อภิมหาโปรเจกงานก่อสร้างทางหลวงอินเดีย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 3, 2011 13:48 —กรมส่งเสริมการส่งออก

อินเดียมีเครือข่ายถนนรวมกันยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะกว่า 3.314 ล้านกิโลเมตร ปัจจุบันอินเดียกำลังเร่งรัดพัฒนาทางหลวงเชื่อมหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศ เพื่อผลักดันให้อินเดียเป็นยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้

ในถนน 3 ล้านกิโลเมตรของอินเดียเป็นทางหลวงแผ่นดิน (National Highways) ระยะทาง 66,754 กิโลเมตร เดิมเป็นถนนสองช่องทางและส่วนใหญ่จะชำรุด แต่นับจากปี 2548 เป็นต้นมารัฐบาลอินเดียได้ทุ่มงบประมาณกว่า 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปรับปรุงทางหลวงแผ่นดินเชื่อมหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญของอินเดีย ได้แก่ เจนไน บังกะลอร์ ปูเน่ มุมไบ สุรัต เวโดดารา อาห์เมดาบัด นิวเดลี อัครา อลาฮาบัด กันปูร์ พารานาสี อะรองกาบัด โกลกัตตา วิสาขาปัตนัม และกุนตูร์ (ระยะทาง 5,840 กิโลเมตร)ให้เป็นถนน 4 ช่องทางทันสมัยได้มาตรฐานสากล ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า “โครงการสุวรรณจตุรพักตร์” หรือ "Swarna Chathuspatha"(Golden Quadrilateral) คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2563 ทั้งนี้ในช่วงถนนที่ใกล้หัวเมืองใหญ่จะขยายเป็น 8 ช่องทางเพื่อลดความแออัด

สำหรับทางหลวงสุวรรณจตุรพักตร์ด้านใต้คือทางหลวงหมายเลข 4 เป็นส่วนที่มีความสำคัญและมีการจราจรหนาแน่นมากที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางที่เชื่อมเมืองเศรษฐกิจชั้นนำของอินเดียถึง 4 เมืองเข้าด้วยกัน คือ มุมไบ ปูเน่ บังกะลอร์ และเจนไน ด้วยระยะทาง1,235 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นเส้นทางเชื่อมท่าเรือที่มีการขนถ่ายสินค้าหนาแน่นมากที่สุดของอินเดีย 2 เมือง คือมุมไบและเจนไนเข้าด้วยกัน ถนนช่วงมุมไบ-ปูเน่ เป็นทางด่วนพิเศษ 8 ขนาดช่องทาง (Mumbai-Pune Expressway)

ส่วนโครงการสุวรรณจตุรพักตร์ตอนเหนือ ช่วงนิวเดลี-อัคราเป็นโครงการเมกะโปรเจคชื่อ the Yamuna Expressway Project ซึ่งคู่ขนานไปตามลำน้ำยมุนา เป็นถนน 6 เลนเชื่อมต่อระหว่างเมืองเกรตเตอร์นอยดา (ชานกรุงนิวเดลี) และนครอัคราระยะทางกว่า 165 กิโลเมตรทั้งนี้ได้มีโครงการพัฒนาเมืองรายทาง 5 เมืองควบคู่ไปด้วย ได้แก่ เมือง Greater Noida, Jaganpor, Mairzapur, Tappal และ Agra โดยแต่ละเมืองจะมีโครงการเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองใหม่ เช่น บ้านจัดสรร สโมสร สนามกอล์ฟ สปอร์ตคอมเพล็ก entertainment complex คอนโด สวนสาธารณะ โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ โรงไฟฟ้า อาคารสำนักงาน ฯลฯ ผลกระทบที่เห็นได้ชัดจาก โครงการสุวรรณจตุรพักตร์คือ บริษัทรถหรูทุกค่าย ไม่ว่าจะเป็นจากัวร์ แลมโบกินี BMW และเมอร์ซิเดสเบนซ์ต่างเตรียมวางตลาดรถระดับ premium เพื่อรองรับความต้องการรถหรูที่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนกล่าวว่า โครงการดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้เกิดการกระจายความเจริญไปสู่ส่วนต่างๆ ของอินเดียอย่างทั่วถึงแล้ว ยังเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจก่อสร้างไทย ไม่เฉพาะการรับงานก่อสร้างถนนเท่านั้น ยังหมายรวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อาคารที่พักอาศัย สำนักงาน โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และแหล่งบันเทิงใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดเส้นทางของโครงการสุวรรณจตุรพักตร์นี้

นอกจากนั้น สิ่งที่จะตามมาก็คือโอกาสในการเจาะตลาดของสินค้าไทยที่จะเพิ่มขึ้น จากการเติบโตของชุมชนใหม่ๆ บนเส้นทางนี้ โดยสินค้าไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ สินค้าอาหาร ชิ้นส่วนยานยต์ รองเท้า/ชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์หนังฟอก ผลไม้แปรรูป น้ำผลไม้ โทรทัศน์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ หม้อแปลง ลิฟต์ บันไดเลื่อน สิ่งปรุงแต่งรสอาหาร เฟอร์นิเจอร์ ไม้อัด ไม้ยางพารา ไฟเบอร์บอร์ด กระดาษ ของเล่น/เฟอร์นิเจอร์/ของใช้เด็ก ผลิตภัณฑ์พลาสติก เม็ดพลาสติก เมลามีน ยาง/ผลิตภัณฑ์ อลูมิเนียม และทองรูปพรรณ (อินเดียบริโภคทองคำมากที่สุดในโลก)

“จุดสำคัญที่ไทยไม่ควรมองข้ามคือการเชื่อมถนนผ่านพม่าไปยังถนนโครงการสุวรรณจตุรพักตร์ เนื่องจากจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการเข้าสู่ตลาดอินเดียภายใต้ความตกลง FTA อาเซียน-อินเดียได้ดียิ่งขึ้น” นายไพศาลกล่าวเพิ่มเติมในตอนท้าย

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก อินเดีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ