ตามรายงานสำนักงานสถิติแห่งชาติ เยอรมนี ในปี 2553 ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 นับเป็นการขยายตัวสูงสุดนับจากการรวมประเทศในปี 2533 เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลเพิ่มขึ้น (0.5 และ 2.2 %) และจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 ส่งผลให้เศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัวสูงขึ้นมาก หลังจากที่มีอัตราลดลงร้อยละ 4.7 ในปี 2552 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติทางการเงินโลกเมื่อปี 2551 สำหรับปี 2544 นี้ คาดว่าเศรษฐกิจของเยอรมนียังคงสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในอัตราร้อยละ 2.0 โดยมีข้อแม้ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาต้องปรับตัวดีขึ้น มีจำนวนคนว่างงานลดลง และการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของเยอรมนีเอง และของสหภาพยุโรปให้ลุล่วงไปด้วยดี โดยในปี 2553 เยอรมนีมีหนี้สาธารณะมูลค่า 88,800 ล้านยูโร และการจัดเตรียมงบประมาณของทุกประเทศสมาชิกเพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่มีปัญหาทางการเงินและอาจต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน โดยเฉพาะปอร์ตุเกส เสปนและอิตาลี
อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีปี 2549 — 2554
(ร้อยละ) 2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553* 2554**
+1,2 +0,8 +3,4 +2,7 +1,0 -4.7 +3.6 +2.0- ตัวเลขเบื้องต้น
** คาดการณ์
ในปี 2553 มีผู้ประกอบอาชีพเป็นจำนวนโดยเฉลี่ย 40.5 ล้านคน มากกว่าปี 2552 ประมาณ 212,000 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในจำนวนนี้มีคนว่างงาน (คิดคำณวนตามข้อกำหนดนานาชาติ) เป็นจำนวน 2.9 ล้านคน ลดลง 290,000 คน หรือร้อยละ 9.2
จำนวนผู้ประกอบอาชีพที่เพิ่มมากขึ้นนี้มิได้ครอบคลุมไปทุกภาคอุตสาหกรรม กล่าวคือ ในภาคอุตสาหกรรมการแปรรูป (ไม่รวมการก่อสร้าง) ภาคการค้า ธุรกิจท่องเที่ยว มีจำนวนคนงานลดลงร้อยละ 1.7 และ 0.2 ตามลำดับ ส่วนภาคบริการ (การเงิน กิจการให้คำปรึกษาผู้ประกอบการ) มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 การก่อสร้างขยายตัวร้อยละ 1.4 และการค้า คมนาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ได้แรงผลักดันมากจากการเพิ่มสินค้าทุน และการก่อสร้างในประเทศ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 5.3 โดยเป็นการลงทุนซื้อเครื่องจักรกลเครื่องมือ และยานพาหนะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 การก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ในด้านการบริโภคภาครัฐบาลขยายตัวร้อยละ 3.0 และภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 2.3
ในบรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เยอรมนีสามารถฟื้นตัวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจโลกไปได้ด้วยดีและเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากความต้องการสินค้าจากต่างประเทศในปี 2553 ที่ผ่านมามีมาก ทำให้มีการส่งออกเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 917,304 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 ประเทศในเอเชีย อเมริกาและอัฟริกาเป็นตลาดส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากร้อยละ 30.3, 25.7 และ 18.1 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามประเทศคู่ค้าสำคัญๆ ส่วนใหญ่ของเยอรมนีจะเป็นประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปโดยในปี 2553 ที่ผ่านมามีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 60.4 ของการส่งออกทั้งสิ้นเป็นมูลค่า 557,004 ล้านยูโร มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 สินค้าส่งออกที่สำคัญๆ ได้แก่ ยานพาหนะ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบ เวชภัณฑ์ เครื่องจักรกลและชิ้นส่วน เป็นต้น
สำหรับการนำเข้าในปี 2553 ที่ผ่านมาเยอรมนีนำเข้าสินค้าเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 753,825 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 แหล่งนำเข้าที่สำคัญๆ ได้แก่ จีน เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง เวชภัณฑ์ เครื่องไฟฟ้าใช้ในสำนักงานยานพาหนะ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบ เป็นต้น
รายได้ประชาติในปี 2553 เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.899 ล้านล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 เป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดนับจากปี 2535 ในจำนวนนี้เป็นรายได้การประกอบอาชีพ 1.258 ล้านล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 (ปี 2552 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2) ส่วนรายได้ของผู้ประกอบการเป็นมูลค่า 641,000 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 ในขณะที่ปี 2552 มีอัตราลดลงร้อยละ 12.6
อัตราการเปลี่ยนแปลงเทียบกับปีก่อนหน้า
(หน่วย = ร้อยละ) 2549 2550 2551 2552 2553*
ของราคาแต่ละปี
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ 3.4 2.7 1.0 -4.7 3.6
รายจ่ายภาคเอกชน 1.0 -0.2 0.7 -0.2 0.5
รายจ่ายภาครัฐบาล 0.6 1.6 2.3 2.9 2.2
การลงทุน 7.7 4.7 2.5 -10.1 5.5
-- เครื่องจักรกล 11.1 10.7 3.5 -22.6 9.4
-- การก่อสร้าง 5.0 -0.5 1.2 -1.5 2.8
การส่งออก 12.7 7.6 2.5 -14.3 14.2
การนำเข้า 11.9 5.0 2.3 -9.4 13.0
ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี
- ตัวเลขเบื้องต้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th