รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศไทยกับนอร์เวย์ ๒๕๕๓

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 16, 2011 16:16 —กรมส่งเสริมการส่งออก

๑. ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศไทย- นอร์เวย์

หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่า              ม.ค. — ธ.ค.          ม.ค. — ธ.ค.    % เพิ่ม/ลด
                     ปี ๒๕๕๒               ปี ๒๕๕๑
การค้ารวม             290.5                468.5            61.27
การส่งออก             118.6                176.4            48.67
การนำเข้า             171.8                292.1            69.97
ดุลการค้า              -53.2               -115.7

ในปี ๒๕๕๓ (ม.ค.-ธ.ค.) การค้าระหว่างประเทศไทยกับนอร์เวย์มีมูลค่ารวม ๒๙๐.๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๒ ที่มีมูลค่า ๔๖๘.๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๖๑.๒๗ โดยแยกเป็น การส่งออกจากไทยไปยังนอร์เวย์มูลค่า ๑๗๖.๔ ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นการนำเข้าจากนอร์เวย์มูลค่า ๒๙๑.๒ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปี ๒๕๕๒ การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๘.๖๗ การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๖๙.๙๗ ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้ารวมทั้งสิ้นมูลค่า ๑๑๕.๗ ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับปี ๒๕๕๒ ที่ไทยเสียเปรียบดุลการค้า ๕๓.๒ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังรายละเอียด รายการสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกและนำเข้าจากนอร์เวย์ ๑๕ อันดับแรกตามตารางที่แนบ

นอร์เวย์ เป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ ๕๙ ของไทยและเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ ๖๗ คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๙ ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย

๒. การส่งออก

๒.๑ ในปี ๒๕๕๓ สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังนอร์เวย์ ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า ๓๖.๒ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๖๗.๗๐ เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ๑๓.๐ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙๓๖.๐๒ เครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ ๑๒.๒ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๕.๔๓ ข้าว ๑๑.๑ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๘.๘๐ อัญมณีและเครื่องประดับ ๗.๓ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๕๔ เครื่องนุ่งห่ม ๖.๖ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ ๒๓.๔๐ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ๖.๕ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๕.๑๑

๒.๒ สินค้าไทยที่มียอดการส่งออกลดลงที่สำคัญ ได้แก่ เนื้อปลาสดแช่เย็น แช่แข็ง ๑๒.๑ ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ ๑๔.๓๑ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ๑๑.๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๔๙.๐๖ ผักกระป๋องและแปรรูป ๕.๘ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 13.82

๓. การนำเข้า

การนำเข้าจากนอร์เวย์สินค้า ๑๐ รายการแรกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ และสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมการเกษตร ดังนี้

ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ มูลค่า ๑๓๕.๑ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๑๔.๓๔ สัตว์น้ำสดแช่เย็น แช่แข็งแปรรูป และกึ่งแปรรูป มูลค่า ๘๑.๑ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๔.๖๖ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ 13.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๙๒.๐๒ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค ๑๐.๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๒.๐๙ เคมีภัณฑ์ ๙.๒ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๘.๒๖ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ๗.๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๔.๘๓ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ๖.๐ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๗๑.๓๕ ลวดและสายเคบิล ๕.๕ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ๗,๐๒๗.๙๔ เครื่องมือเครื่องใช้เกียวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ ๓.๖ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๗.๘๙ สื่อบันทึกข้อมูล ภาพ เสียง ๓.๒ เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๗.๗๕

๔. สรุปและข้อคิดเห็น

๔.๑ นอร์เวย์เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิกส์ ตั้งอยู่ในคาบสมุทรสแกนดิเนเวียน ยังไม่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่มีระบบเศรษฐกิจเปิดและกฎระเบียบส่วนใหญ่ก็อิงกฎระเบียบของสหภาพยุโรปเป็นหลัก มีประชากรประมาณ ๔.๗ ล้านคนมีระบบรัฐสวัสดิการที่ดีมากทั้งด้านการศึกษา การรักษาพยาบาล และระบบการจ้างงาน และเงินบำนาญตกงานหรือเกษียณอายุ เนื่องจากมีการเก็บภาษีรายได้สูง ในปีนี้ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่น่าอยู่อาศัยที่สุดในโลก เป็นประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้า มีเทคโนโลยี่สูง มีน้ำมันและก๊าซเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งให้แก่ประเทศ และมีธรรมชาติที่สวยงาม โดย Danske Bankคาดการณ์ว่าในปี ๒๕๕๔ นอร์เวย์จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๒ ในปี ๒๕๕๓ เป็นขยายตัวร้อยละ ๓.๔ ในปี ๒๕๕๔ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงและปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปจะยังไม่ชัดเจนก็ตาม เนื่องจากการคาดคะเนการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจนอร์เวย์มีแนวโน้มสดใสอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย และราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

๔.๒ แม้ว่านอร์เวย์จัดเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่ผู้บริโภคเป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีรายได้ มีการศึกษา และชอบการจับจ่ายใช้สอย ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี สูงอันดับ ๒ ของโลก ประมาณ ๘๔,๕๔๓ เหรียญสหรัฐ ( ข้อมูล IMF ปี ๒๕๕๓ ) และเป็นสังคมของคนสูงวัย (aging society) ประชากรมีอายุเฉลี่ยยืนยาวที่สุดในโลก และค่าเฉลี่ยอายุของคนนอร์เวย์ในปี ๒๕๕๑ เท่ากับ ๓๘ ปี และคาดว่าจะเป็น ๔๐ ในอีกไม่ช้า แนวโน้มกลุ่มคนวัยเกษียณมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่มีรายได้สูงกว่ากลุ่มอื่น ทำให้มีการใช้จ่ายได้มากขึ้น จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้ประชากรมีความตระหนักในความสำคัญของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ กระแสรักษ์สุขภาพและความงาม เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของการดำเนินชีวิตในนอร์เวย์ และมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนทัศนคติพฤติกรรมในการบริโภคอาหาร การออกกำลัง การพักผ่อน วิถีชีวิต ตลอดจนการดำเนินธุรกิจต่างๆ ทำให้คนนอร์เวย์จำนวนไม่น้อยที่พร้อมจะจ่ายมากขึ้นสำหรับสินค้าที่เชื่อว่าช่วยชะลอความแก่ ( anti-aging products ) สินค้าบำรุงรักษาหรือป้องกันโรค (preventive medicine and multivitamins) สปา หรือสถานที่ออกกำลัง (Spa and Gym destination) สินค้าสุขภาพความงาม ( Health and wellness destination) สินค้าที่มีรูปแบบทันสมัย ( High-end products) ชะลอความแก่ ป้องกันโรค รักษาธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน ( eco-friendly products ) ดังนั้น จึงทำให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการพยายามนำสินค้าเหล่านี้มานำเสนอให้กลุ่มเป้าหมายของตน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ได้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและสามารถซื้อหาได้ง่ายมีวางขายทั่วไปในห้างชั้นนำ สินค้าไทยจึงมีโอกาสในการขยายตัวในตลาดนอร์เวย์อีกมาก แต่เนื่องจากตลาดนอร์เวย์เป็นตลาดที่มีลักษณะเฉพาะ ( niche market ) การทำธุรกิจกับนอร์เวย์จึงควรพัฒนาสินค้าที่มีรูปแบบ หรือนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่า เพื่อให้เหมาะสมตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายกับกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น เช่น กลุ่มสูงอายุ จะเน้น สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าสมุนไพรบำรุงรักษาสุขภาพ กลุ่มวัยรุ่น จะชอบสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้าที่มีรูปแบบใหม่ๆ หรือสินค้าที่เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ หรือ สินค้าอำนวยความสะดวกสบาย เช่น อาหารพร้อมรับประทาน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ