สำหรับการเดินทางเยือนไทยของผู้บริหารระดับสูงของรัฐ Sharjah ในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเจาะตลาดใหม่ตามนโยบายแสวงหาตลาดใหม่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพิชย์ (นางพรทิวา นาคาศัย) ซึ่งรัฐ Sharjah ต้องการให้ไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร เครื่องดื่ม การก่อสร้าง การบริหารจัดการโรงแรม และการลงทุนด้านสุขภาพ
เมื่อเร็วๆ นี้ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (คนขวา) ให้การต้อนรับ H.E. Mr. Marwan Jassim Al Sarkal, CEO, Shurooq (คนซ้าย) พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของรัฐ Sharjah Investment & Development Authority-Shurooq เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการลงทุน และการค้าระหว่างประเทศของไทย พร้อมทั้งแนะนำหน่วยงาน Shurooq ให้ฝ่ายไทยได้รู้จักเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศ
นางนันทวัลย์ เผยว่า หน่วยงาน Shurooq เป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของรัฐ Sharjah ซึ่งเป็นรัฐใหญ่อันดับ 3 ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 โดยขณะนี้ดำเนินโครงการใหญ่ๆ มาแล้วหลายโครงการ เช่น Al Qasba, Al Majaz Waterfront, Khorfakkan Resort, Heart of Sharjah, Al Jazeera Park เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระบบการขนส่ง การท่าอากาศยานและระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศ โดยมีหลักการเพื่อการพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรม การรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอาหรับโบราณ การยกระดับระบบสาธารณูปโภคด้านถนนและพลังงาน การขยายอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและการศึกษาขั้นสูง โดยต้องการให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยได้รู้จัก Shurooq ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการลงทุนระหว่างกัน
“สำหรับการเดินทางเยือนไทยของผู้บริหารระดับสูงของรัฐ Sharjah ในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเจาะตลาดใหม่ตามนโยบายแสวงหาตลาดใหม่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางพรทิวา นาคาศัย) ซึ่งฝ่ายไทยได้รับทราบข้อมูลว่าทางรัฐ Sharjah ต้องการให้ไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร เครื่องดื่ม การก่อสร้าง การบริหารจัดการโรงแรม และการลงทุนด้านสุขภาพ และทางกรมส่งเสริมการส่งออกเตรียมที่จะดำเนินการจัดสัมมนาเพื่อให้นักลงทุนไทยได้ทราบข้อมูลและเตรียมความพร้อมในการเข้าไปลงทุนในรัฐ Sharjah รวมทั้งการพัฒนาแบรนด์ไทย และการพัฒนาคุณภาพสินค้าไทยให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลเพื่อการค้าอย่างยั่งยืนต่อไป” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถือเป็นประตูการค้าของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในตะวันออกกลาง ตั้งแต่ช่วงปี 2541 เป็นต้นมา โดยมูลค่าการส่งออกในปี 2553 มีมูลค่า 2,843.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.61 โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ผ้าผืน เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่อง เม็ดพลาสติก เป็นต้น
ที่มา: http://www.depthai.go.th