“ส่งออก” จับตาสถานการณ์รอบโลกพร้อมหาแผนเตรียมรับมืออย่างใกล้ชิด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 23, 2011 16:58 —กรมส่งเสริมการส่งออก

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความวิตกกังวลในสถานการณ์ภายในของประเทศแถบตะวันออกกลางและสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าของไทยว่าได้กำชับให้กรมส่งเสริมการส่งออกสั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทั่วโลก และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของกระทรวงพาณิชย์ (HTA) รายงานถึงสถานการณ์ผลกระทบสินค้าส่งออกของไทยและรีบเร่งเสนอมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้ส่งออกไทยที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด โดยให้เข้าไปเจาะถึงความต้องการสินค้าที่ประเทศนั้นมีความต้องการใช้สินค้าประเภทใดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคและบริโภค

และสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับสูงขึ้น โดยระหว่างนี้จะประเมินสถานการณ์ที่อาจกระทบต่อราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความรุนแรงในลิเบีย หากมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันอย่างมาก ก็จะมีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย “ขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแสวงหาตลาดข้างเคียงเพื่อเปิดประตูสู่ตลาดตะวันออกกลาง พร้อมทั้งยังเป็นการแสวงหาตลาดใหม่เพื่อขยายตลาดส่งออกของสินค้าไทยในเชิงรุกให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคและบริโภค และในเชิงรับมือให้เข้าไปดูถึงสินค้ารายตัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โดยจะต้องดำเนินการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด ส่งเสริมและพัฒนาผู้ส่งออกไทยในการลดต้นทุน โลจิสติกส์ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาคุณภาพสินค้าพร้อมกับส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า” นางพรทิวา กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า มาตรการเร่งด่วนที่สุดที่จะต้องทำในขณะนี้คือกำชับให้ทางสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแถบตะวันออกกลางคอยติดตามและรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์

“ในปี 2554 (ม.ค.-ก.พ.) ไทยส่งออกไปยังลิเบียมูลค่า 42.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 22.68 เมื่อเปรียบเทียบปี 2553 (มีมูลค่า 55.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยกระทบต่อการส่งออกไทยในกลุ่มสินค้ารถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบลดลงร้อยละ 43.35 และอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะในส่วนของอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปลดลงร้อยละ 13.37 (ซึ่งเป็นสินค้าหลักของไทยไปยังลิเบีย นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น การเข้าไปรับโครงการก่อสร้างต่างๆ ตลอดจนปัญหาแรงงานไทย ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลไทย ได้อพยพแรงงานไทยจำนวนกว่า 20,000 คนกลับประเทศ และส่งไปพำนักในที่ปลอดภัยยังประเทศตูนีเซียบางส่วนแล้ว

ด้านการนำเข้าไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากลิเบียในปี 2554 (มค.-กพ.) เป็นลำดับที่ 10 ของการนำเข้าน้ำมันดิบจากทั่วโลก มีมูลค่า 105.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในปี 2553 ไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากลิเบียทั้งปีเพียง 30.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าไทยพยายามแสวงหาแหล่งพลังงาน เช่น น้ำมันดิบแหล่งใหม่ๆ ซึ่งเหตุการณ์นี้น่าจะกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันดิบของไทยจากลิเบีย ไทยจึงต้องเตรียมความพร้อมที่จะหาแหล่งน้ำมันดิบทดแทนการนำเข้าจากลิเบีย” นายวุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติม

และล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีคณะผู้แทนการค้า 2 คณะ จากลิเบีย และอียิปต์ เดินทางมาเจรจาและสั่งซื้อสินค้าจากไทย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสินค้าไทยเป็นที่ต้องการของตลาดลิเบียและอียิปต์ และคาดว่าเมื่อสถานการณ์สงบลงการค้าระหว่างไทยลิเบียจะกลับมาเป็นปรกติ ส่วนด้านสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นทำให้เกิดคลื่อนยักษ์สึนามิ นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า ขณะนี้ได้ให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่ประจำอยู่ในญี่ปุ่นทั้ง 3 สำนักงานจับตามองเหตุการณ์ที่เตาปฎิกรณ์ได้รับความเสียหายอย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นว่ามีผลต่อการค้าการลงทุนของไทยที่เข้าไปทำตลาดในญี่ปุ่นอย่างไร และนำข้อมูลมาประเมินแล้วหามาตรการช่วยเหลือต่อไป ล่าสุดทางกรมส่งเสริมการส่งออก ได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการส่งออกสินค้า 18 กลุ่มถึงผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นต่อการส่งออกไทยว่า ส่วนใหญ่เป็นการหารือเพื่อระดมความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีความต้องการสินค้าหลัก 5 กลุ่ม คือ อาหารพร้อมรับประทาน น้ำดื่ม ผ้าห่ม ถุงนอน และไฟฉาย โดยสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยเตรียมสั่งซื้อผ้าห่ม 2,800 ผืนส่งมอบให้รัฐบาลญี่ปุ่นนำไปแจกจ่าย ขณะที่สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อการส่งออกไทย และสมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง เตรียมบริจาคสินค้าอาหารที่ส่งออกไปญี่ปุ่น ด้วยการให้นำสินค้าที่ขนส่งไปก่อนหน้านี้ไปแจกจ่ายให้คนญี่ปุ่น โดยไม่คิดค่าสินค้าและจะส่งสินค้าไปชดเชยภายหลัง ขณะที่บริษัท พานาโซนิค จำกัด ผู้ผลิตไฟฉายได้กลับไปหารือภายในเพื่อเตรียมบริจาคไฟฉายไปยังญี่ปุ่น ซึ่งทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้แสวงหาเส้นทางในการขนส่งสินค้าต่างๆ ไปยังท่าเรือที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิน้อยที่สุดและรวดเร็วที่สุด

“ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้ตระหนักถึงความรุนแรงของเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ ทำให้ทางกรมฯ มีโครงการที่จะจัดให้มีการอบรมผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งได้รับรู้แนวโน้ม ความเป็นไปของตลาดอื่นๆ ผ่านทาง DEP SMEs Club ซึ่งทางกรมฯ เป็นผู้จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเครือข่ายที่ให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในลักษณะการให้บริการเต็ม พร้อมทั้งส่งเสริมและพัฒนาผู้ส่งออกไทยในการลดต้นทุน โลจิสติกส์ และทางกรมฯ ยังเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือไม่ให้กระทบต่อภาคการส่งออกของไทยทึ่ตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้ 10% หรือ 209,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ”นายวุฒิชัย กล่าว

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ