รายงานเรื่อง ญี่ปุ่นพึ่งพาเศรษฐกิจเอเชียมากขึ้น

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศสถิติการค้าระหว่างประเทศประจำปี 2010 ออกมา ซึ่งจากมูลค่าการค้ารวมทั้งนำเข้าและส่งออก ตลาดเอเชียครองสัดส่วนมากถึงร้อยละ 51 โดยเป็นครั้งแรกที่มากกว่าครึ่งหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาเศรษฐกิจของประเทศเอเชียมากขึ้น

มูลค่าการค้ารวมทั้งนำเข้าและส่งออกของปี 2010 คือ 128.416 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับการลดลงร้อยละ 33.9 เมื่อปี 2009 ที่ได้รับผลกระทบจากลีห์แมนช็อคแล้ว ก็สามารถกล่าวได้ว่า การค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้น ปัจจัยหลัก คือ ประเทศพัฒนาใหม่ในเอเชียที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

มูลค่าการค้ารวมกับเอเชีย อยู่ที่ 65.3028 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 24.8 สัดส่วนมูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.5 จุด นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งเป็นปีที่สามารถทำการเปรียบเทียบได้ ทั้งนี้ สัดส่วนของเอเชียเพิ่มขึ้นประมาณ 10 จุด ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ในทางตรงกันข้าม สัดส่วนของประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ร้อยละ 12.7 ซึ่งลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในช่วง 10 ปีเดียวกัน

หากดูจากอัตราการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าของมูลค่าการค้าโดยรวมแล้ว ประเทศกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.6 กลุ่มประเทศ NIES (Newly Industrializing Economies) เช่น เกาหลี ไต้หวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 ซึ่งมากกว่าประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3

ประเทศกลุ่มอาเซียนทำข้อตกลง FTA กับประเทศจีนและอินเดีย เป็นต้น บริษัทญี่ปุ่นจึงใช้เป็นฐานการส่งออก เช่น Nissan Motor Co., Ltd. ที่ทำการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กรุ่น “March” ในประเทศไทย แล้วส่งออกกลับมายังญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นต้น บริษัทญี่ปุ่นที่มีธุรกิจอยู่ในประเทศจีนนั้น มีปัจจัยที่ต้องกังวล เช่น ค่าแรงที่ถีบตัวสูงขึ้นและความเสี่ยงด้านการเมือง เป็นต้น นักเศรษฐศาสตร์ (จากบริษัทเงินทุนต่างชาติ) กล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ว่า บริษัทญี่ปุ่นจะย้าย Managerial Resources ซึ่งเคยรวมอยู่ที่ประเทศจีน ไปยังประเทศเอเชียอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ การส่งออกมีมูลค่า 67.4059 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่เพิ่มขึ้น การส่งออกไปยังประเทศจีนมีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งเป็นปีที่สามารถทำการเปรียบเทียบได้ ได้เปรียบดุลการค้า 6.7702 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ข้อคิดเห็น

ถึงแม้ว่าการส่งออกโดยรวมของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น แต่การแข็งค่าของเงินเยนและภาวะเงินฝืด ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมทั้งมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล เช่น มาตรการสนับสนุนการซื้อรถ eco-car และเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานสิ้นสุดลงตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 และเดือนมีนาคม 2554 ตามลำดับ ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังไม่ดีขึ้นนัก ดังนั้น ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากการที่ญี่ปุ่นพึ่งพาเศรษฐกิจเอเชียนี้ เป็นโอกาสในการพัฒนาการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเป็นฐานอุตสาหกรรมหนึ่งของญี่ปุ่นในการผลิตสินค้าส่งออกเชื่อมโยงกับประเทศในเอเชียให้มากขึ้น

แหล่งข้อมูล

หนังสือพิมพ์ Nikkei ฉบับบ่าย ประจำวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2554

หนังสือพิมพ์ Nikkei ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโอซากา

ที่มา: http://www.depthai.go.th