ปัจจุบัน เศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มณฑลด้านในของจีน เช่น ยูนนาน เสฉวน รวมถึงมหานครฉงชิ่ง ต้องแข่งขันกันพัฒนาเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตยิ่งขึ้น การแข่งขันทางเศรษฐกิจมีรัฐบาลกลางปักกิ่งและรัฐบาลท้องถิ่นให้การสนับสนุนโครงการขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติหรือต่างพื้นที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งในปี ๒๐๐๙ นักลงทุนกลุ่มหนึ่งได้เลือกสถานที่ที่เป็นชายแดนระหว่างมณฑลยูนนานและเสฉวน เพื่อจัดตั้งศูนย์การค้าแห่งใหม่ขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคจีนตะวันตก คือ ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye)
ทำเลที่ตั้ง
ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) ตั้งอยู่ในเขตที่ ๑ เกาทันใหม่ อำเภอสุ่ยฟู่ มณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ห่างจากสถานีรถไฟ ๑ กิโลเมตร ห่างจากท่าเรือแม่น้ำแยงซี ๓ กิโลเมตร และอยู่ด้านตะวันตกของทางด่วนระหว่างนครคุนหมิง-มหานครฉงชิ่ง อำเภอสุ่ยฟู่ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเจ้าทง ตั้งอยู่จุดเหนือที่สุดของมณฑลยูนนาน เป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำหวง คือจุดเริ่มของชายแดนตอนใต้ของมณฑลเสฉวน บริเวณดังกล่าวยังเป็นจุดเริ่มต้นของที่ราบสูงยูนนาน-กวยโจว มีสภาพภูมิอากาศมรสุมค่อนข้างร้อน มีปริมาณฝนเฉลี่ยปีละประมาณ ๑,๐๐๐ มิลลิเมตร และมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ ๑๗.๘ องศาเซลเซียส เหมาะแก่การอยู่พักอาศัย เป็นที่อยู่ของชาวฮั่น ชาวอี๋ ชาวเหมียว ชาวหุย ซึ่งมีสักษณะเป็นมิตร ขยัน และกล้าหาญ
ความสำคัญของสถานที่ตั้งศูนย์การค้า
(นครคุนหมิง) (อำเภอสุ่ยฟู่)
อำเภอสุ่ยฟู่เป็นประตูทางตอนเหนือของมณฑลยูนนาน และเป็นอำเภอเดียวที่มีทั้งทางด่วน ทางรถไฟ ท่าอากาศยาน และทางเรือที่ออกสู่ทะเลได้ (ทางแม่น้ำแยงซี)
นอกจากนั้นยังมีถนนปักกิ่ง-คุนหมิง ตัดผ่านอำเภอจากทางทิศเหนือถึงเมืองเฉิงตูและมหานครฉงชิ่ง ใช้เวลาไม่เกิน ๓ ชั่วโมง และถ้าไปทางทิศใต้ถึงนครคุนหมิงใช้เวลาไม่เกิน ๖ ชั่วโมง จากสถานีรถไฟสุ่ยฟู่ถึงเมืองเน่ยเจียง ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางการขนส่งของมณฑลเสฉวนมีระยะทางประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร ถึงเมืองสุ่ยเฉิงซึ่งถือว่าเป็นชุมทางสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันตกเฉียงใต้มีระยะทางประมาณ ๓๐๐ กิโลเมตร ห่างจากเมืองหยีปิง ๒๐ กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองมหานครฉงชิ่งประมาณ ๒๘๐ กิโลเมตร ห่างจากเมืองเฉิงตู ๒๖๐ กิโลเมตร ห่างจากนครคุนหมิง ๕๕๐ กิโลเมตร อำเภอสุ่ยฟู่ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี เขตเศรษฐกิจเฉิงตู-ฉงชิ่ง และเขตเศรษฐกิจคุนหมิง
ท่าเรือสุ่ยฟู่ สามารถรองรับเรือที่มีระวางน้ำหนักได้ ๓๐๐๐ ตัน และสามารถแล่นถึงท่าเรือนครเซี่ยงไฮ้ สุ่ยฟู่ห่างจากสนามบินอี้ปิงประมาณ ๓๐ กิโลเมตร สามารถขนส่งสินค้าไปได้ถึงกรุงปักกิ่ง เมืองเฉิงตู นครคุนหมิง และนครกวางโจว อำเภอสุ่ยฟู่อยู่ติดกับเมืองอี๋ปิง มณฑลเสฉวน มีเพียงแม่น้ำกั้นกลาง เมื่อข้ามแม่น้ำก็เข้าสู่มณฑลเสฉวน อำเภอสุ่ยฟู่ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างมณฑลยูนนานและมณฑลเสฉวน
อำเภอสุ่ยฟู่มีทัศนียภาพสวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ อุทยานแห่งชาติเขื่อนฆ้องทองแดงตำบลไท่ผิง ที่ตั้งของนาเกลือแหล่งผลิตเกลือที่สำคัญในอดีต สะพานข้ามแม่น้ำลำธารน้ำเย็น บ่อน้ำพุร้อนในหุบเขาลึกทางด้านตะวันตกเขื่อนซินทันตำบลยูนฟู่ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในตำบลเหลียงหวัน สถานที่ท่องเที่ยวทะเลสาบในตำบลโหลวป้า ท่าเรือข้ามฟากในอดีต หมู่บ้านหิน สุสานในสมัยราชวงค์ฮั่นตะวันออก
นอกจากนั้น ยังมีน้ำพุร้อนตั้งอยู่ในหุบเขาลึกทางชานเมืองด้านตะวันตก มีภูเขาและแม่น้ำล้อมรอบ ทิวทัศน์สวยงาม น้ำพุร้อนมีคุณภาพน้ำในระดับดี สามารถรักษาโรคผิวหนังได้หลายชนิด จึงมีนักท่องเที่ยวมาจากทั้งมณฑลเสฉวน กุ้ยโจว หูเป่ย และสั่นซี จำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวและเช่น้ำพุร้อน
การบริหารจัดการศูนย์การค้า
ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) มีบริษัท นานาชาติแอล จำกัด จากประเทศแคนาดาเป็นผู้ลงทุนหลัก ประธานบริษัท คือ นายหวังจื้อหยง มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ ๑๒๐ ล้านหยวน มีพื้นที่ก่อสร้าง ๗๓,๓๐๑.๘๑ ตารางเมตร ความสูงระหว่างชั้นละ ๓ เมตร มีจำนวนร้านค้า ๑,๓๑๗ ร้าน มีที่จอดรถ ๑๑๖ คัน โครงสร้างอาคารเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก อาคารแบ่งเป็นอาคารหลักและอาคารย่อย อาคารย่อยสูง ๖ ชั้น รวมพื้นที่ ๕๑,๘๒๖.๖ ตารางเมตร สูง ๒๙.๔ เมตร ส่วนอาคารหลักแบ่งออกเป็น ๒ อาคาร อาคาร ๑ สูง ๑๙ ชั้น มีพื้นที่ ๑๔,๙๐๙.๒๑ ตารางเมตร สูง ๕๒.๘ เมตร อาคาร ๒ สูง ๑๕ ชั้น มีพื้นที่ ๖,๕๖๖ ตารางเมตร สูง ๓๙.๖ เมตร
ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) แบ่งออกเป็น ๔ พื้นที่ (โซน)
๑. ชั้นที่ ๑ คือ ศูนย์จำหน่ายสินค้าและบริการอาหาร (ศูนย์อาหาร) และความบันเทิง (เปิดดำเนินการแล้ว)
๒. ชั้น ๒ และ ๓ คือ พื้นที่สินค้าจำหน่ายสินค้าไทย ได้แก่
- ประเภทอาหาร (ข้าว อาหาร อาหารว่าง น้ำมัน อาหารบรรจุถุงและอาหารกล่องสำเร็จรูป อาหารทะเล เครื่องปรุงรส)
- ประเภทของอุปโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (เครื่องมือต่างๆ อุปกรณ์ที่ใช้บนโต๊ะอาหาร เสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา)
- ประเภทผ้า/สิ่งทอ (ผ้าไหม ผ้าลินิน) และผ้าต่างๆ ในการประดับห้อง
- ประเภทงานไม้ (ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ของตกแต่ง)
- ของที่ระลึก (อุปกรณ์ตกแต่ง หรือของใช้ในชีวิตประจำวันที่เป็นงานฝีมือ และมีเอกลักษณ์เฉพาะที่เกี่ยวกับชนชาติหรือท้องถิ่น)
- เครื่องยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (จักรยานยนต์ เรือสกู้ตเตอร์ เครื่องตัดหญ้า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาง ล้อรถยนต์ เครื่องยนต์ที่ใช้ในเรือ เรด้าร์เรือ อุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้บนเรือ เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ใช้ในการเกษตร หม้อแปลงไฟฟ้า ชิปส์)
๓. ชั้น ๔ คือ พื้นที่สินค้าจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ในขณะนี้มีนักธุรกิจชาวเวียดนามมาลงทุนเปิดร้านรวมแล้วกว่า ๓๒ ร้าน จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ (กึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ภาพศิลปะต่างๆ) ของที่ระลึก (พระพุทธรูป/พระคัมภีร์ ภาพวาดเกี่ยวกับศาสนา อุปกรณ์ทางศาสนา)
ในศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) ผู้ค้าบางส่วนจะขายสินค้าจากประเทศในแถบอาเซียน ทั้งลักษณะขายปลีกและขายส่งสินค้าจากอาเซียน ผู้บริการมุ่งหมายที่จะสร้างศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางบริการด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้า/การเจรจา การซื้อขาย บริการการกฎหมาย สารสนเทศ การป้องกันความเสี่ยง ฯลฯ ภายในภูมิภาค มณฑลยูนนาน มณฑลเสฉวน มหานครฉงชิ่ง และภูมิภาคอื่นๆ ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye)
ศูนย์การค้ามีข้อได้เปรียบอย่างไร
จุดเด่นของศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) คือ เป็นศูนย์กลางค้าส่งสินค้าที่ประกอบด้วย ๓ ปัจจัยหลัก ได้แก่ ที่ตั้ง ประเพณีวัฒนธรรม ความหลากหลายและแตกต่างกันของสินค้า
๑. ที่ตั้ง : ที่ตั้งของอำเภอสุ่ยฟู่ คือ ศูนย์กลางเศรษฐกิจ เพราะเป็นจุดเชื่อมระหว่างเขตการค้ายูนนาน-อาเซียน และเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี ในช่วงที่ผ่านมา การค้าระหว่างมณฑลยูนนานกับต่างประเทศมีสถิติเพิ่มขึ้นตามลำดับ และรัฐบาลจีนมียุทธศาสตร์ให้มณฑลยูนนานเป็นสะพานเชื่อมต่อกับประเทศอาเซียน โดยสะพานด้านหนึ่งเชื่อมต่ออาเซียนและอีกด้านหนึ่งเชื่อมต่อกับจีนโดยที่หัวสะพานด้านเหนือก็คืออำเภอสุ่ยฟู่ สุ่ยฟู่ คือ ท่าเรือแรกของแม่น้ำแยงซี และมีทางด่วน ทางรถไฟ และทางอากาศ ประกอบเป็นการคมนาคม ๓ มิติ สินค้าจากเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซีต้องผ่านสุ่ยฟู่เข้าสู่อาเซียน เมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเลจะสามารถลดระยะทางถึง ๓,๐๐๐ กิโลเมตร ซึ่งเป็นการลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่งสินค้า
นอกจากนี้ ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ เริ่มต้นจากยูนนาน (คุนหมิง) ผ่านไปทางประเทศลาวและประเทศไทย ช่วยเพิ่มศักยภาพการค้าระหว่างประเทศและการท่องเที่ยวไปพร้อมกัน
๒. ประเพณีการค้า : ตั้งแต่ในอดีตระบบการค้าในมณฑลยูนนานจะเป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนสินค้าและค้าขายกับต่างเมือง พ่อค้าในอดีตที่ร่ำรวยจะเลือกทำการค้าระหว่างเมืองเป็นหลัก โดยเป็นการค้ากับเมืองทางตอนเหนือของมณฑลยูนนาน ซึ่งก็คือมณฑลเสฉวนในปัจจุบัน โดยสินค้าส่วนใหญ่จะส่งไปจำหน่ายที่มณฑลเสฉวน และบางส่วนได้ถูกส่งไปจำหน่ายในภาคกลางของจีน การค้าในอดีตมีเมืองสุ่ยฟู่เป็นเมืองท่าพักม้าที่สำคัญเรื่อยมา ***
*** (เส้นทางสายไหมตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ เส้นทางการค้าม้าและชา ซึ่งสินค้าม้าและชาจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จะถูกขนส่งไปประเทศพม่าและอินเดีย โดยผ่านมณฑลยูนนาน และในทางกลับกัน สินค้าจากต่างประเทศจะนำเข้าทางเดียวกัน ส่งเข้าสู่มณฑลเสฉวน และมณฑลอื่นๆ) ***
ความรุ่งเรืองนับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมานั้น เกิดจากพ่อค้าชาวเสฉวนเป็นพ่อค้าที่มีความสามารถทางการค้าสูง สามารถสร้างเครือข่ายธุรกิจได้อย่างมั่นคง ประกอบกับนครเฉิงตู (เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน) ขึ้นชื่อในเรื่องการบริโภคสินค้า ทำให้การค้าประเภทต่างๆ ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สร้างผลกำไรให้กับผู้ค้าขายอย่างต่อเนื่อง
สินค้าไทยได้รับการต้อนรับจากภูมิภาคจีนตะวันตก
ปัจจุบัน สินค้าไทยซื้อขายกันบริเวณชายแดนมณฑลยูนนานกับลาว เมื่อสินค้ามาถึงนครคุนหมิงแล้ว จะกระจายไปจำหน่ายยังตลาดค้าปลีกในเมืองอื่นๆ พ่อค้าไทยไม่ได้รวมกลุ่มเป็นเครือข่ายธุรกิจ หรือยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายสินค้า จึงเป็นการค้าอย่างไม่มีรูปแบบ ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในเรื่องของการลงทุนและไม่มีความมั่นคง อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินค้าไทยไม่สามารถเข้าสู่ตลาดตอนในของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของการซื้อขายสินค้าไทย เปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าขายในปัจจุบัน โดยจะช่วยสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนสินค้าไทยขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการเติบโตในภายภาคหน้า ในการนี้ หากมีสินค้าไทยเข้าสู่ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) ก็สามารถเข้าสู่เครือข่ายการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าในมณฑลเสฉวนได้ทันที และสามารถกระจายสู่ผู้บริโภคในระยะเวลาอันสั้น
ในทำนองเดียวกัน อำเภอสุ่ยฟู่กับเมืองจาวทง มีพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตร ได้แก่ มันฝรั่ง แอปเปิล และผักชนิดต่างๆ สินค้าดังกล่าวส่งออกไปยังประเทศไทยจำนวนมาก ทำให้นักธุรกิจ ส่งออกไปยังประเทศไทยผ่านท่าเรือกวนเหล่ยสามารถดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกในเวลาเดียวกัน เมืองล่า เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา
๓. ความแตกต่างของสินค้า : ปกติพ่อค้าไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าสินค้าอุปโภคของไทยไม่ควรแข่งขันกับสินค้าอุปโภคของจีน ซึ่งความคิดเห็นนี้อาจจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ยกตัวอย่างช้อนทานข้าว (อะลูมิเนียม) ช้อนจีนมีน้ำหนัก ๕๐ ถึง ๘๐ กรัม ส่วนช้อนไทยมีน้ำหนักประมาณ ๒๐๐ กรัม ช้อนที่ผลิตในจีนจะมีปัญหาเรื่องคุณภาพ แต่สำหรับสินค้าไทยจะไม่พบปัญหาดังกล่าว เมื่อมีการจำหน่ายสินค้าไทย สินค้าไทยย่อมมีข้อได้เปรียบกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศจีน นอกจากความแตกต่างในด้านคุณภาพแล้ว ยังมีความแตกต่างในชนิดและประเภทของสินค้า อาทิ สินค้าบางประเภทประเทศไทยมี แต่จีนไม่มีหรือมีไม่มากนัก ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยมีกำลังการแข่งขันมากกว่า อาทิ น้ำมันปาล์ม น้ำมันโอลีฟ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล เป็นต้น สิทธิประโยชน์ของผู้ค้าในศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye)
รัฐบาลอำเภอสุ่ยฟู่ได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเป็นนโยบายสำคัญ ซึ่งรวมถึงนโยบายการลงทุนอย่างเสรี อาทิ
๑. การบริการ :
- ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมกับบริษัทลงทุนต่างชาติ
- มีการกำหนดระยะเวลาชัดเจนในการดำเนินการทางด้านเอกสาร
- นักลงทุนจากต่างชาติเมื่อมาลงทุนในสุ่ยฝู่ สามารถดำเนินกิจการก่อนค่อยจดทะเบียน
- สำนักงานตำรวจสุ่ยฟู่จะจัดทำบันทึกการลงทะเบียนการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติไว้ต่างหาก เพื่อประกันความปลอดภัยต่อบุคคลและทรัพย์สิน
- ชาวต่างชาติได้รับสิทธิพิเศษในการเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ การเข้าเรียนของบุตรหลานในสุ่ยฟู่
๒. ภาษี : ปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ว่าด้วยการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติของมณฑลยูนนาน ปี ๒๐๐๕ ซึ่งมีข้อเปลี่ยนแปลง คือ นักลงทุนต่างประเทศที่เข้าลงทุนในศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี เช่น ชำระภาษีคงที่ตามอัตราปีละ ๒๐๐ ถึง ๓๐๐ หยวน ต่อหนึ่งกิจการร้านค้า
๓. การเงิน : การชำระเงินเป็นไปตามนโยบายการชำระเงินหยวนสำหรับธุรกรรมการค้าชายแดน โดยมีธนาคารเกษตรจีนและธนาคารแห่งประเทศจีน (สาขาเมืองสุ่ยฟู่) ดำเนินการอยู่ ธนาคารทั้งสองแห่งได้จัดตั้งฝ่ายต่างประเทศ เพื่อบริการธุรกรรมทางการเงินสำหรับนักลงทุนจากต่างชาติโดยเฉพาะ รวมทั้งได้จัดตั้งระบบสินเชื่อสกุลเงินต่างประเทศเพื่อรองรับการชำระต่าสินค้า/บริการของกิจการจากต่างประเทศ
๔. ข้อพิจารณาการลงทุนของนักธุรกิจต่างประเทศปี ๒๕๕๔ :
๔.๑. ค่าเช่าร้านค้า : จะให้นักธุรกิจที่เข้าลงทุนในศูนย์การค้ารุ่นแรกฟรีค่าเช่าเป็นระยะเวลา ๑ ปีครึ่ง หลังจากนั้น ค่าเช่าร้านค้าเฉลี่ย คือ ๒๕ หยวน/ตารางเมตร/เดือน (ค่าเช่าแตกต่างกันตามชั้นที่ตั้ง สูงสุดไม่เกิน ๓๐ หยวน ต่ำสุด ๒๐ หยวน) ร้านค้าที่มีพื้นที่ ๖๐ ตารางเมตร ค่าเช่ารายเดือนอยู่ที่ ๑,๒๐๐ หยวน
๔.๒. การลงทุนค่าขนส่งสินค้า : ค่าใช้จ่ายจากท่าเรือกวนเหล่ย เมืองล่า เขตปกครองตนเองสิบสองปันนาถึงอำเภอสุ่ยฟู่ ขนส่งเต็มคันรถ ราคา ๖๐๐ หยวน/ตัน ถ้าขนส่งย่อย ราคา ๘๐๐ หยวน/ตัน เฉพาะการขนส่งภายในประเทศจีน การส่งสินค้า ๑ กิโลกรัม มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ๐.๖ — ๐.๘ หยวน
๔.๓. ค่าครองชีพในเมืองสุ่ยฟู่ : เดือนละ ๕๐๐ หยวน สำหรับชาวต่างประเทศค่าครองชีพประมาณเดือนละ ๒,๐๐๐ หยวน (รวมค่าเช่าห้องพัก การอาหาร และน้ำไฟ)
๔.๔. ค่าจ้างลูกจ้าง : ประมาณ ๑,๒๐๐ หยวน/เดือน + โบนัส
๔.๕. ราคาตั๋วเครื่องบิน : นครคุนหมิง-เมืองอี๋ปิง ประมาณ ๔๐๐ หยวน ราคาตั๋วรถไฟ (ชั้น ๑) ราว ๓๐๐ หยวน ราคาตั๋วรถโดยสาร ๒๐๐ หยวน (ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่ตามฤดูกาล)
สรุป : จากการเตรียมความพร้อมมาเป็นระยะเวลา ๑ ปี ใช้เงินทุนกว่า ๑.๕ ล้านหยวน ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์การเปิดศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) การโฆษณาสินค้าที่เข้ามาจำหน่ายในศูนย์การค้า การอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรเพื่อให้มีความเข้าใจในธรรมเนียมปฏิบัติและการปฏิบัติทางศาสนาต่อชาวต่างชาติ การสร้างห้องพักมาตรฐานภายในศูนย์การค้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ดังนั้น ศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) จึงพร้อมที่จะต้อนรับนักลงทุนจากต่างประเทศแล้ว
หากสนใจจะเข้าศูนย์การค้าเฟิงเย้ (Fengye) ต้องทำอย่างไร :
๑. สามารถศึกษาคู่มือการลงทุนของทางบริษัทหรือเข้าเว็บไซต์ http://www.ynsffy.com หรือค้นหาใน Search Engine ต่างๆ
๒. สอบถามโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ โดยติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ที่หมายเลข ๐๘๗๐-๙๘๖-๑๐๖๖, ๑๓๒๑-๑๗๙๔๘๙๐ หรือสอบถามผ่านทางเว็บไซต์
๓. หากมีความประสงค์จะสำรวจศูนย์การค้า สามารถติดต่อได้ โดยศูนย์ฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการต้อนรับจากสนามบิน สถานีรถไฟ สถานีรถโดยสาร รวมถึงอำนวยความสะดวกระหว่างการเยี่ยมชม
๔. หากนักลงทุนมีความสนใจ สามารถดำเนินการเซ็นสัญญาจองร้านค้า โดยการร่างสัญญาจะต้องเป็นไปตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย และเคารพในสิทธิเสรีภาพของนักลงทุน
๕. การตกแต่งร้านค้า ทางศูนย์ฯ มีฝ่ายตกแต่งเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนและตามความต้องการของนักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถกำหนดวันเปิดร้านได้ตามสะดวก
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครคุนหมิง
ที่มา: http://www.depthai.go.th