สรุปสภาวะเศรษฐกิจประเทศเอสโตเนีย 2010 และคาดการณ์ปี 2011

สรุปสภาวะเศรษฐกิจประเทศเอสโตเนีย 2010 และคาดการณ์ปี 2011

                                             2010           2011
          การเติบโตทางเศรษฐกิจ                1.785            3.5
          อัตราเงินเฟ้อ                        2.537           1.99
          อัตราว่างงาน                       17.547         16.377
          ประชากร                      1.33 ล้านคน     1.33 ล้านคน

เศรษฐกิจเอสโตเนียกลับฟื้นคืนสู่สภาพปกติ หลังจากที่ประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปี 2008 รัฐบาลเอสโตเนียใช้นโยบายเศรษฐกิจที่มีเข้มงวด ปรับโครงสร้างภายใน ทำให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี

ก่อนปี 2008 สภาพเศรษฐกิจของเอสโตเนียเติบโตเร็วมาก แต่ขาดความมั่นคง ค่าเงินผันผวนไม่คงที่ เอสโตเนียได้มีการจัดเก็บสะสมเงินสำรองในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูหลายปีติดต่อกัน ปลายปี 2007 เอสโตเนียมีเงินสำรองสูงถึง 1.5 พันล้านยูโร ดังนั้นในช่วงปี 2008 — 2009 จึงสามารถนำเงินจำนวนนี้มาใช้ นอกจากนี้ รัฐบาลใช้กลยุทธที่รวดเร็วและหลากหลายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งการนำเงินสำรองประมาณ 1.2 พันล้านยูโร ออกมาใช้พยุงเศรษฐกิจในส่วนของภาคเอกชนและภาคประชาชน แต่ในส่วนของสถาบันการเงิน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นของต่างชาติมีความเข้มแข็งมาก รัฐบาลไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ

ปี 2010

ด้านการคลัง

เอสโตเนียมีรายได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ การขาดดุลบัญชีของภาครัฐเหลือเพียง ร้อยละ 1.7 ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในปี 2009 ลดจาก ร้อยละ 2.8 ในปี 2008 งบดุลของภาครัฐจึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคลังที่สหภาพยุโรปกำหนด เอสโตเนียจึงสามารถระบบเงินตรามาใช้เงินยูโรได้ในต้นปี 2011 นี้

ด้านอุตสาหกรรม การค้า และการลงทุน

เศรษฐกิจในปี 2010 ขยายตัวเป็นผลมาจากการส่งออกและการลงทุนซึ่งเป็นผลมากจากเงินกองทุนสหภาพยุโรป ด้านการค้าภายใน

แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นมากในปี 2010 แต่ในด้านการใช้จ่ายครัวเรือนยังไม่สูง เนื่องจากประชาชนยังไม่มั่นใจในสภาวพโดยรวม และอัตราการว่างงานยังสูง

ปี 2011

หลังการการเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินยูโรแล้ว นักลงทุนต่างชาติน่าจะเข้ามาลงทุนในเอสโตเนียเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็งและเพิ่มการจ้างงาน

มีแนวโน้มที่เศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวในระยะช่วงหลังของปี ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่มีการเปลี่ยนระบบค่าเงิน ประชาชาชนจะยังไม่ใช้จ่ายมาก เพราะต้องปรับตัวกับการใช้เงินยูโร เมื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานลดลง ประชาชนมั่นใจในระบบการเงินและเศรษฐกิจ การประชาชนจะนำเงินสะสมออกมาใช้จ่าย หลังจากที่ชะลอการใช้จ่ายมาระยะหนึ่ง

นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการในปี 2011 คือ เรื่องของการปรับปรุงบรรยากาศการทำการค้า การพัฒนาตลาดแรงงาน ระบบภาษี และสาธารณูปโภค

การส่งอออกและการลงทุนของไทย

เศรษฐกิจเอสโตเนียมีเสถียรภาพ และมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น กำลังซื้อในตลาดเพิ่มขึ้น โอกาสในการซื้อสินค้าจากประเทศไทยก็มีมากขึ้นด้วย แต่เอสโตเนียเป็นประเทศขนาดเล็ก ประชากรเพียง 1.33 ล้านคน ดังนั้นปริมาณการสั่งซื้อสินค้าไม่สูง อีกทั้ง นักธุรกิจเอสโตเนียนิยมซื้อสินค้าผ่านประเทศใกล้เคียง เช่น ฟินด์แลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ เนื่องจากความสะดวก ไม่ต้องรับภาระการนำเข้าสินค้าจากประเทศนอกสหภาพยุโรป และมีต้องมีภาระด้านการเก็บสินค้า

สินค้าไทยที่เข้าไปจำหน่ายในเอสโตเนียเป็นสินค้าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ สินค้าอุปโภคบริโภคยังมีไม่มาก ชาวเอสโตเนียยังไม่รู้จักประเทศไทยมากนัก ประชาชนในเมืองหลวงเริ่มรู้จักอาหารไทยและนวดไทยบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมสูง สินค้าไทยมีโอกาสขยายตัวในเอสโตเนีย แต่คงไม่รวดเร็วมากเหมือนในประเทศอื่น

ที่มา: http://www.depthai.go.th

---