สำนักงานศุลกากรจีน เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 จีนเสียเปรียบดุลการค้า 1,020 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นการขาดดุลรายไตรมาสครั้งแรก ในรอบ 6 ปี คาดว่าปีนี้ การได้เปรียบดุลการค้าของจีนจะหดตัวลงประมาณ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
จากสถิติ มูลค่าการนำเข้าสินค้าช่วงไตรมาสแรกของปีนี้สูงเกิน 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเติบโตขึ้นร้อยละ 5.1 จากไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 เฉพาะเดือนมีนาคมเดือนเดียว มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกรวม 304,260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตร้อยละ 31.4 ในจำนวนนี้ เป็นมูลค่าการส่งออก 152,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตร้อยละ 35.8 และเป็นมูลค่าการนำเข้า 152,060 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตร้อยละ 27.3 มากกว่าเดือนมกราคม 2554 ที่ทำลายสถิติการนำเข้าไปแล้ว 1 รอบ และเนื่องจากอัตราการนำเข้าที่มีมากเกินไป ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้จีนเสียเปรียบดุลการค้า 1,020 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า จีนได้เปรียบดุลการค้าถึง 13,910 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้จีนเสียเปรียบดุลการค้าในครั้งนี้ คือ 1.เศรษฐกิจภายในประเทศพัฒนาค่อนข้างรวดเร็ว 2.วันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีนยาวนานเกินไป 3.ราคาสินค้าที่นำเข้าสู่กระบวนการผลิตในตลาดสูงขึ้น เนื่องจาก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้อุตสาหกรรมเติบโตขึ้น กระตุ้นความต้องการสินค้ามากขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าดังกล่าวสูงขึ้น ประกอบกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศอ่อนลง ทำให้ราคาสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: หนังสือพิมพ์ หัวซีตูซื่อเป้า (Hua Xi Du Shi Bao) วันที่ 12 เมษายน 2554
ที่มา: http://www.depthai.go.th