“พาณิชย์” เปิดงาน Lao-Thai trade Exhibition เตรียมบุกตลาดลาวตามยุทธศาสตร์ 3 วงแหวน 5 ประตูการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 25, 2011 17:29 —กรมส่งเสริมการส่งออก

“พาณิชย์” เปิดงาน Lao-Thai trade Exhibition เตรียมบุกตลาดลาวตามยุทธศาสตร์ 3 วงแหวน 5 ประตูการค้า

พร้อมสนองนโยบาย รัฐฯ ใช้ Logistic เปิดประตูการค้าไร้พรหมแดน คาดปี’ 58 โกยเงินได้กว่า 1 ล้านล้านบาท

กลยุทธ์ใหม่จะใช้วิธีให้ไทยจับคู่เพื่อนบ้านจัดประชุมซัมมิตและบิสซิเนส ฟอรัม รายประเทศ เน้น 4 สาขาหลัก ได้แก่การค้า การลงทุน โลจิสติกส์ ท่องเที่ยว ซึ่งนำร่องกับ สปป.ลาว เป็นประเทศแรกเพื่อร่วมกันสร้างกลไกให้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไปเมื่อเกิดปัญหาหรืออุปสรรคจะใช้เวทีนี้ทำหน้าที่แก้ไขร่วมกันทันที เพราะในโครงสร้างจะมีสำนักงานถาวรตั้งตัวแทนของ 2 ฝ่าย เข้ามาทำงานร่วมกันในนามสภาธุรกิจ และใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนด้วยโมเดลการแก้ปัญหาพันธกิจการค้าและการร่วมทุนทางการค้า

นายอลกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เผยว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนด “ยุทธศาสตร์ 3 วงแหวน 5 ประตูการค้า” โดยให้ความสำคัญในการเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศ และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคการค้าต่างประเทศของไทย โดยการผลักดันเส้นทางการค้าใหม่ (New Trade Lane) ใน 3 วงแหวนหลัก ได้แก่ วงแหวนแรก คือ ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ วงแหวนที่ 2 คือ อาเซียน + 3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) และวงแหวนที่ 3 คือ อาเซียน + 6 (อาเซียน + 3 และอินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ กระจายสินค้าและบริการสู่ตลาดโลกอย่างมีประสิทธิภาพโดยผ่าน 5 ประตูการค้า ได้แก่ ประตูใต้ (ไทย-มาเลเซีย) ประตูอีสาน (ไทย-ลาว) ประตูตะวันออก (ไทย-กัมพูชา) ประตูเหนือและตะวันตก (ไทย-พม่า) โดยกำหนดให้จัดกิจกรรมตามประตูต่างๆ 3 กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การจัดการประชุมผู้นำภาครัฐและเอกชน กิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า และงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศ

ในปี 2554 กรมส่งเสริมการส่งออกมีแผนในการบุกตลาดอาเซียนรวมเกือบ 70 ครั้งโดยในครั้งแรกจะจัดงานแสดงสินค้า Loa-Thai Trade Exhibition และมีกิจกรรม “พัวพันการค้าลาวไทยสู่อาเซียนครั้งที่ 1” (The 1st LAOS THAI Business Cooperation To AEC) ช่วงระหว่างวันที่ 26 — 30 มกราคม 2554 ณ ศูนย์แสดงสินค้า ลาว-ไอเทค (LAO — ITECC) กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว งานนี้จัดชึ้นเพื่อแสดงสินค้าทั้งของไทยและของ สปป.ลาว โดยกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นผู้จัดงานร่วมกับกรมเจรจาการค้า และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานของ สปป.ลาว ได้แก่กรมการนำเข้าและส่งออก สปป.ลาว โดยจะมีคูหาในงานทั้งหมด 296 คูหา แบ่งเป็นคูหาจากส่วนกลาง 182 คูหา และส่วนภูมิภาคของไทย 64 คูหา และผู้ประกอบการลาว 50 คูหา ซึ่งในเบื้องต้นทาง สปป.ลาว มีความสนใจที่จะให้นักลงทุนไทยมาลงทุนในลาวด้านศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ศูนย์ฝึกฝีมือแรงงาน และต้องการให้นักลงทุนไทยเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับ UP Stream Industry สำหรับแร่ทองแดง การผลิต Ethanol จากกากน้ำตาล และกากมันสำปะหลัง รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากไม้

นายอลงกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ใหม่จะใช้วิธีให้ไทยจับคู่เพื่อนบ้านจัดประชุมซัมมิตและบิสซิเนส ฟอรัม รายประเทศ เน้น 4 สาขาหลัก ได้แก่การค้า การลงทุน โลจิสติกส์ ท่องเที่ยว ซึ่งนำร่องกับ สปป.ลาว เป็นประเทศแรกเพื่อร่วมกันสร้างกลไกให้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไปเมื่อเกิดปัญหาหรืออุปสรรคจะใช้เวทีนี้ทำหน้าที่แก้ไขร่วมกันทันที เพราะในโครงสร้างจะมีสำนักงานถาวรตั้งตัวแทนของ 2 ฝ่าย เข้ามาทำงานร่วมกันในนามสภาธุรกิจ และใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนด้วยโมเดลการแก้ปัญหาพันธกิจการค้าและการร่วมทุนทางการค้า และงานต่อไปจัดที่กรุงพนมเปญประเทศกัมพูชาระหว่างวันที่ 17-20 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่องานว่า The 1st CAMBODIAN - THAI Business Summit 2011 (CTBS 2011) และในงานนี้ทางไทยยังได้รับเกียรติจาก ดร.จอม ประสิทธิ์ รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาเป็นประธานในพิธีเปิดงานดังกล่าว

ทั้งนี้นายอลงกรณ์ ยังเปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการโลจิสติกส์การค้า กระทรวงพาณิชย์ปี 2544 ว่า ได้ร่วมกับรัฐบาลของพม่าและภาคเอกชนไทยเร่งขยายผลตลาดการค้าผ่าน 3 วงแหวน 5 ประตู อนาคตจะพัฒนาขีดความสามารถเป็นเส้นทางการค้าโลก ไร้พรมแดนสายใหม่ หรือ Global New Trade Lane ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีจุดแข็งครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน คือแรงงานจำนวนมากค่าจ้างต่ำ วัตถุดิบครบทุกสาขาการผลิต ต้นทุนโลจิสติกส์ต่ำ ขีดความสามารถด้านการตลาด มีผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่พร้อมจะเป็นลูกค้า มีทั้งจากเอเชีย-แปซิฟิกและใต้ แอฟริกา สหภาพยุโรป รวมกันไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านคน และในงานนี้ทางไทยยังได้รับเกียรติจาก ดร.จอม ประสิทธิ์ รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาเป็นประธานในพิธีเปิดงานดังกล่าว

“รัฐบาลไทยได้ประกาศจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2554 เต็มรูปแบบ โดยใช้ "การขนส่ง" (logistic) เปิดประตู "การค้าไร้พรมแดน" ท้าทายด้วยการตั้งเป้าจะเพิ่มเม็ดเงินรายได้การค้าหมุนเวียนขยับขึ้นมาให้ได้อีกปีละ 2 แสนล้านบาท จากปัจจุบัน 8 แสนล้านบาทในอนาคตก่อนเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Co-peration : AEC) ปี 2558 รายได้ทางการค้าจะก้าวกระโดดเป็นปีละ 1 ล้านล้านบาท” นางอลงกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก logistic   Trade   แหวน   ลาว   GIS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ