ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป โปแลนด์เพิ่มอัตราภาษี ดังนี้
ภาษีสินค้าและบริการ ที่จากเดิมเก็บภาษีในอัตรา ร้อยละ 22 เพิ่มเป็นร้อยละ 23 ประเภทที่เดิม ร้อยละ 7 เพิ่มเป็นร้อยละ 8 และประเภทที่เดิมร้อยละ 3 เพิ่มเป็นร้อยละ 5
สำหรับสินค้าอาหาร ประเภทผักและผลไม้สด ซึ่งเดิมภาษีร้อยละ 3 และประเภทเนื้อสัตว์และเนย ภาษีร้อยละ 7 จะปรับภาษีให้ใช้อัตราเดียวกันหมด คือ ร้อยละ 5
การเพิ่มภาษีสินค้าและบริการ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและขนส่งสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น เช่น พลังงานและเชื้อเพลิง มีราคาสูงขึ้น ดังนั้นสินค้าทั่วไปในท้องตลาดปัจจุบันจึงราคาสูงขึ้นประมาณ ร้อยละ 10
ผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศ
สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม - คาดว่า การเพิ่มภาษีไม่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าลง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ประชาชนมีรายได้สูง
สินค้าอุปโภคบริโภค — คาดว่า ผู้บริโภคก็ไม่ชะลอการซื้อสินค้าประจำวันที่จำเป็น แต่สินค้าที่ราคาสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ ในช่วงแรกอาจมีการชะลอบ้าง แต่ก็จะคืนสู่ภาวะปกติ
ผลกระทบต่อสินค้าไทย
การขึ้นภาษีส่งผลกระทบต่อสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยไม่มาก กลุ่มผู้บริโภคสินค้าจากไทยเป็นกลุ่มคนชั้นกลางค่อนข้างสูง ไปจนถึงระดับสูง มีรายได้มากเพียงพอ อีกทั้งสินค้าไทยส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในตลาดโปแลนด์ เป็นสินค้าราคาระดับปานกลาง การที่ภาษีเพิ่มขึ้นเพียง ร้อยละ 1 ไม่ส่งผลกระทบมากต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า
ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมหรือสินค้าทุน เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ชิ้นส่วนยานพาหนะและอะไหล่ยานยนต์ ที่นำไปเป็นส่วนประกอบการผลิตเพื่อการส่งออกและจำหน่ายในประเทศนั้น การส่งออกจากไทยขึ้นอยู่กับโรงงานผลิต และสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งการขึ้นภาษีไม่น่าจะเป็นปัจจัยหลักในการสั่งซื้อจากไทย
ที่มา: http://www.depthai.go.th