เดี๋ยวนี้ในเมืองไทย ดูจะเป็นแฟชั่นกันไปแล้ว ที่แถวเพลินจิต-สุขุมวิทมักจะมีเทวสถานใหม่ๆ ผุดขึ้นเสมอ พี่ว่าคนไทยชอบอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ นะ ไม่ชอบอะไรจำเจ มีเทพใหม่ๆ มาให้กราบไหว้บูชาก็มักจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
ที่หน้าตึกจัสมิน ปากซอยสุขุวิท 23 มีเทวรูปนามพระอรรธนารีศวร (Ardhanariswara) ลักษณะเป็น ครึ่งพระศิวะ ครึ่งพระอุมาเทวี บางครั้งเรียกพระนางปรวตี ตามรูปศัพท์หมายถึง “ครึ่งเทพครึ่งหญิง” (อรรธ แปลว่าครึ่ง นารีแปลว่าสตรี อิศวรแปลว่าเทพผู้เป็นใหญ่) เป็นปางหนึ่งใน 64 ปางของพระศิวะมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเยอะมาก เมื่อถามแขกก็ยังจำไม่ได้เลยว่ามีปางอะไรบ้าง ความหมายที่อยู่เบื้องหลังของปางนี้ก็คือ เป็นการรวมพลังแห่งเพศชายและเพศหญิงเข้าด้วยกันเป็นผลให้เกิดพลังรังสรรค์สิ่งใหม่ๆไม่สิ้นสุด เกิดความอุดมสมบูรณ์พูลสุขไปทั่วท้องจักรวาล หรือจะเรียกว่าเป็นการหลอมรวมกันของพลังแห่งพระเดชและพระคุณก็ไม่น่าจะผิดนัก คล้ายๆ กับพลังหยิน — หยาง ของจีน ซึ่งเป็นพลังที่ตรงข้ามกัน แต่เกื้อกูลกันก่อให้เกิดความสมดุลแห่งจักรวาล (ฟังดูเข้าท่าไหม?) รูปทางซ้ายนี่พี่แอบถ่ายมาจากพิพิทธภัณฑ์ในเมืองเจนไนจ๊ะ
มีเรื่องเล่าต่างๆ อยู่หลาย Version เกี่ยวกับความเป็นมาของ พระอรรธนารีศวร แต่พี่ขอเล่าเวอร์ชั่นที่โรแมนติกดีกว่า คือว่าพระนางปรวตีได้ขอพรจากพระศิวะมหาเทพให้พระนางและพระองค์จงได้ครองคู่กันตลอดไป อย่าได้พรากจากกันเลย ซึ่งพระศิวะมหาเทพก็เมตตาประทานพรให้ดังคำขอ จึงเกิดเป็นพระศิวะปางพระอรรถนารีศวรขึ้น
ที่เมือง Thiruchengudu ใกล้เมืองซาเล็มหรือเซลัมของรัฐทมิฬนาฑู มีเทวาลัยของเทพพระอรรธนารีศวร เป็นที่เคารพและศรัทธาของนักแสวงบุญจำนวนมาก แต่หากไปมุมไบก็ต้องไปที่วัดถ้ำ Elephanta และวัดถ้ำ Ellora ก็มีให้ชมเช่นกัน
ไม่ว่าไปแสวงบุญที่ไหน คนอินเดียก็นิยมรับประทานเจกัน ดังนั้น ร้านอาหารเจจึงมีมากกว่าร้านไม่เจ คนอินเดียเป็นชาวมังสะวิรัตกันกว่า 60% อาหารไทยที่จะไปเปิดตลาดอินเดียควรเน้นตลาดอาหารเจเป็นพิเศษ อีกอย่างคนอินเดียเวลามาเที่ยวเมืองไทยมักถามหาอาหารเจเสมอ ดังนั้น ร้านอาหารไทยควรมีป้ายบอกว่ามี “Vegetarian Food” ปิดไว้หน้าร้าน เพื่อต้อนรับลูกค้าแขก ว่างๆ พี่ว่าจะไปลองเปิดร้านอาหารไทยแบบเจที่เจนไนดูบ้าง น่าจะ work
ที่มา: http://www.depthai.go.th