ตอกย้ำครัวไทยสู่โลก ก้าวอันมั่นคงของอาหารไทยสู่ตลาดเยอรมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 18, 2011 17:29 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ผลการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับห้าง Metro Cash & Carry เยอรมนี

สคร.แฟรงก์เฟิร์ต นำโดยผู้อำนวยการอาวุโส น.ส.จตุพร วัฒนสุวรรณ ได้ร่วมกับห้างค้าส่งยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารไทยในห้างพร้อมกันทั้ง 61 สาขา ระหว่างวันที่ 16 — 29 กันยายน 2553 ที่ผ่านมาผลปรากฎว่า สินค้าอาหารของไทยได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวเยอรมันเป็นอย่างท่วมท้น

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่สคต.แฟรงก์เฟิร์ตได้จับมือกับห้าง Metro Cash & Carry เริ่มจัดกิจกรรมเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2550 โดยในปี 2553 เน้นยังคงเน้น Concept & Theme ภายใต้สโลแกน “Naturlich Thailandisch Kochen — Cook Thai Naturally” ซึ่งเป็นสโลแกนที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2551 เพื่อเน้นย้ำภาพลักษณ์ของอาหารไทยว่า เป็นอาหารที่เน้นคุณภาพและสุขภาพของผู้บริโภคเพื่อให้ติดตาผู้บริโภค โดยสอดคล้องกับสินค้าที่นำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ ซึ่งในปีนี้เน้นผักสดและผลไม้สด

ลักษณะและรูปแบบของกิจกรรม

(1) การจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ เน้นสินค้าผักและผลไม้สด รวมถึงสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมและยอดจำหน่ายสูง (จากข้อมูลการจัดกิจกรรมของปีก่อนหน้าและยอดจำหน่ายของห้างฯ) รวมทั้งสิ้น 15 รายการ นอกเหนือจากสินค้าอื่นๆ ตามปกติอีก 162 รายการ

(2) การจัดวางสินค้าไทยในส่วนจัดแสดงพิเศษของห้างนอกเหนือจากชั้นวางสินค้าปกติในห้างฯ ทั้ง 61 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจน สามารถหยิบซื้อได้สะดวก สำหรับสาขาใหญ่ที่จัดกิจกรรมพิเศษรวม 10 สาขามีการจัดวางชั้นวางพิเศษเพิ่มเติมเพื่อจัดแสดงตัวอย่างสินค้าไทยเพื่อให้ลูกค้าสามารถหยิบซื้อได้ทันทีหลังจากชิมอาหารที่จัดสาธิตแล้ว

(3) กิจกรรมพิเศษเฉพาะ 10 สาขาใหญ่ที่สำคัญ จำแนกเป็น การสาธิตการประกอบอาหาร 4 สาขา และ การสาธิตและแจกชิมผลไม้ 9 สาขา โดยจัดกิจกรรมสาขาละ 2 วัน ในวันศุกร์และวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่ห้างฯ มีลูกค้ามากที่สุดในรอบสัปดาห์ รายละเอียดดังนี้

  • การสาธิตการประกอบอาหาร ในเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต มิวนิค ฮัมบูร์ก และเบอร์ลิน
โดยพ่อครัว/แม่ครัวที่มีประสบการณ์จากร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select จัดสาธิตการปรุงอาหารไทยเมนูหลัก 3 รายการ ได้แก่ แกงเขียวหวาน ต้มข่าไก่และผัดไทยกุ้ง พร้อมบรรยาย วิธีการปรุงและส่วนผสมจากสินค้าไทยเป็นภาษาเยอรมัน ตลอดจนแจกชิมและประชาสัมพันธ์สินค้าอาหารไทย โดยเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากชาวเยอรมันเป็นอย่างยิ่ง จากผลสำรวจแบบสอบถามของสคร.แฟรงก์เฟิร์ตผู้ชิมชาวเยอรมันได้สอบถามเกี่ยวกับวิธีการปรุงร้อยละ 85 ถามเกี่ยวกับเครื่องปรุง/ส่วนผสมร้อยละ 80 และได้ซื้อสินค้าไทยที่วางจำหน่ายในบริเวณใกล้เคียงทันทีประมาณร้อยละ 70
  • การสาธิตและแจกชิมผลไม้ ในเมืองสำคัญ ได้แก่ ดุสเซลดอร์ฟ ซังค์เอากุสติน-บอนน์ โคเบลนซ์ ไมนซ์ เอสลิงเง่น-ชตุดการ์ด กุนเดลฟิงเง่น-ฟรายบวร์ก และเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต มิวนิค และฮัมบูร์ก รวมทั้งสิ้น 9 แห่ง

(4) การแจกสื่อประชาสัมพันธ์ ให้แก่ลูกค้าที่สนใจ โดยติดต่อขอรับได้ตรงเคาน์เตอร์ทางเข้าห้างฯ หรือซุ้มสาธิตในสาขาที่มีกิจกรรมพิเศษ สื่อดังกล่าวจัดทำเป็นภาษาเยอรมันซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นเพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าชาวเยอรมันได้ในวงกว้าง จำแนกเป็น

  • การแจกหนังสือตำราอาหารไทย ของกรมฯ (Taste Thai) เพื่อนำกลับไปทดลองทำเองที่บ้านได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากรูปแบบสวยงาม เมนูที่น่าสนใจหลากหลาย
  • การแจกแผ่นแม่เหล็กติดตู้เย็นเมนูอาหารไทย ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างสูงเช่นกัน จากการสอบถามปรากฎว่าผู้บริโภคชื่นชอบมากเนื่องจากมีขนาดกะทัดรัด สามารถใช้ติดตู้เย็นในห้องครัว สะดวกในการทดลองปฏิบัติตามได้ง่าย
  • การแจกแผ่นพับผักไทยและการแจกแผ่นแม่เหล็กผักไทย เพื่อให้ชาวเยอรมันรู้จักผักไทยประเภทต่างๆ มากขึ้นและสามารถซื้อมาใช้ประกอบอาหารได้ถูกต้อง
  • การแจกแผ่นพับผลไม้ไทย เพื่อให้ชาวเยอรมันรู้จักประเภทของผลไม้ไทย วิธีรับประทาน รวมทั้งคุณประโยชน์ของผลไม้ไทยได้ถูกต้องและหลากหลายประเภทมากขึ้น

(5) การเพิ่มเมนูอาหารไทยในร้านอาหารของห้างฯ โดยทีมพ่อครัวแม่ครัวของห้างฯ ปรุงและจำหน่ายอาหารไทยแก่ลูกค้าและพนักงานที่มารับประทานในร้านอาหารของห้างฯ โดยเปลี่ยนเมนูทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์

การประชาสัมพันธ์

(1) การประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกร่วมกับห้างฯ โดยจัดส่งจดหมายประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการขายแก่ลูกค้าของห้างฯ ที่อยู่ในฐานข้อมูลผู้ซื้อสินค้าไทย/เอเชียซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักทางอีเมล์ 350,000 ฉบับ

(2) การโฆษณากิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยผ่านทางเวบไซด์ของห้างฯ (www.metro24.de)

(3) โฆษณาสินค้าไทยใน METRO Post จำนวน 2 หน้า ยอดตีพิมพ์ 1.5 ล้านฉบับเพื่อส่งแจกลูกค้าเมโทรฯ ทั่วประเทศ

(4) Hand Out วางแจกลูกค้าบริเวณทางเข้าห้างฯ จำนวนตีพิมพ์ 300,000 ฉบับ

(5) In-store radio สื่อ spot โฆษณาเปิดในห้างฯ ตลอดช่วงการจัดกิจกรรม

(6) ป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรมสาธิตปรุงอาหาร/แจกชิมผลไม้ ขนาด A1 ตั้งวางบริเวณทางเข้าห้างฯ

(7) Banner อาหารไทยและผลไม้ไทย ตั้งบริเวณจุดสาธิตปรุงอาหาร/แจกชิมผลไม้ภายในห้างฯ

(8) ป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการขายและสัปดาห์อาหารไทยในร้านอาหารของห้างฯ ติดบริเวณทางเข้าห้างฯ

(9) ใบปลิวประชาสัมพันธ์ กิจกรรมสาธิตปรุงอาหาร/แจกชิมผลไม้ วางตั้งบนโต๊ะในร้านอาหารของห้างฯ หรือวางแจกบริเวณทางเข้าห้างฯ ที่จัดกิจกรรม

(10) ป้ายประชาสัมพันธ์ผักไทย ติดตั้ง/แขวนในแผนกผักผลไม้สด

สินค้าไทยทวี่ งจำหน่ายในช่วงกิจกรรม จำแนกได้ดังนี้

(1) สินค้าจัดรายการ คัดเลือกจากสินค้ายอดนิยมที่มียอดจำหน่ายสูงเพื่อมาจัดรายการ โดยจัดวางจำหน่ายในราคาพิเศษ ณ จุดจำหน่ายสินค้าพิเศษและ/หรือในชั้นวางปกติแต่มีป้ายแสดงราคาพิเศษ แบ่งเป็นสินค้าอาหารแห้งรวมทั้งสิ้น 7 รายการ และสินค้าผักผลไม้สด 8 รายการ โดยเน้นสินค้าที่ได้รับความนิยมและยอดจำหน่ายสูง (จากข้อมูลการจัดกิจกรรมของปีก่อนหน้าและยอดจำหน่ายของห้างฯ) ได้แก่

        ลำดับที่     สินค้าอาหารแห้ง           ขนาด           ราคาสุทธิ/ยูโร       ราคารวม VAT/ยูโร
          1       กะทิ                    1 ลิตร              1.49                1.59
          2       บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป          60 กรัม             0.23                0.25
          3       น้ำพริกแกงต่างๆ           400 กรัม            1.59                1.70
          4       ข้าวกล้อง                1 กิโลกรัม           1.79                1.92
          5       ข้าวหอมมะลิ              1 กิโลกรัม           1.79                1.92
          6       น้ำจิ้มไก่                 650 มิลลิลิตร         1.39                1.49
          7       ถั่วเคลือบปรุงรสวาซาบิ      140/280 กรัม      2.15/3.09           2.30/3.31

        ลำดับที่     สินค้าผักและผลไม้สด        ขนาด           ราคาสุทธิ/ยูโร       ราคารวม VAT/ยูโร
          1       ยอดหน่อไม้ฝรั่ง            200 กรัม            2.79                2.99
          2       ข้าวโพดอ่อน              125 กรัม            1.29                1.38
          3       พริก                    100 กรัม            1.59                1.70
          4       กระเจี๊ยบเขียว            1 กิโลกรัม           7.99                8.55
          5       ตะไคร้                  100 กรัม            0.79                0.85
          6       มะม่วงน้ำดอกไม้           1 ผล               2.99                3.20
          7       มังคุด                   200 กรัม            3.99                4.27
          8       เงาะ                   400 กรัม            3.99                4.27

(2) สินค้าอื่น ๆ ที่นำเข้าจากประเทศไทย จัดวางจำหน่ายในชั้นวาง รวม 162 รายการ

รวมสินค้าไทยในห้างฯ ทั้งหมดในช่วงจัดกิจกรรมในปี 2553 ทั้งสิ้น 177 รายการ จำแนกเป็นประเภทได้ดังนี้

(1) อาหารกระป๋องและอาหารแห้ง เช่น กะทิ น้ำจิ้มไก่ น้ำพริกแกงต่างๆ ข้าว น้ำปลา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสต่างๆ เป็นต้น

(2) ผักและผลไม้สด เช่น มะม่วง เงาะ มังคุด พริกสด ยอดหน่อไม้ฝรั่ง กระเจี๊ยบและข้าวโพดอ่อน เป็นต้น

(3) ของว่างและของขบเคี้ยว เช่น ถั่วเคลือบปรุงรสชนิดต่างๆ เป็นต้น

สำหรับสินค้าอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและเครื่องดื่ม/เบียร์ซึ่งเคยนำเข้าในปี 2550-2551นั้น ในปีนี้ไม่มีการนำเข้า เนื่องจากยอด จำหน่ายในปีดังกล่าวยังไม่สูงมากนัก ส่วนอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งห้างฯ ยังไม่สามารถหาผู้ผลิต/ส่งออกที่ได้คุณภาพตรงตามความต้องการรวมทั้งสามารถจัดส่งสินค้าได้ทันตามกำหนดได้ ห้างฯ จึงได้พจิ รณาให้ความสำคัญกับการ

สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงจัดกิจกรรม จากสรุปประเมินผลของห้างฯ จำแนกตามประเภทของสินค้า เรียงตามยอดจำหน่ายได้ดังนี้

             (1) กะทิ             (2) น้ำจิ้มไก่
             (3) มะม่วง           (4) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

(5) น้ำพริกแกงแดง (6) พริกสด

             (7) เงาะ            (8) ถั่วเคลือบปรุงรส
             (9) มังคุด            (10) น้ำพริกแกงกะหรี่

ประเภทของกลุ่มลูกค้า กลุ่มลูกค้าหลักที่ให้ความสนใจสินค้าไทยมากที่สุด จำแนกตามยอดจำหน่ายของห้างฯ ในปี 2553 ได้แก่ กลุ่มลูกค้าบริษัทสำนักงานและธุรกิจบริการต่างๆ (SCO) คิดเป็นร้อยละ 63 ของลูกค้าทั้งหมด รองลงมาได้แก่ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหารและธุรกิจ catering (HoReCa) คิดเป็นร้อยละ 30 และกลุ่มค้าปลีก (Trader) คิดเป็นร้อยละ 7

ผลการจัดกิจกรรม

(1) จากการประเมินผลของห้างฯ นับว่ากิจกรรมส่งเสริมการขายในครั้งนี้ประสบความสำเร็จสูงสุด ได้รับการตอบรับจากลูกค้าของห้างฯ อย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากอาหารไทยกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มชาวเยอรมันอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็น

(2) ในวันที่มีการจัดกิจกรรม (วันที่ 16 — 29 กันยายน 2553 รวม 11 วัน) ห้างฯ มียอดจำหน่ายสินค้าจัดรายการรวมทั้งสิ้น 196,210.23 ยูโร หรือประมาณเกือบ 8 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนปี 2553 ประมาณ 40 บาท ในขณะที่ปี 2551-2552 ประมาณ 50 บาทต่อ 1 ยูโร) สามารถเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้าในช่วงจัดกิจกรรมได้มากขึ้นร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับผลการจัดกิจกรรมใน 2552 หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 27.88 เมื่อเทียบกับผลการจัดกิจกรรมใน 2551

ความเห็นเพิ่มเติมของสำนักงาน:

(1) การจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยในครั้งนี้นับเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายระหว่างกรมฯ และห้าง Metro Cash & Carry เป็นครั้งที่สี่ จากสรุปประเมินผลของห้างฯ นับว่าประสบความสำเร็จสูงตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวเยอรมันอย่างดียิ่ง ส่งผลให้ผู้บริโภครู้จักสินค้าจากประเทศไทยมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสินค้าผักผลไม้สด

(2) จากการประเมินผลของห้างฯ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายส่งผลด้านบวกต่อยอดจำหน่ายสินค้าไทยโดยตรงอย่างเห็นได้ชัด โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าวทำให้ห้างฯ นำเข้าสินค้าไทยโดยเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าอาหารแห้งและอาหารกระป๋อง จากสถิติ 3 ปี (ม.ค.-ก.ย.) ห้างฯ นำเข้าสินค้าอาหารแห้งและอาหารกระป๋องจากไทยคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 หรือคิดเป็นหน่วยขาย (selling unit) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18

(3) กลุ่มลูกค้าหลักของห้างฯ เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้าปลีก รวมทั้งบริษัท สำนักงานละธุรกิจบริการต่างๆ ซึ่งซื้อสินค้าในปริมาณมากต่อครั้ง การจัดกิจกรรมร่วมกับห้างฯ จึงเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าไทยอย่างมีประสิทธิภาพในวงกว้าง และเป็นการ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพโดยตรงอย่างมีประสิทธิผล โดยลูกค้าสามารถนำสินค้าไทยไปใช้ประกอบอาหารไทย หรือดัดแปลงไปใช้กับเครื่องดื่ม/ อาหารฟิวชั่น/อื่นๆ ได้ตามความต้องการ

(4) กิจกรรมพิเศษการสาธิตปรุงอาหารและแจกชิมเป็นกิจกรรมหลักที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวเยอรมันมาโดยตลอด โดยมีลูกค้าแวะเข้ามาชมและชิมประมาณวันละ 400-500 คนต่อสาขา จากสถิติที่ผ่านมา สินค้าที่นำมาปรุงสาธิตจะขายได้ในทันทีในปริมาณมาก ลูกค้าที่สนใจแวะมาชิมอาหารส่วนมากเป็นกลุ่มวัยทำงานหรือผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงสำหรับสินค้าอาหารไทย เนื่องจากมีกำลังซื้อและให้ความสำคัญกับสุขภาพโดยส่วนประมาณร้อยละ 60 รู้จักอาหารไทยมาก่อน นอกจากนี้เป็นที่น่า

สังเกตว่ากลุ่มผู้ซื้อในวัยทำงานที่มาลองชิมยังได้นำอาหารให้ลูกของตนเองทดลองชิมด้วย ซึ่งนับเป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักในหมู่คนรุ่นใหม่และจะเป็นผลดีต่อการจำหน่ายและความนิยมอาหารไทยในอนาคต

(5) การแจกเผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์เมนูอาหารในรูปของหนังสือและแผ่นแม่เหล็ก รวมทั้งแผ่นพับผักไทยและผลไม้ไทยให้แก่ลูกค้าที่สนใจชิมอาหารในจุดสาธิตปรุงอาหาร/แจกชิมผลไม้ในสาขาที่จัดกิจกรรมพิเศษ รวมทั้งจัดส่งให้แก่ห้างฯ ทุกสาขาเพอื่ แจกแก่ลูกค้าที่สนใจบริเวณทางเข้าห้างฯ ปรากฎว่าเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเป็นอย่างมากล่าวได้ว่าสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวทำให้การจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างครบวงจร สำหรับเมนูอาหาร

หลังจากที่ได้ทดลองชิมอาหารรวมทั้งสอบถามวิธีทำอาหารและเครื่องปรุงจากพ่อครัว/แม่ครัวแล้ว ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าของไทยที่วางจำหน่ายในห้างฯ กลับไปทดลองทำเองที่บ้านตามเมนูอาหารที่ได้รับแจก

นอกจากนั้นสื่อประชาสัมพันธ์ผักไทยยังทำให้ลูกค้าได้มีโอกาสรู้จักสินค้าไทยเพิ่มมากหลากหลายชนิดขึ้นและทำให้ลูกค้ารู้จักหน้าตาและคุณประโยชน์ของผักสดไทยชนิดต่างๆ ส่งผลให้สามารถกลับมาเลือกซื้อสินค้าได้ถูกต้องเมื่อกลับมาซื้อสินค้าเพื่อนำไปประกอบอาหารเองในภายหลัง สำหรับแผ่นพับผลไม้ไทยทำให้ลูกค้าได้รู้จักประเภท

(6) กิจกรรมใหม่ที่เป็นการประสานงานร่วมกับห้างฯ เพิ่มเติมในปีนี้เป็นปีแรกคือ การเพิ่มเมนูอาหารไทยในร้านอาหารของห้างฯ ปรากฎว่าประสบผลสำเร็จสูงในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงดังกล่าวให้เป็นที่สะดุดตาของลูกค้าของห้างฯ มากยิ่งขึ้น โดยห้างฯ ได้ทำป้ายโฆษณาติดบริเวณทางเข้ารถยนต์ของลูกค้าและในบริเวณต่างๆ ภายในห้างฯ สำหรับเมนูอาหารซึ่งจัดทำโดยพ่อครัวหลักของร้านอาหารห้างฯ และเปลี่ยนเมนูทุกวันก็ได้รับความสนใจพอสมควร แม้ว่าจะเป็นอาหารเอเชียมากกว่าอาหารไทยแท้ก็ตาม ซึ่งในส่วนนี้สคร.แฟรงก์เฟิร์ตได้ประชุมกับผู้บริหารห้างฯและอาจจัดเป็นคอร์สสอนทำอาหารไทยให้แก่พ่อครัวแม่ครัวของห้างฯ อไป

(7) สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายในปีนี้สคร.แฟรงก์เฟิร์ตได้เน้นการแจกชิมผลไม้ไทยเพิ่มมากขึ้นกว่ากิจกรรมในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสินค้าผักผลไม้สดเป็นที่ต้องการของตลาด ห้างฯ จึงเล็งเห็นโอกาสและต้องการส่งเสริมให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงมีการจัดกิจกรรมแจกชิมในสาขาสำคัญ 9 สาขา ปรากฎว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงทุกสาขา จากแบบประเมินผลของผู้จัดสาธิต ชาวเยอรมันให้ความสนใจมะม่วงน้ำดอกไม้ เงาะ และมังคุดเป็นอย่างมาก

7.1 มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามาก จุดขายสำคัญคือรสชาติและความหวานหอม แต่เนื่องจากชาวเยอรมันส่วนมากรู้จักแต่มะม่วงที่นำเข้าจากอเมริกาใต้ซึ่งมีราคาถูกแต่รสไม่หวาน เนื้อแข็งและไม่มีกลิ่นหอมจึงให้ความสนใจที่จะลองชิมน้อยกว่าผลไม้อื่น ผู้จัดสาธิตต้อง เชิญชวนให้ลองชิมให้สำเร็จ เพราะเมื่อลูกค้าได้ลองชิมแล้วกว่าร้อยละ 80 จะติดใจ หากมีราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไปก็จะตัดสินใจซื้อ

7.2 เงาะ เป็นที่นิยมมากเนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาน่าสนใจและมีสีสันสะดุดตา ชาวเยอรมันส่วนมากจะคิดว่าเป็นลิ้นจี่เนื่องจากลิ้นจี่เป็นผลไม้ “exotic” ประเภทเดียวที่เป็นที่รู้จักกว้างขวางและมีรูปร่างใกล้เคียงกับเงาะ ผู้แจกชิมได้อธิบายความแตกต่างและให้ทดลองชิม พร้อมแจกแผ่นพับผลไม้ไทยเพื่อให้ลูกค้านำกลับไปอ่าน

7.3 มังคุด ได้รับความสนใจสูง เนื่องจากรูปร่างหน้าตาแปลกจุดเด่นคือรสหวานกลมกล่อม ลูกค้าส่วนมากไม่รู้วิธีรับประทาน ผู้แจกชิมได้อธิบายวิธีปอก วิธีรับประทานและคุณประโยชน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจและประทับใจในสินค้ามากยิ่งขึ้น

(8) อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญของกิจกรรมส่งเสริมการขายในปีนี้อยู่ที่ผักและผลไม้ไทย จากผลการจัดกิจกรรมสินค้าผักผลไม้ไทยมียอดจำหน่ายลดลงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในสินค้าหลักก็ตาม เนื่องจากปัญหาดังนี้

8.1 คุณภาพของสินค้าบางครั้งยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร เช่น มะม่วงยังไม่สุกได้ที่ ทำให้มีรสเปรี้ยว และไม่สามารถแจกชิมได้ ทำให้เป็นการเสียโอกาสอย่างมาก เนื่องจากโดยปกติแล้วชาวเยอรมันจะให้ความสำคัญกับราคา

8.2 สินค้าผักและผลไม้เป็นสินค้าสด ต้องได้รับการขนส่งและเก็บรักษาอย่างถูกวิธีจึงจะรักษาความสดใหม่ไว้ได้ แต่บุคลากรของห้างฯ ส่วนมากไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง ทำให้สินค้ามีอายุสิ้นกว่าที่ควร มีหน้าตาไม่น่ารับประทาน สคร.แฟรงก์เฟิร์ตจึงได้พยายามแนะนำและให้ความรู้แก่บุคลากรของห้างฯ ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ มาโดยตลอด

8.3 ปัญหาสารตกค้างในผักและผลไม้ของไทย ก่อให้เกิดความสูญเสียทางธุรกิจอย่างมาก หากไทยยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง จะทำให้สูญเสียโอกาส เสียช่องทางการตลาดที่สำคัญและยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสินค้าและประเทศในภาพรวมได้ในที่สุด

(9) จากข้อมูลของห้างฯ การชั้นวางสินค้าและจัดวางสินค้าในจุดวางพิเศษมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อยอดขาย โดยในปีนี้นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านบวกและได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก เนื่องจากชั้นวางสินค้า ออกแบบใหม่ มีความสวยงามสีสันดึงดูดความสนใจ สามารถหยิบสินค้าได้ง่าย ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

(10) จากผลการจัดกิจกรรมดังกล่าว สรุปได้ว่าแนวโน้มการขยายตลาดสินค้าอาหารไทยในอนาคตเป็นไปด้วยดียิ่ง ผู้บริโภคชาวเยอรมันให้ความสนใจและชื่นชอบรสชาติอาหารไทยเป็นอย่างมาก การประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่จะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักและยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง อันจะส่งผลให้สินค้าไทยสามารถเจาะตลาดและเข้าถึงผู้บริโภคชาวเยอรมันได้มากยิ่งขึ้นอย่างถาวรในที่สุด

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ