สถานการณ์การค้าข้าวในแคนาดา มกราคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 31, 2011 17:05 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สินค้า

ข้าว (HS1006) (ตามลำดับสถิตินำเข้า จากไทย ม.ค. — พ.ย.2553)

1) ข้าวที่สีบ้างแล้ว หรือสีทั้งหมด จะขัดหรือไม่ก็ตาม (HS 100630): 77.451 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+26.89%)

2) ปลายข้าว (HS 100640): 0.833 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+2.69%)

3) ข้าวกล้อง (HS 100620): 0.518 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+147.60%)

4) ข้าวเปลือก (HS 100610): แคนาดาไม่มีการนำเข้าจากไทย

ขนาดของตลาดแคนาดา

การผลิต/การบริโภค

  • จากรายงาน Food Statistics ของหน่วยงานรัฐฯ Statistic Canada ระบุว่าในปี2553 นั้น ชาวแคนาดา (Average
Canadian) บริโภคข้าวประมาณ 7.1 กก. ต่อปี(+1.3%)
  • กลุ่มผู้บริโภคข้าวเป็นหลักในแคนาดา ได้แก่กลุ่มผู้บริโภค ชาวเอเชีย และ ชาวตะวันตก (ประเทศแคนาดามีประชากร ประมาณ
33 ล้านคน)
  • ประเทศแคนาดามีการผลิตข้าว Wild Rice มีราคาแพง มีไฟเบอร์สูง ทั้งนี้ แคนาดาไม่มีการผลิตข้าวหอมมะลิ หรือข้าวขาวอื่นแต่

อย่างใด

การนำเข้า/ส่งออก

นำเข้า (HS 1006)

  • จากทั่วโลก: เดือน ม.ค.- พ.ย. 2553 มูลค่า 279.074 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+3.11 %)
  • จากไทย : เดือน ม.ค.-พ.ย. 2553 มูลค่า 78.802 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+26.98 %)

ส่งออก (HS 1006)

  • ไปยังทั่วโลก: เดือน ม.ค.- พ.ย. 2553 มูลค่า 4.167 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-42.81 %)
  • ไปยังไทย : เดือน ม.ค.-พ.ย. 2553 มูลค่า 0.058 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+/- 0%)

ช่องทางการจำหน่าย

  • ผ่านผู้นำเข้า และค้าส่งไปยัง Chain Store หรือร้านค้าปลีก เพื่อจำหน่ายต่อไปยังผู้บริโภค
  • ผ่านผู้นำเข้าสินค้า Asian Grocery ที่มีห้างร้านและเครือข่ายห้าง ร้านสำหรับกระจายสินค้าเป็นของตัวเอง

พฤติกรรมผู้บริโภค

กลุ่มผู้บริโภคข้าวเป็นหลักในแคนาดา ได้แก่ กลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชียและชาวตะวันตกในเมืองสำคัญๆ ของประเทศ โดยกลุ่มผู้บริโภคข้าวที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา คือ จีน รองลงมาได้แก่ผู้บริโภค จากกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ทั้งนี้ ประเทศแคนาดามีชาวเอเชียที่โอนสัญชาติ เข้ามาอาศัยในประเทศแคนาดามากขึ้นทุกปี ส่งผลให้การบริโภคข้าวเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในแคนาดามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บริโภคชาวเอเชียนิยม อาศัยในบริเวณเขตเมืองสำคัญๆ ของประเทศส่งผลให้การประชาสัมพันธ์ข้าวเป็นไปได้ช้า เนื่องจากชาวแคนาดา (ชาว Caucasian) ในเมืองรอบ นอกไม่มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมการบริโภคข้าวอย่างถูกต้องได้

การค้าในประเทศ

ราคาขายส่ง/ปลีก

สรุปราคาข้าว ณ ม.ค. 2554 ในนครแวนคูเวอร์

  • ข้าว Indian Basmati: ขนาดถุง 10 lb — ราคาประมาณ 8.95-9.95 เหรียญแคนาดา
  • ข้าวหอมมะลิไทย: ขนาดถุง 40 lb — ราคาประมาณ 30.95 เหรียญแคนาดา/ ขนาดถุง 8 กก. ราคา 13.95 เหรียญแคนาดา
  • ข้าว Long Grain (White) ไทย: ขนาดถุง 40 lb — ราคาประมาณ 18.95 เหรียญแคนาดา
  • ข้าว Long Grain (White) เวียดนาม: ขนาดถุง 40 lb — ราคาประมาณ 17.95 เหรียญแคนาดา

คู่แข่ง

ตามสถิติการนำเข้าม.ค.- พ.ย. 2553 (% จากสัดส่วนนำเข้าทั้งหมด)

สหรัฐฯ (50.87%)

ไทย (28.24%)

อินเดีย (14.72%)

ปากีสถาน (3.56%)

อิตาลี(0.85%)

เวียดนาม (0.34%)

ออสเตรเลีย (0.29%)

SWOT

1. จุดแข็ง (Strength)

  • ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวมีกลิ่นหอม คุณภาพดี
  • ข้าวหอมมะลิมีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคแคนาดาที่รับประทานข้าวเป็นอาหารหลักโดยเฉพาะชาวเอเซีย
  • ข้าวหอมมะลิไทยแพร่หลายในแคนาดาเป็นเวลาช้านาน
  • ประเทศไทยมีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับว่าเป็นทั้งผู้ผลิต และบริโภคข้าวเป็นหลัก
  • ประเภทข้าวที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคแคนาดานั้น ข้าวไทยถือว่าเป็นข้าวที่มีราคาค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับ ข้าวญี่ปุ่น ข้าวบาสมาติ ข้าวเกาหลี หรือข้าว Risotto

2. จุดอ่อน (Weakness)

  • การบรรจุและรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยซึ่งเน้นผู้บริโภคกลุ่มเดิมมากกว่ารูปแบบที่ทันสมัยและแปลกตา
  • ราคาข้าวโดยเฉลี่ยของไทยสูงกว่าราคาข้าวจากสหรัฐอเมริกา
  • ลูกค้ากลุ่มใหม่ไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เนื่องจากไม่ทราบวิธีหุง (แม้กระทั่งการหุงจากหม้อหุงข้าวไฟฟ้า) และที่บรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่ก็ไม่มีแสดงวิธีการหุงและบริโภคกำกับไว้ อย่างเช่นบรรจุภัณฑ์ของสินค้าข้าวจากสหรัฐอเมริกา
  • การโฆษณาประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยในตลาดแคนาดายังมีไม่มากและไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร

3. โอกาส (Opportunity)

  • ประเทศแคนาดามีชาวเอเชียที่โอนสัญชาติเข้ามาอาศัยในประเทศแคนาดามากขึ้นทุกปี ส่งผลให้การบริโภคข้าวเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในแคนาดามากยิ่งขึ้น
  • ผู้นำเข้าข้าวไทยมักมีการวางแผนการตลาดเชิงรุก และมีการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในแคนาดาอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และพยายามเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ทุกระดับรายได้ โดยใช้กลยุทธสร้างแบรนด์เนมหลากหลายแตกต่างกัน อาทิ เมื่อกลางปี2553 ผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของฝั่งแคนาดาตะวันตก ได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายข้าวไทย ร่วมกับห้าง/ร้านค้าในเครือ Overwaitea Food Group มากกว่า 120 ร้านค้า และได้ผลตอบรับอย่างดีมาก ทำให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักในตลาดแคนาดามากขึ้น
  • ผู้นำเข้าข้าวไทยส่วนใหญ่ เป็นผู้ประกอบการเก่าแก่และมีความคุ้นเคยดี กับผู้ส่งออกไทยในลักษณะพันธมิตรทางการค้า
  • ภูมิอากาศของประเทศแคนาดาไม่เหมาะสมกับการเพาะปลูกข้าว จึงต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ
  • ไม่มีการกีดกันทั้งภาษี หรือ NTB เนื่องจากเป็นสินค้าที่ประเทศแคนาดาไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ
  • ท่าเรื่อ Port of Vancouver เป็นท่าเรือ ที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากเป็นท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ มีกำลัง Storage Capacity มหาศาล และเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายหลัก ตลอดจนเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างทวีป (Intercontinental Railway) ทั้ง 3 สาย ทั้งนี้ Port Of Vancouver ยังเป็นจุดที่เชื่อมเอเชียแปซิฟิก กับทวีบอเมริกาเหนือที่ใกล้ที่สุด โดยการขนส่งทางทะเลนั้น

ใช้เวลาเพียง 24 วัน (เร็วกว่าขนส่ง เอเชียแปซิฟิก-อเมริกา ถึง 2-3 วัน) ท่าเรือน้ำลึกอื่นๆ ในประเทศได้แก่ Port of Alberni, Port of Prince Rupert และ Crofton

4. ภัยคุกคาม (Threat)

  • การที่ผู้บริโภคชาวเอเชียนิยมอาศัยในบริเวณเขตเมืองสำคัญๆ ของประเทศส่งผลให้การประชาสัมพันธ์ข้าวเป็นไปได้ช้า เนื่องจากชาวแคนาดา (ชาว Caucasian) ในเมืองรอบนอกไม่มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมการบริโภคข้าวอย่างถูกต้องได้
  • ผู้บริโภคชาวแคนาดาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่เป็นชาว Caucasian ยังไม่คุ้นเคยกับการบริโภคข้าวมากนัก
  • สหรัฐมีการวิจัยด้านพันธุ์ข้าวอย่างต่อเนื่อง (อาทิ ข้าว Jazzmen) ซึ่งมีการพัฒนาคุณภาพและเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ
  • ปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุด ทั้งด้านส่งออกและนำเข้า ทำให้การที่สหรัฐฯ มุ่งเน้นการผลิตข้าวเพื่อส่งออก มีผลเป็นทวีคูณ ด้านการแย่งส่วนแบ่งตลาดนำเข้าข้าวไทย (ปัจจุบันแคนาดานำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ เป็นอันดับ 1 (มูลค่า 141.973 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และไทยเป็นอันดับ 2 (มูลค่า 78.802 ล้าน เหรียญสหรัฐฯ)
  • จากผลกระทบเศรษฐกิจโลก และวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนแคนาดาจึงมีระดับ Consumer Spending ลดลง รวมทั้ง การปรับอัตราภาษีGoods & Services Tax ในมณฑลบริติชโคลัมเบียจากร้อยละ 5 เป็น ร้อยละ 12 ทำให้ประชาชนลดจำนวนการทานอาหารนอกบ้านลง

เกณฑ์การวิเคราะห์สถิติการค้ารายเดือนในสินค้า 10 หมวดของสคร. แวนคูเวอร์

เนื่องด้วยสินค้าในแต่ละ 10 หมวดสำคัญสามารถตีความได้กว้าง ครอบคลุมได้หลายพิกัดสินค้า (ตาม Harmonized System Code) ดังนั้น เพื่อความชัดเจน เที่ยงตรงของการรายงานข้อมูล สคร. มีเกณฑ์การคัดเลือกพิกัดสินค้าเพื่อการวิเคราะห์สถานการณ์รายหมวดสินค้าสำคัญ ดังนี้

1. พิกัดสินค้าดังกล่าว ประเทศแคนาดามีการนำเข้าจากไทยในปัจจุบันจริง

2. พิกัดสินค้าดังกล่าว มีมูลค่านำเข้าสูง ในหมวดสินค้านั้นๆ เพื่อสามารถแสดงถึงภาพรวมภาวะการค้าระหว่างไทย-แคนาดาได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้น

ในกรณีสินค้าข้าว สคร. พิจารณาใช้พิกัดสินค้า 1006

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ