“พาณิชย์” ดันเป้าส่งออกเป็น 12% มูลค่ากว่า 7 ล้านล้านบาท พร้อมชูนโยบาย "รักชาติ รักไทย นิยมไทย”

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 7, 2011 10:08 —กรมส่งเสริมการส่งออก

พาณิชย์ปรับเป้าส่งออกปี 2554 ใหม่ จาก 10% เพิ่มเป็น 12% มูลค่า 2.19 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 7 ล้านล้านบาท เหตุตลาดส่งออกและการค้าชายแดนขยายตัว คาดสินค้าเกษตรดีขึ้นทั้งข้าว มันสำปะหลังมั่นใจคุมเงินเฟ้อไม่เกิน 3.7% โหมนโยบาย "รักชาติ รักไทย นิยมไทย" นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากระทรวงพาณิชย์จะปรับเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยในปี 2554 ใหม่จากเดิมขยายตัว 10% เพิ่มเป็น 12% คิดเป็นมูลค่า 2.19 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวของตลาดที่มีศักยภาพทุกตลาดตลาดที่สำคัญของไทย เช่น อาเซียน คาดว่าเพิ่มขึ้น 23% จีน 20% และอินเดีย 18% ตลาดที่มีศักยภาพเดิม เช่น สหรัฐ สหภาพยุโรปรวมถึงญี่ปุ่นที่จะมีการระดมทุนหมุนเวียนจากภาครัฐเข้าไปในระบบสูงมากจึงทำให้มีการขยายตัวด้านการค้าการลงทุนสูงกว่าที่คาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดใหม่ขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ทุกตลาด เช่น รัสเซีย แอฟริกา ละตินอเมริกา เป็นต้น

ขณะเดียวกันไทยยังได้รับผลดีจากการขยายตัวของการค้าชายแดน โดยในปีนี้ ตั้งเป้าขยายตัว 22% มูลค่า 900,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านบาท ในปี 2555 ประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้น เช่น กัมพูชา 6% ลาว 7.5% พม่า 5.5% มาเลเซีย 5%

“สำหรับสินค้าสำคัญที่คาดว่าจะส่งออกได้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ข้าว ปี 2554 กำหนดเป้าหมายส่งออกเพิ่มขึ้น 5% หรือประมาณ 9.5 ล้านตันโดยจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกข้าวนึ่งมากขึ้นจาก 3 ล้านตันเป็น 4.5 ล้านตัน ราคาข้าวเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นจากตันละ 578 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 600 เหรียญสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าสินค้าข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าว Organic รวมถึงการบรรจุข้าวขนาดเล็กสำหรับการส่งออก ส่วนมันสำปะหลัง คาดว่าจะส่งออกได้ 6.9 ล้านตัน มูลค่ามากกว่า 7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้โดยรวมเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของอุตสาหกรรม” นางพรทิวา กล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกมาจากภัยธรรมชาติ เช่น ผลกระทบจาภาวะโลกร้อน ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง การใช้สินค้าเกษตรเพื่อการผลิตพลังงานทดแทน ความขัดแย้งทางการเมืองในตะวันออกกลาง และแอฟริกา ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความผันผวนของราคาและความต้องการใช้พลังงานโดยญี่ปุ่นอาจมีความต้องการใช้พลังงานเพื่อทดแทนพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น และราคาน้ำมัน ในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น

ด้านการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ทางกระทรวงพาณิชย์มีเป้าหมายในการผลักดันให้ GDP ขยายตัว 4.5% โดยจะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่เกินร้อยละ 3.7 รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการบริโภคในประเทศให้สมดุลกับการส่งออกโดยมีเป้าหมายที่ร้อยละ 60 ของ GDP ในปี 2564

ส่วนการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ จะเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ SMEs โดยเน้นการพัฒนาเข้าสู่เกณฑ์คุณภาพมาตรฐานสากล ได้แก่ ธุรกิจสปา ร้านอาหาร ก่อสร้าง อู่ซ่อมรถ รวมทั้งกิจการดูแลผู้สูงอายุ โดยปี 52 มี SMEs จำนวน 2.9 ล้านราย ของวิสาหกิจทั้งสิ้น คิดเป็นมูลค่า 3.42 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.8 ของ GDP ประเทศ

สำหรับทิศทางของกระทรวงพาณิชย์ในปี 2554 นี้ จะเน้นดำเนินนโยบาย "รักชาติ รักไทย นิยมไทย" โดยการส่งเสริมการบริโภคอาหารไทย ใช้ผลิตภัณฑ์ของคนไทย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เป็นต้น

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ