เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์
สินค้าที่มียอดการขายสูงสุดในตลาดโลกในปี 2552 คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ มีมูลค่า 2.52 ล้านล้านยูโร รองลงมาเป็น เคมีภัณฑ์และยานพาหนะ (มูลค่า 2.48 และ 1.5 ล้านล้านยูโรตามลำดับ) สำหรับปี 2553 ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ของเยอรมนีประมาณว่ายอดขายในตลาดโลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกร้อยละ 6 — 7 สำหรับเยอรมนีมียอดขายในปี 2553 เป็นมูลค่าประมาณ 162,000 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 และในปี 2544 จะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 8 เป็น 175,000 ล้านยูโร สินค้าหมวดนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบ ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมากมายหลากหลายชนิด และยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด มีส่วนช่วยให้เยอรมนีซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าประเภทนี้ที่สำคัญระดับหนึ่งของโลก สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว การที่อุตสาหกรรมการผลิตในประเทศมีการขยายตัวสูงขึ้น ส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5,000 คน เป็นจำนวนคนงานในอุตสาหกรรมแขนงนี้ทั้งสิ้น 815,000 คน
ตลาดส่งออกที่สำคัญของเยอรมนีจะเป็นประเทศอื่นๆ ในยุโรป มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 67 กับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมีส่วนแบ่งร้อยละ 57 ประเทศ ฝรั่งเศสมีส่วนแบ่งสูงสุด รองลงมาเป็นสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันจีนเป็นอันดับที่สาม มีส่วนแบ่งราวร้อยละ 7 แต่ในช่วง 2 —3 ปีข้างหน้าจะมีส่วนแบ่งเพิ่มสูงกว่าร้อยละ 10
สินค้าส่งออกของไทย
ตามสถิติกรมศุลกากรไทย มูลค่าการส่งออกสินค้ารายการนี้ของไทยไปเยอรมนียังคงเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2553 ไทยส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปเยอรมนีมูลค่า 284.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 8 ของการส่งออกสินค้าไทยไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.9 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 89.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 122.4 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 3 แหล่งนำเข้าสำคัญของเยอรมนี ได้แก่ เช็ค ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 22, 14 และ 8) อุปกรณ์ไฟฟ้าให้สัญญานเสียงแสงมูลค่า 47.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.7 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.4 แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่นและฮังการี (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 21, 14 และ 9)
สำหรับ เครื่องใช้อิเลคทรอนิกส์ ไทยส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 737.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 22 ของการส่งออกสินค้าไทยไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.95 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เป็นมูลค่า 488.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 66 ของสินค้ารายการนี้ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 2 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีน เนเธอร์แลนด์ และเช็ค (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 38, 20 และ 9) แผงวงจรไฟฟ้า (IC) มีการส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 65.3 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 8 มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.4 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 20, 10 และ 9)
สินค้าประเภททุน ยังคงเป็นที่ต้องการของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย และตะวันออกลาง ผู้ผลิตในเยอรมนีจึงมีความต้องการสินค้าประเภทชิ้นส่วนและส่วนประกอบมากขึ้น เพื่อการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปต่อไป สินค้าที่ไทยจึงมีแนวโน้ม โอกาสตลาดที่ดี แจ่มใส สามารถส่งออกเป็นมูลค่าที่สูงขึ้นต่อเนื่อง
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศฯ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th