การจดทะเบียนรถใหม่ในเยอรมนีเดือนธันวาคม และตลอดปี ๒๕๕๓

1. ผลของการใช้มาตรการกระตุ้นการซื้อรถใหม่ในปี ๒๕๕๒ ได้ทำให้ยอดขายรถยนต์นั่งเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๓.๘๑ ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๓.๒ และมีผลกระทบทำให้ยอดขายในปี ๒๕๕๓ ลดลงร้อยละ ๒๓.๔ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๒.๙๑๖ ล้านคัน รวมกับรถยนต์นั่งที่สัญจรไปมาตามท้องถนนเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๔๑.๗๓๘ ล้านคันเพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๒ ที่มีจำนวน ๔๑.๓๒๒ คัน ร้อยละ ๑ สำหรับปี ๒๕๕๔ นี้สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนีคาดว่ายอดการขายรถใหม่จะเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยเป็นจำนวนประมาณ ๓.๑ ล้านคัน

๒. การจดทะเบียนรถใหม่ในเยอรมนีตลอดปี ๒๕๕๓ ที่มีจำนวนทั้งสิ้น ๒,๙๑๖,๒๖๐ คัน ลดลงจากปี ๒๕๕๓ ร้อยละ ๒๓.๔ รถที่มียอดขายสูงสุดเป็นรถ Golf รุ่น Jetta มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๕๑,๐๗๘ คัน คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ ๘.๖ จำนวนลดลงร้อยละ ๓๑.๔๔ รองลงมาเป็น รถ VW Polo จำนวน ๙๖,๙๔๕ คัน ลดลงร้อยละ ๑๑.๐๖ Opel Asrtra จำนวน ๗๒,๖๘๕ คัน ลดลงร้อยละ ๓๐.๖ โดยรถขนาดเล็ก ขนาดกลางมีอัตราการจดทะเบียนรถใหม่ลดลงมาก ในขณะที่รถขนาดใหญ่ เช่น BMW รุ่น ๕ มีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๓.๘๖ หรือเป็นจำนวน ๔๖,๐๑๔ คันรถ Mercedes E — Class จำนวน ๖๔,๔๐๙ คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๒.๕ รถ VW Transporter (Caravelle) จำนวน ๓๖,๖๙๑ คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๐.๙

๓. พิจารณาตามบริษัทผู้ผลิต ในปี ๒๕๕๓ ผู้ผลิตสำคัญอันดับแรก คือ VW มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ ๒๑.๐ คิดเป็นยอดการจดทะเบียนรถใหม่ทั้งสิ้น ๖๑๓,๘๑๒ คัน จำนวนลดลงร้อยละ ๒๓.๘ รองลงมาเป็น Mecedes จำนวน ๒๘๑,๒๔๓ คัน ลดลงร้อยละ ๐.๕ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ ๙.๖ BMW จำนวน ๒๓๕,๒๕๒ คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ ๘.๑ จำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๘

4. ตลอดปี 2553 ไทยส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 98.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 2.98 ของการส่งออกทั้งสิ้นไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.1 สินค้าที่ส่งออกเพิ่มมากขึ้นสูงสุดเป็นรถแวน รถปิกอัพ เป็นมูลค่า ๗๑.๒ ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ ๗๒.๓๙ ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๗๒.๓ รองลงมาเป็นส่วนประกอบและอุปกรณ์ มูลค่า ๒๖.๗ ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ ๒๗.๑ ของการส่งออกไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๒.๒

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th