ภายหลังจากที่รัฐบาลอิหร่านประกาศใช้นโยบายเลิกการอุดหนุน ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคก็ขยับตัวตามสูงขึ้นเป็นลำดับ ประชาชนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาประหยัดการใช้พลังงานมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคอิหร่าน ตระหนักถึงความสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันแบบอนุรักษ์พลังงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในคร้วเรือน
วงการก่อสร้างของอิหร่านจึงหันมาใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีการก่อสร้างที่สามารถอนุรักษ์พลังงานในการสร้างบ้าน เพื่อให้ตรงตามกระแสความต้องการของผู้บริโภคชาวอิหร่าน และพยายามสร้างจุดขายทางการตลาดที่เน้นเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน เช่น บ้านประหยัดพลังงานไฟฟ้าและฉนวนความร้อน เป็นต้น
เนื่องจากภูมิประเทศของอิหร่าน มีอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากในแต่ละฤดู โดยในฤดูร้อน อุณหภูมิจะสูงมากและในฤดูหนาวอากาศจะเย็นจัดและมีหิมะตก อุปกรณ์และเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานในบ้านเรือนจึงเป็นทึ่ต้องการอย่างมากในตลาดอิหร่าน ซึ่งเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานจะต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอิหร่านลูกค้าได้ทุกฤดูกาล
ในปี 2554 รัฐบาลอิหร่านมีแผนดำเนินโครงการการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศให้กับคู่สมรสที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองจำนวน 1,700,000 คูหา ซึ่งมีประเทศอื่นๆ เข้ามาร่วมลงทุนกับอิหร่านได้แก่ จีน ตุรกี และสเปน ซึ่งคาดว่าภายในปี 2557 จะมีการสร้างที่อยู่อาศัยอีกจำนวน 4,860,000 คูหา
จากการสำรวจข้อมูลทั่วประเทศพบว่าประเทศอิหร่านมีประมาณ 17 ล้านครัวเรือน ซึ่งในจำนวนนี้ มีประมาณ 5 ล้านครัวเรือนที่มีที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้มาตรฐาน และ ในปี 2550 ราคาตลาดการเคหะของประเทศอิหร่านขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอัตราส่วนร้อยละ 50 และขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และชะลอค่าคงในช่วงฤดูร้อนปีพร้อมปี 2552 และในปีงบประมาณ 2553 ( 20 มีนาคม 2552- 21 มีนาคม 2553) ช่วงสองไตรมาสแรกของปี การก่อสร้างที่อยู่อาศัยตามตัวเมืองต่าง ๆ ของประเทศอิหร่านมีอัตราการขยายตัวในสัดส่วนร้อยละ 33
สำนักงานฯ มีความเห็นว่าแนวโน้มตลาดก่อสร้างในอิหร่านสดใสและมีศักยภาพสูงมาก ไทยมีโอกาสที่จะเปิดตลาดสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง เช่นประตู หน้าต่าง กระเบื้อง ฯลฯ รวมทั้งเทคโนโลยีการก่อสร้างที่เน้นการประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ อิหร่านมีงานแสดงสินค้า The Building Industry International Exhibition ทุกปี หากผู้ส่งออกรายใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสำนักงานฯ ที่ e-mail: info@thaitrade.ir หรือthaitctehran@depthai.go.th
รายงานจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน
ที่มา: http://www.depthai.go.th