สรุปภาวะตลาดผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางของไทยในเยอรมนี เดือนมกราคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 3, 2011 14:46 —กรมส่งเสริมการส่งออก

อุตสาหกรรมในประเทศ

ตลอดปี 2553 คาดว่าในเยอรมนีมีการผลิตรถใหม่ประมาณ 2.9 ล้านคันลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3 อย่างไรก็ตามความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ยางรถ โดยเฉพาะยางใช้ในช่วงฤดูหนาวที่มีการประกาศเป็นกฏหมาย บังคับให้รถเก๋งทุกคันใช้ยาง Snow ในช่วงฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป จึงทำให้ตลาดยางรถยนต์ในเยอรมนีมีความต้องการมากขึ้น ในส่วนของตลาดต่างประเทศ สินค้าประเภททุนและเครื่องจักรกลต่างๆ ยังมีความต้องการสูง ชิ้นส่วนและส่วนประกอบต่างทำด้วยยางเพื่อการผลิตสินค้าเหล่านั้น จึงยังเป็นที่ต้องการ

ยอดขายผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางในเยอรมนีในช่วง 10 เดือนแรกปี 2553 (ม.ค.-ต.ค.) เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 11,890 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 เป็นยางรถยนต์มูลค่า 5,153 ล้านยูโรเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 ในจำนวนนี้เป็นการจำหน่ายในประเทศมูลค่า 3,035 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 การขายในต่างประเทศมูลค่า 2,117 ล้านยูโรลดลงร้อยละ 12.9

สินค้าส่งออกของไทย

สินค้าของไทยในรายการนี้มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกสินค้า ยกเว้น ผลิตภัณฑ์ยางใช้ในด้านเภสัช ที่ตลอดปี 2553 มีการส่งออกมูลค่า 7.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 77.0 เนื่องจากมีการผลิตในประเทศมากขึ้น และนำเข้ามากจากแหล่งอื่นๆ โดยเฉพาะจากแซร์เบียที่ในช่วง 10 เดือนแรกปี 2553 เยอรมนีนำเข้าจาก 2 ล้านเพิ่มเป็น 7 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางอื่นๆ ที่ไทยส่งออกไปเยอรมนีเป็นอันดับแรก จะเป็น

  • ถุงมือยางใช้ในด้านการแพทย์ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 46.9 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 13 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ มาเลเชีย เนเธอร์แลนด์ และออสเตรีย มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 39, 10 และ 8 ตามลำดับ
  • ยางใหม่สำหรับยานพาหนะ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 43.0 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งเล็กน้อยประมาณร้อยละ 1 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฝรั่งเศสมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14 เช็คร้อยละ 10 สโลเวเกียร้อยละ 7 เนเธอร์แลนด์ ร้อยละ 7 โปแลนด์ร้อยละ 6
  • หลอด ท่อยาง คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 2 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนีในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 0.7 แหล่งนำเข้าสำคัญๆ ได้แก่ อิตาลี 13% ฮังการี 12% เช็ค 11% โปแลนด์ 10%

ปัญหาอุปสรรค

1. การประกาศใช้ระเบียบ Reach ให้ลงทะเบียนและควบคุมสารเคมีที่ใช้ในการผลิต จะทำให้เกิดปัญหากับสินค้าบางชนิดได้ และทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นบ้าง

2. ราคาสินค้าของไทยยังคงสูงกว่าคู่แข่ง แต่เนื่องจากเป็นที่ไว้วางใจของผู้นำเข้า มีคุณภาพดี มีการส่งมอบสินค้าตรงเวลา จึงยังเป็นที่สนใจของผู้นำเข้า

3. คู่แข่งสำคัญ โดยเฉพาะ จีนและมาเลเชีย มีความสามารถผลิตสินค้าได้มาตรฐานมากขึ้น และมีราคาต่ำกว่าสินค้าจากไทย

4. มีสินค้าเข้าตลาดเยอรมนีมากขึ้นจากฐานการผลิตสินค้าในยุโรปกลางที่ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโดยผู้ประกอบการเยอรมัน

5. สินค้าทำด้วยยางในเยอรมนีส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงในการผลิต ซึ่งไทยยังไม่สามารถผลิตได้

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก เยอรมนี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ