“พาณิชย์”นำทัพบุกเออีซี เพิ่มสัดส่วนส่งออก 30% ในปี 58 เผยยุทธศาสตร์หลักชูไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 18, 2011 10:29 —กรมส่งเสริมการส่งออก

“พาณิชย์”นำทัพบุกเออีซี เพิ่มสัดส่วนส่งออก 30% ในปี 58 เผยยุทธศาสตร์หลักชูไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ล่าสุดกลางกุมภาจูบปาก “จอม ประสิทธิ์”จูงมือเปิดแฟร์ไทยในกัมพูชา ชิมลางปลายเดือนนี้เกี่ยวก้อย“แอ๋วลาว

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2554 กระทรวงพาณิชย์มียุทธศาสตร์การพัฒนาและขยายการค้าของไทยสู่ทั่วโลก โดยเน้นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ให้ขยายสัดส่วนการส่งออกไทยกับอาเซียนจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30 ของยอดรวมการส่งออกกับต่างประเทศของไทยในปี 2558 ซึ่งในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-พ.ย.2553) ส่งออกสินค้าไทยไปอาเซียนเติบโต 39% หรือ มีมูลค่า 40,638 ล้านเหรียญสหรัฐฯโดยมอบ 7 ยุทธศาสตร์หลัก เพื่อผลักดัน ส่งเสริมและพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ประกอบด้วย 1.การพัฒนาระบบและฐานข้อมูลการค้าลงทุน เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้าสินค้า บริการและการลงทุน 2.การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐของไทยและอาเซียนอย่างแน่นแฟ้น 3.ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทั้งระหว่างภาคธุรกิจไทยและอาเซียน 4.ส่งเสริมสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของตลาด 5.ยกระดับภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการไทยและส่งเสริมการสร้างตราสินค้า 6.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการไทย และ 7.พัฒนาระบบโลจิสติกส์และอำนวยความสะดวกทางการค้า รวมทั้งผลักดันการขยายการค้าชายแดน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและศูนย์กระจายสินค้าของภูมิภาค

นางพรทิวา กล่าวว่า ในปี 2554 กรมส่งเสริมการส่งออกมีแผนในการบุกตลาดอาเซียนรวมเกือบ 70 ครั้ง โดยล่าสุดระหว่างวันที่ 17-20 กุมภาพันธ์นี้ จะไปเป็นประธานเปิดงาน ไทยแลนด์ เทรด เอ็กซิบิชั่น 2011 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่ง ดร.จอม ประสิทธิ์ รัฐมนตรีอาวุโสและรมว.พาณิชย์ ของกัมพูชาตอบรับเป็นประธานฝ่ายกัมพูชาในพิธีเปิดงานแล้ว

ส่วนในวันพุธที่ 26 มกราคม 2554 ตนจะเป็นผู้นำคณะผู้บริหารของกระทรงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนของไทยใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐของทั้งสองประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า ซึ่งจะมีการพบหารือ รมว.การค้าและอุตสาหกรรม ลาว (ดร.นาม วิยะเกด)

“การเดินทางเพื่อหาแนวทางความร่วมมือทางการค้าการลงทุน และติดตามความคืบหน้าผลการหารือระหว่างกันในคราวเดินทางเยือนลาว ในปี 2553 การประชุมกับนักลงทุนไทยในสปป.ลาวและ/หรือนักธุรกิจรายใหญ่ของลาว การพบหารือผู้บริหารระดับสูงตลาดหลักทรัพย์แห่ง ของลาว ซึ่งเพิ่งจะเปิดทำการเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2554 และ เยี่ยมชมการดำเนินงาน/การซื้อขายหลักทรัพย์ ตลอดจนเป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าลาว-ไทย เทรด เอ็กซิบิชั่น 2001 ณ นครเวียงจันทน์”นางพรทิวา กล่าว

สำหรับลาวถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญกับประเทศไทยทั้งในด้านการค้าและการลงทุน การค้าระหว่างไทยและสปป.ลาว ในช่วง 11 เดือนมีมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การส่งออกสินค้าไทยไปลาวขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 โดยมีมูลค่า 1,919 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 62 มีมูลค่า 675 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยได้ดุลการค้า 1,245 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ไทยถือเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่จากมูลค่าการลงทุนสะสมระหว่างปี 2543-2552 มูลค่า 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการลงทุนของไทยส่วนใหญ่อยู่ในสาขาไฟฟ้า พลังงาน เหมืองแร่ โทรคมนาคม และการเกษตร ซึ่งจุดแข็งสำคัญของนักลงทุนไทยคือทัศนคติของคนลาวต่อบริษัทไทยในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และยังมีโอกาสในการลงทุนโดยเฉพาะภาคการเงิน การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์

ทั้งนี้ ลาวต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อให้ GDP สูงกว่าร้อยละ 8 เพื่อให้ลาวหลุดพ้นจากสถานะประเทศยากจนในปี 2563 โดยได้ทบทวนกฏหมายส่งเสริมการลงทุนเมื่อปี 2552 เพื่อปรับปรุงขั้นตอนการอนุมัติ และมาตรการจูงใจทางภาษีหรือการใช้สิทธิใช้ที่ดิน ซึ่งแนวโน้มการลงทุนในลาวในอนาคต ได้แก่ ภาคเกษตร พลังงานไฟฟ้า พลังงานทางเลือก โรงแรม โลจิสติกส์ การบริการ และสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ตามนโยบายให้ลาวเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค “Land-linked Country) ในอีก 5-10 ปี ข้างหน้า

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ