การเดินทางของผู้แทนการค้าไทย (นายวัชะ พรรณเชษฐ์) และคณะฯ เยือนประเทศปานามาและคอสตาริกา

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 8, 2011 15:26 —กรมส่งเสริมการส่งออก

การเดินทางของผู้แทนการค้าไทย (นายวัชะ พรรณเชษฐ์) และคณะฯ เยือนประเทศปานามาและคอสตาริกา ในระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔

ด้วยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโกได้เดินทางไปปฎิบัติงานรับผู้แทนการค้าไทย (นายวัชระ พรรณเชษฐ์) และคณะฯ ซึ่งได้เดินทางมาเยือนประเทศปานามา และคอสตาริกา ในระหว่างวันที่ ๒๑ะ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยประเทศทั้งสองเป็นประเทศที่สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงเม็กซิโก รับผิดชอบเป็นเขตอาณา นั้น

ในการนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโกขอรายงานผลการดำเนิน งานและกิจกรรมที่สำนักงานฯ ได้จัดทำในระหว่างที่คณะฯ ได้เดินทางไปเยือนดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ประเทศปานามา ผู้แทนการค้าไทยฯ ได้พบและหารือกับนายโรเบอร์โต เอนริเก้ Mr. Roberto Henriquez) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมปานามา โดยผู้แทนการค้าไทยฯ ได้ยืนยันเจตนารมย์ของไทยในการกระชับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนความร่วมมือด้านอื่นๆ ในฐานะที่ประเทศปานามาเป็นประเทศยุทธศาสตร์ทางการค้า และสามารถเป็นศูนย์กลางทางการค้า การเดินเรือและศูนย์กระจายสินค้าสำหรับไทยได้ ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้แทนการค้าไทยนำคณะภาคเอกชนไทยเดินทางมาเจรจาธุรกิจที่ปานามาถึง ๒ ครั้งภายในหนึ่งปี และยังได้เชิญชวนให้ผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐปานามานำคณะนักธุรกิจปานามาเดินทางมาเยือนไทยเพื่อสานต่อความสัมพันธ์และจับคู่ธุรกิจกับฝ่ายไทยในอนาคต ทั้งนี้ นายโรเบอร์โตฯ ได้เชิญชวนให้ฝ่ายไทยไปร่วมออกงานแสดงสินค้า Expocomer ซึ่งปานามาได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานจาก ๓๕ ประเทศ และหวังว่าฝ่ายไทยจะสามารถเข้าร่วมงานได้ในปี ๒๕๕๕ ซึ่งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ปานามา จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทยได้เจรจาการค้าและเปิดโอกาสความร่วมมือด้านลงทุนกับนักธุรกิจปานามาและประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมงานฯ ได้

นอกจากนี้ผู้แทนการค้าไทยได้พบและหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุต สาหกรรมฯ ด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายฟรานซิสโก อาวาเรซ เดอ โซโต้ (Mr. Francisco Alvares De Soto) โดยในประเด็นได้หารือเรื่องความร่วมมือด้านการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มเติม

ผู้แทนการค้าไทยฯ และคณะผู้แทนการค้าภาคเอกชนได้เข้าเยือนงานแสดงสินค้า Expocomer 2011 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๒๙ ณ ศูนย์การประชุม ATLAPA Convention Center กรุงปานามา โดยมีนายริการ์โด อัลแบร์โต มาร์ติเนลลี แบร์โรกัล (Mr. Ricardo Alberto Marinelli B.) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปานามา และ นางรอล่า ชินชิวล่า มิรานดา (Mrs. Laura Chinchilla Miranda) ประธานาธิบดีสาธารณคอสตาริกา ให้เกียรติกล่าวเปิดงานซึ่งถือว่าเป็น highlight ที่สำคัญของงานดังกล่าว งานฯ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยหอการค้า อุตสาหกรรมและการเกษตรปานามา และถือเป็นงานฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกากลาง มีผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าจำนวน ๖๓๐ ราย จาก ๓๕ ประเทศ และมีคูหาประเทศ National Pavilion จากประเทศบราซิล (๖๐ คูหา) เม็กซิโก (๕๑ คูหา) อินเดีย (๔๑ คูหา) โคลัมเบีย (๓๐ คูหา) และเกาหลีใต้ (๒๐ คูหา) คอสตาริกาและจีน งานฯ ดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าทั่วไป แต่เน้นในกลุ่มสินค้า ๕ กลุ่มได้แก่ อาหาร สิ่งทอ การก่อสร้าง เทคโนโลยี และธุรกิจบริการ และประมาณการณ์ว่ามีการเจรจาการค้าซื้อขายในงานฯ ทันทีประมาณ ๑๒๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ

โดยการเข้าไปเยือนงานฯ นั้น สำนักงานฯ ได้มีการดำเนินการจัดทพนัดหมายการเจรจาให้ แก่ภาคเอกชนไทยไว้เป็นการล่วงหน้าเป็นบางส่วนประมาณ ๒๐ ราย โดยมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ MOU ที่สำคัญจำนวน ๒ ฉบับ คือ การลงนามเพิ่มเติม Annex จากบันทึกความเข้าใจฯ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ระหว่างสภาหอการค้าไทยกับหอการค้า อุตสาหกรรมและการเกษตรปานามา โดยการกำหนด Plan of Action เพื่อให้ดำเนินการด้านกิจกรรมเป็นรูปธรรมของทั้งสององค์กร และการลงนามของสภาธุรกิจไทย-ลาตินกับกลุ่มธุรกิจ Importadora Ricamar S.A. ซึ่งเป็นกลุ่มห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต Super 99 ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศปานามา เจ้าของกิจการคือนาย ริคาร์โด มาร์ติเนลลี่ (Ricardo Martinelli) ประธานาธิบดีประเทศปานามาในปัจจุบัน โดยจุดประสงค์เพื่อให้มีการยืนยันการเดินทางมาเยือนงานแสดงสินค้า THAIFEX 2011 ในไทยในการเจรจาการค้าในงานฯ และการหารือเพื่อกำหนดจัดทำกิจกรรมสินค้าอาหารไทยกับห้างฯ ในประเทศปานามาในอนาคต

ประเทศคอสตาริกา ผู้แทนการค้าไทยฯ ได้พบหารือกับนายเฟดเดริโก วาเลอริโอ (Mr. Federico Valerio) อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงการค้าต่างประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับลู่ทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยผู้แทนการค้าไทยได้ย้ำถึงโอกาสและศักยภาพของประเทศไทยในด้านการค้าและการลงทุนในอาเซียน โดยเฉพาะการรวมตัวเป็นตลาดเดียวของอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถเป็นศูนย์กลางทางการค้าการลงทุนและเป็นประตูสู่ภูมิภาคเอเชียให้กับประเทศคอสตาริกาและประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกา ส่วนนายเฟดเดริโกฯ ได้เชิญชวนให้ไทยไปลงทุนในคอสตาริกา โดยเฉพาะสาขา life science, high-tech export และ value chain ซึ่งไทยสามารถใช้คอสตาริกาเป็นประตูเชื่อมสู่ประเทศอื่นๆ ที่คอสตาริกามีความตกลงการค้าเสรีด้วย อาทิ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา รวมทั้งกำลังเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับจีนและสิงคโปร์ นอกจากนี้ คอสตาริกายังเป็นประเทศที่การเมืองที่มั่นคง มีเศรษฐกิจเสรีเอื้อต่อการลงทุน และมีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

ผู้แทนการค้าไทยฯ ได้มีการเข้าพบหารือกับนายแอร์เมส นาวาร์โร (Mr. Hermes Navarro) ผู้ประสานงานอาวุโสและผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวประเทศคอสตาริกา โดยนายแอร์เมสฯ ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับประเทศคอสตาริกา และให้ความมั่นใจว่าคอสตาริกาเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางการเมือง และเน้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก จุดเด่นคือ ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้า ของที่ดินในคอสตาริกาได้ นอกจากนี้คอสตาริกายังเป็นประเทศที่ประชากรมีความสุขติดอันดับโลก มีอัตราผู้รู้หนังสือมากที่สุดในลา ตินอเมริกา โดย GDP ร้อยละ ๖๕ มาจากสาขาบริการ ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปคอสตาริกามากว่าสองล้านราย ประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน ๒,๑๔๗ ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ เห็นว่า ไทยกับคอสตาริกามีรายได้หลักจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเช่นกัน โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเดียวกันคือ กลุ่มคนมีเงินที่ชอบท่องเที่ยวทะเล อย่างไรก็ตาม คอสตาริกาเน้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ (eco-tourism) และยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายไทย

ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้ดำเนินการจัดทำกิจกรรมการสัมมนาในหัวข้อเรื่อง Thailand Costa Rica Business Partnership โดยจัด ณ ห้องประชุม โรงแรม Intercontinental Real San Jose ณ กรุงซานโฮเซ่ เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยมีการบรรยายสรุปศักยภาพการค้าของไทยกับทั่วโลก การค้าของไทยกับประเทศคอสตาริกา การเปลี่ยนเปลงของตลาดในอาเซียนจาก AFTA ไปสู่ AEC และกิจกรรมการค้าที่สำนักงานฯ จัดทำในภูมิภาค ต่อด้วยการฉาย DVD ของ ททท. เรื่อง Once in a Lifetime และการลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU ๘ ฉบับ การร่วมรับประทานอาหารกลางวันและการจัดคู่ทางธุรกิจ Matchmaking ให้แก่ภาคเอกชนไทย ซึ่งผลตอบรับ มีนักธุรกิจคอสตาริกาเข้ามาร่วมกิจกรรมจำนวน ๑๑๕ ราย สำหรับบันทึกความเข้าใจ MOU ที่สำคัญมี ๒ ฉบับ คือการลงนามความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าไทยกับหอการค้าคอสตาริกา และระหว่างสภาธุรกิจไทย-ลาตินกับหอการค้าระหว่างประเทศคอสตาริกา CRECEX

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก เม็กซิโก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ