสาธารณูปโภคกับมณฑลอื่นๆ ข้างเคียง รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อรองรับการขยายตัวของสังคมเมือง ควบคู่ไปกับการพัฒนาการให้การบริการขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ จะมีการให้การบริการโครงข่ายมาตรฐาน 3 จี (3G) ครอบคลุมทั้งนครคุนหมิงอีกด้วย
4. การดำเนินงานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 นครคุนหมิง ยังได้วางเป้าหมายที่จะเพิ่มทั้งด้านปริมาณและคุณภาพของทรัพยากรบุคคล โดยเน้นการคิดค้นพัฒนาด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มและพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพได้ราว 1.2 ล้านคน ภายใน 5 ปี
นอกจากนี้ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ยังได้มีการกำหนดแนวทาง การพัฒนาคุณภาพทางด้านการศึกษา โดยในปี 2015 ทางนครเทศบาลเมืองจะได้เพิ่มงบประมาณลงทุนทางด้านการศึกษาเป็นร้อยละ 4 ของจีดีพี (GDP) ของนครคุนหมิง และเพิ่มจำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรให้อยู่ที่ 10 ปี และด้านการสาธารณสุข จะขยายแผนการประกันสุขภาพของประชากรให้ครอบคลุมทั่วทั้งนครคุนหมิง ยกระดับคุณภาพสุขอนามัยของประชาชน โดยมีเป้าหมายอายุเฉลี่ยของประชากรอยู่ที่ 77 ปี
5. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จะดำเนินโครงการบำบัติน้ำเสียโดยการผันน้ำจากแม่น้ำข้างเคียงของทะเลสาบเตียนฉือ*** ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 นี้ จะเป็นการบำบัดน้ำเสียในทะเลสาบเตียนฉือระยะที่สอง เพื่อปรับปรุงสภาพน้ำในทะเลสาบให้กลับมาใสสะอาดและใช้การได้ดังเดิม นอกจากนี้ ทางเทศบาลนครคุนหมิง ยังได้วางเป้าหมายจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ร้อยละ 47 ของพื้นที่นครคุนหมิง พร้อมทั้งลดปริมาณการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ลงร้อยละ 20 เพื่อที่จะให้เป็นเมืองตัวอย่างของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
ท้ายที่สุด ในการประชุมดังกล่าว ยังได้มีการเสวนาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างค่าครองชีพของประชากรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อันเนื่องมาจากการปรับตัวตามเศรษฐกิจของประเทศ และยังได้มีการเสนอให้มีการเชื่อมโยงทั้งภาคการผลิตและภาคการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้เป็นไปในลักษณะเกื้อหนุนและเกิดประโยชน์สูงที่สุด
*** ทะเลสาบเตียนฉือ (Dian Chi) หรือทะเลสาบคุนหมิง เป็นทะเลสาบในแผ่นดินที่ตั้งอยู่ในนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ปัจจุบัน ทะเลสาบเตียนฉือประสบปัญหาน้ำเน่าเสียอย่างรุนแรง และเทศบาลนครคุนหมิงมีความพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว ***
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครคุนหมิง
ที่มา: http://www.depthai.go.th