“ส่งออก” เตรียมมอบรางวัล Prime Minister’s Export Award 2011 เชิดชูเกียรติภูมิสินค้าและบริการของไทยสู่เวทีโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 8, 2011 11:17 —กรมส่งเสริมการส่งออก

กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เชิญชวนผู้ผลิตสินค้าและผู้ประกอบการธุรกิจบริการของไทยสมัครเข้ารับคัดเลือกเพื่อรับรางวัลในโครงการประกาศเกียรติคุณผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ประจำปี 2554 หรือ Prime Minister’s Export Award 2011 รางวัลเกียรติยศสูงสุดที่รัฐบาลไทยมอบให้แก่ผู้ส่งออกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและผลักดันให้มีการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในเวทีการค้าโลก โดยในปีนี้จะมีพิธีเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีแห่งการสถาปนารางวัลอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนสิงหาคม

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการฯ โดยมีนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์และกรมส่งเสริมการส่งออกให้การต้อนรับรวมทั้งแขกผู้มีเกียรติ ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

นายยรรยงค์ เผยว่า การส่งออกมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศโดยเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 65-70 ของ GDP รัฐบาลจึงมุ่งเน้นส่งเสริมผลักดันการส่งออกสินค้าและธุรกิจบริการเชิงรุกเพื่อให้สามารถรักษาตลาดส่งออกเดิมไว้พร้อมๆกับการหาช่องทางขยายสู่ตลาดใหม่เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก การที่ผู้ส่งออกไทยเร่งพัฒนาศักยภาพ พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ รวมถึงการสร้างแบรนด์สินค้าของตนเองให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล จะทำให้เราสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก “กระทรวงพาณิชย์คาดหวังว่าโครงการ Prime Minister’s Export Award จะมีส่วนช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการของไทยในการขยายตลาดการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ภูมิภาคเอเชียกำลังทวีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลกมากขึ้น พร้อมกับโอกาสทางการผลิตและการค้าที่เปิดกว้างยิ่งขึ้นจากการที่ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศกำลังสร้างฐานการผลิตและตลาดร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ ASEAN Economic Community” นายยรรยงค์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า การมอบรางวัล PM Export Award ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่รัฐบาลไทยมอบแก่ผู้ส่งออกนี้ นอกจากจะเป็นการประกาศเกียรติคุณและเป็นกำลังใจแก่ผู้ประกอบการแล้ว ภาครัฐยังคาดหวังให้รางวัลนี้เป็นเครื่องมือในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ให้เกิดความเชื่อมั่นและเชื่อถือในสินค้าและบริการไทย รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดให้กับผู้ประกอบการอันจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าและบริการของไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า อีกทั้ง ยังหวังให้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆของไทยในการพัฒนาศักยภาพจนสามารถแข่งขันและสร้างตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน

“โครงการ Prime Minister Export Award ริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2535 โดย ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น นับถึงปีที่ผ่านมา มีผู้รับรางวัลไปแล้วรวม 333 บริษัท จำนวน 407 รางวัล สำหรับในปี 2554 นี้ซึ่งเป็นปีที่ 20 จะมีการมอบรางวัลใน 5 ประเภทได้แก่ ประเภทผู้ส่งออกดีเด่น (Best Exporter) ประเภทที่ใช้ตราสินค้าของตนเอง (Thai—Owned Brand) ประเภทที่มีการออกแบบดี (Design Excellence Award หรือ DEmark) ประเภทธุรกิจบริการส่งออก (Best Service Provider) ประเภทสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณท์ที่มีการออกแบบและคุณภาพดี (OTOP Export Recognition)” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม

ภายในงานแถลงข่าว ได้มีการเสวนาในหัวข้อ “Prime Minister’s Export Award: 20 ปีแห่งความสำเร็จ” โดยการนำของ ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก และมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นตัวแทนคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัลประจำปีนี้ ได้แก่ คุณมิ่งพันธ์ ฉายาวิจิตรศิลป์และคุณทรงพล เนรกัณฐี รวมทั้งผู้ส่งออกที่ได้รับรางวัลในปีที่ผ่านมา ได้แก่

คุณวัชรมงคล เบญจธนะฉัตร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด แพทย์หญิงใจทิพย์ ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ แลบอราทอรี่ แอนด์ เฮลท์แคร์ จำกัด และคุณศรีชนก วัฒนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอนตี้ แอนด์ ท็อทโก้ จำกัด ซึ่งได้มีการอภิปรายเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ส่งออกจะได้รับหากได้รับรางวัล PM Export Award เกณฑ์การตัดสินรางวัล รวมไปถึงคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากผู้แทนกรรมการตัดสิน และผู้มีประสบการณ์ในการได้รับรางวัลมาก่อน นอกจากนี้ ในงานยังมีการเปิดตัวเพลง “The Glorious Path” บทเพลงประจำโครงการฯที่ได้ประพันธ์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อร่วมฉลองโอกาสครบรอบสองทศวรรษของการมอบรางวัล โดยอาจารย์สำเภา ไตรอุดมและนาง พยอม วลัยพัชรา จากทีมผู้ประพันธ์ “ASEAN Anthem: The ASEAN Way” เพลงประจำประชาชาติอาเซียน

บริษัทที่สนใจสมัครเข้ารับการพิจารณาคัดเลือก สามารถดาวน์โหลดใบสมัคร ข้อมูลเกี่ยวกับรางวัลและหลักเกณฑ์เบื้องต้นของแต่ละประเภทรางวัลได้ที่ http://pmexportaward.com หรือ http://application.depthai.go.th/pm หรือโทร 0 2507 8289, 0 2507 8271 โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 29 เมษายน ศกนี้

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ