สหรัฐฯโหมโฆษณาปลาทูน่ากระป๋อง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 24, 2011 13:36 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สภาทูน่าแห่งสถาบันประมงแห่งชาติ (The National Fisheries Institute's Tuna Council) แถลงข่าวการรณรงค์ด้านการตลาด โดยใช้งบหลายล้านเหรียญฯ โฆษณาทางสื่อทีวี, สิ่งพิมพ์ และอินเตอร์เนท หวังจะเพิ่มยอดการขายและกระตุ้นความสนใจผู้บริโภคอเมริกัน โดยจะออกอากาศสปอตโฆษณา ประมาณ ๑๕-๓๐ วินาทีในรายการทีวีดังๆ อาทิ Oprah, Today และ 60 Minutes

นับเป็นครั้งแรกที่สามแบรนด์ยักษ์สินค้าปลาทูน่ากระป่องในสหรัฐฯ StarKist, Bumble Bee และ Chicken of the Sea ร่วมมือกันรณรงค์ด้านการตลาดอย่างหนัก โดยจับมือกันเพื่อทำประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดในครั้งนี้ และมีบริษัทผู้ผลิตปลาทูน่ารายใหญ่ของไทยเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลัง

คำขวัญในการรณรงค์คือ "Tuna The Wonderfish"

ในวันจันทร์ สปอตที่จะออก ๑๕-๓๐ วินาที จะเริ่มใน Network และ Cable TV เป็นเรื่องราว แม่บ้านชื่อ Joy ส่งเสริมปลาทูน่ากระป๋องว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ นำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด สะดวก และราคาไม่แพง โดยจะยิงสปอตในช่วงเช้าและเย็น ระหว่างรายการดังๆ เช่น Oprah, Today, 60 Minutes, Conan และ Modern Family ในสปอตดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า "Latin Lovers" Joy จะพูดว่า ปลาทูน่าเป็นแหล่งธรรมชาติของ Omega-3 และดีต่อหัวใจ สรุปด้วยคำขวัญ "Tuna The Wonderfish" และ Website : www.tunathewonderfish.com.

สปอตอีก ๒ เรื่องจะเป็นเรื่องของนักบินอวกาศ และนักกระโดดบันจี้ โดยนักบินอวกาศจะอ้าง ทูน่าเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุขภาพ แคลอรี่ต่ำ และทำให้ลดน้ำหนักได้ ส่วนนักกระโดดบันจี้ จะพูดว่าทูน่าเป็นอาหารที่ เร็ว และเหมาะกับ Active Lifestyle

การรณรงค์ด้านการตลาดครั้งนี้ มุ่งจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคสร้างสรรและคิดเกี่ยวกับเมนูอาหารที่ทำจากทูน่า ให้แตกต่างออกไปจากของเดิมๆ (สลัดทูน่า/แซนด์วิชทูน่า) เป็นรูปแบบใหม่ๆ เช่น Tuna Pasta, Tuna Tacos, Tuna Fajitas, Tuna Bruschetta และ Tuna Paninis

นอกเหนือจากสปอตทีวีแล้ว จะมีสิ่งพิมพ์โฆษณาในวารสารด้าน Fitness, Family และ Cooking และจะมีป้ายโฆษณา (Billboards) ใน Health Clubs และใน Website

สภาทูน่าใช้บริษัทโฆษณา Grey New York ในการพัฒนาแคมเปญครั้งนี้

StarKist, Bumble Bee และ Chicken of the Sea ได้พยายามทำการตลาดในช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มยอดการขายสินค้าปลาทูน่ากระป๋อง

ในอดีตปลาทูน่ากระป๋อง โดนโจมตีในปี ๒๕๔๗ เมื่อ หน่วยงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) และ หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency) เตือน หญิงมีครรภ์ ผู้ดูแลคนเจ็บป่วย และเด็กเล็ก ให้จำกัดการบริโภคอาหารทูน่าอยู่ที่ ๖ ออนซ์/สัปดาห์ เนื่องจากเสี่ยงต่อสุขภาพเกี่ยวกับโรค Neurotoxin Methylmercury จากคำเตือนดังกล่าวทำให้คนอเมริกันจำนวนมากหยุดซื้อปลาทูน่ากระป๋องไปเลย หลังจากนั้นการขายปลาทูน่ากระป๋องเริ่มกระเตื้องขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เป็นที่น่าสังเกตุว่า การออกข่าวเรื่องโฆษณาปลาทูน่ากระป๋อง เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวเรื่อง Bumble Bee ถูกฟ้องขึ้นศาลไม่กี่วัน โดยผู้บริโภครายหนึ่งชื่อ Mr.Lee Porazzo จากเมือง White Plain รัฐนิวยอร์ก ได้ฟ้องต่อศาลว่า ร่างกายได้รับสารพิษ Mercury เนื่องจากการบริโภคปลาทูน่ากระป๋องของ Bumble Bee แต่เมื่อนำเรื่องขึ้นศาล ข้อมูลที่ปรากฎคือ Mr. Porazzo บริโภคปลาทูน่ากระป๋องถึง ๕๓๘ ปอนด์ หรือประมาณกระป๋องขนาด ๖ ออนซ์จำนวน ๑,๔๓๔ กระป๋อง ในเวลา ๓๓ เดือน ซึ่งศาลพิจารณาว่าเป็นเรื่องไม่ปรกติของการบริโภคในปริมาณเช่นนี้ และทาง Bumble Bee ก็แก้ต่างว่า Mr. Porazzo ควรจะต้องทราบดีว่าปลาทั่วไปจะต้องมีปริมาณสาร Mercury อยู่แล้ว ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตไม่ได้ใส่เข้าไปในกระป๋อง ส่วน Mr. Porazzo โต้ว่า เขาบริโภคปลาทูน่ากระป๋องเกือบทุกวัน เพราะคิดว่าเป็นอาหารโปรตีนที่สะอาดที่สุด เรื่องนี้คงต้องดูกันต่อไปว่าจะจบลงอย่างไร

ปัจจุบันปลาทูน่ากระป๋องยังคงเป็นอาหารทะเลอันดับสองรองจากกุ้ง การบริโภคปลาทูน่ากระป๋องต่อหัว เฉลี่ย ๒.๕ ปอนด์ในปี ๒๕๕๒ โดยลดลงจาก ๒.๘ ปอนด์ในปี ๒๕๕๑ และในปี ๒๕๔๖ซึ่งเป็นปีก่อนที่จะมีประกาศเตือนของ FDA การบริโภคต่อหัวสูงถึง ๓.๔ ปอนด์

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ