ในปี 2553 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญในเขตปกครองตนเองหนิงเซียะ ที่มีมูลค่าการผลิตเกินกว่า 100 ล้านหยวน (หรือเกินกว่า 500 ล้านบาทโดยประมาณ) มีจำนวน 275 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งหมด ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมในภาพรวมของภูมิภาค โดยอุตสาหกรรมหลัก 7 อุตสาหกรรมสำคัญ ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค มีดังนี้ อุตสาหกรรมโลหะ อุตสาหกรรมโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก (Non-ferrous metals) อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมยาสูบ อุตสาหกรรมเครื่องจักร อุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์ และอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งมีบทบาทอย่างยิ่งในการกระตุ้นอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภูมิภาคให้เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 64.3 จากการคำนวณของเจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติแห่งเขตปกครองตนเองหนิงเซียะและสำนักงานสถิติ แห่งชาติ พบว่า ปี 2553 อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภูมิภาคสร้างมูลค่าเพิ่ม 55,289 ล้านหยวน เติบโตร้อยละ 16.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ปัจจัยหลักที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมในเขตปกครองตนเองหนิงเซียะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้แก่
1. ความต้องการของตลาด ในปี 2553 การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 20.8 ซึ่งการลงทุนดังกล่าวนำมาซึ่งความต้องการในสินค้าที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับการเติบโตของยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 19 ทำให้ความต้องการในสินค้าที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน
2. การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า ในปี 2553 ราคาสินค้าที่จำหน่ายออกจากโรงงานเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 9.1 ทำให้ผู้ประกอบการเห็นโอกาสทำกำไรจากช่องว่างของราคาที่สูงขึ้น จึงเร่งเพิ่มการผลิตอย่างเต็มกำลัง
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: เว็บไซต์ Ministry of Commerce of the People’s Republic of China 20 มกราคม 2554
ที่มา: http://www.depthai.go.th