เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้จัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียนขี้น ณ นครคุณหมิง เนื่องในโอกาสที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศกลุ่มอาเซียนได้เปิดสัมพันธ์คู่เจรจาครบรอบ ๒๐ ปี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้ง ๑๐ ประเทศในอาเซียน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
คณะรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทั้ง ๑๐ ประเทศได้เดินทางมายังนครคุนหมิง โดยการนั่งรถยนต์เพื่อสำรวจเส้นทาง R3A (ถนนคุณมั่น) จากประเทศไทย ผ่านเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนทางด่านตรวจคนเข้าเมืองโมฮั่น เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน (ตลอดเส้นทาง R3A มีระยะทางรวม ๑,๘๐๗ กิโลเมตร โดยเป็นเส้นทางในสาธารณรัฐประชาชนจีน ๖๘๘ กิโลเมตร ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๒๒๙ กิโลเมตร และในประเทศไทย ๘๙๐ กิโลเมตร) โดยมีผู้ช่วย-รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้การต้อนรับคณะฯ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองโมฮั่น
ในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าว ปราฐกถาใจความตอนหนึ่งว่า “ตั้งแต่เปิดการค้าเสรีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและอาเซียนมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ เป็นต้นมา มูลค่าการค้าระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและอาเซียนได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ ๓๘ โดยในปีที่แล้วสาธารณรัฐประชาชนจีนและอาเซียนมีมูลค่าการซื้อ-ขายรวมกว่า ๒๙๒,๗๘๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอาเซียนได้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับที่ ๓ ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนแทนที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียนไม่เพียงแต่จะครอบคลุมความร่วมมือทางด้านการค้า แต่ยังรวมไปถึงความร่วมมือทางด้านอื่นๆ อีก อาทิ ด้านการเกษตร ด้านการสื่อสาร ด้านคมนาคม และด้านอื่นๆ รวมกว่า ๒๐ ความร่วมมือ”
โดยในปีที่ผ่านมานั้น ได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน (จากนครคุณหมิงถึงกรุงเทพฯ) โดยผ่านประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว เข้าสู่ประเทศไทย โดยจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ในปี ๒๕๕๔ นี้ และการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๘ โดยเส้นทางรถไฟดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟสาย Pan-Asia ซึ่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีการสนับสนุนในส่วนของเทคโนโลยีและงบประมาณบางส่วนที่ใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟ จากข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผยในเบื้องต้น รถไฟความเร็วสูงเส้นทางจีน-ลาว-ไทย จะใช้ความเร็วประมาณ ๑๘๐-๒๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยระยะทางรถไฟความเร็วสูงในเขตประเทศไทยจะมีระยะทางรวมประมาณ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร ซึ่งนอกจากจะรองรับการขนส่งประชาชนในอนุภูมิภาคและประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าระบบรางได้อีกด้วย เมื่อทางรถไฟความเร็วสูงเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ จะเป็นการเพิ่มความสะดวกและเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งทั้งระบบราง ถนน ทางน้ำ และทางอากาศในอนุภูมิภาคเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวในภูมิภาคสี่เหลี่ยมทองคำ (สิบสองปันนา-จีน พม่า ลาว และไทย) และการค้าระหว่างประเทศ เพื่อรองรับการรวมกลุ่มสหภาพอาเซียน (AEC) ในปี ๒๕๕๘
สำนักส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครคุนหมิง
ที่มา: http://www.depthai.go.th