ชี้ช่องรวยเจาะตลาดยางพาราแขก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 3, 2011 14:49 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์อินเดีย (ผู้บริโภคยางรายใหญ่) มียอดขายในประเทศเกือบ 3 ล้านคัน ขณะที่ผลผลิตยางพราในอินเดียไม่เพียงพอกับความต้องการ ส่งผลให้ผู้ผลิตยางรถยนต์อินเดียเรียกร้องให้รัฐลดภาษีนำเข้าและเพิ่มการนำเข้ายางพารา

แม้รัฐบาลอินเดียจะเปิดเสรีทางการค้าและอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี 2543 แต่อุปสรรคสำคัญคือภาษีนำเข้าที่สูงถึง 20 % ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการผลิตยางพารามีไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ จึงทำให้รัฐบาลต้องลดภาษีนำเข้ายางพาราในช่วงปลายปีของทุกปี โดยในปี 2553-54 อินเดียเปิดโควตาภาษีให้มีการนำเข้ายางพารา 40,000 ตัน ในอัตราภาษี 10 %ในช่วง ม.ค.-มี.ค. 2554 ทั้งนี้สมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ (Atma) ให้ความเห็นว่าความต้องการนำเข้ายางพาราที่แท้จริงของอินเดียมีสูงถึง 200,000 ตันต่อปี แต่อุปสรรคเรื่องโควตาภาษีทำให้มีการนำเข้าต่ำกว่าที่เป็นจริง ขณะที่ผู้ผลิตยางพาราในประเทศก็ต้องการให้คงกำแพงภาษีไว้

อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตยางพารารายใหญ่อันดับสี่ของโลกรองจากไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และเป็นผู้ใช้ยางอันดับสองของโลกรองจากจีน พื้นที่ปลูกยาพาราอินเดียเป็นรัฐเคราละและรัฐทมิฬนาดูทางใต้ของอินเดีย มีกำลังการผลิต 600,000 ตันต่อปี คาดว่าในปี 2554 จะมีผลผลิตยางพารา 916,000 ตัน ขณะที่มีความต้องการใช้ยางธรรมชาติมีกว่า 1 ล้านตัน ผลผลิตส่วนใหญ่จึงถูกใช้ภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยางรถยนต์และรถจักรยานยนต์( 65%) นอกนั้นจะถูกใช้ในอุตสาหกรรมรองเท้า อุตสาหกรรมไฮเทค และการแปรรูปเพื่อการส่งออก

นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนกล่าวว่า อินเดียมีแนวโน้มต้องนำเข้ายางพาราเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยปี 2553 อินเดียมีการนำเข้ายางจากต่างประเทศเป็นปริมาณมากกว่า 70,000 ตัน เพิ่มขึ้น 42% แหล่งนำเข้าสำคัญอันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย(48%) รองลงมาเป็น ไทย (37%) และศรีลังกา (7%) ตามลำดับ โดยเป็นการนำเข้าจากไทย 196 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นสูงถึง 78% สำหรับผู้สนใจเปิดตลาดยางพาราอินเดีย อย่าได้รอช้า ติดต่อสำนักงานฯ เจนไนโดยด่วนที่ thaitradechennai@gmail.com

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ