Thailand Trade Exhibition ลั่นกลองรบที่เมืองเจนไน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 3, 2011 14:55 —กรมส่งเสริมการส่งออก

นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า งานแสดงสินค้า Thailand Trade Exhibition 2011 ที่เมืองเจนไนระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2554 มีบริษัทไทยสมัครเข้าร่วมงานล้นหลามเกินความคาดหมายกว่า 150 ราย เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพของตลาดเจนไน สำหรับในปีนี้คาดว่าจะมีชาวโรตีเข้าเยี่ยมชมไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนคนเช่นทุกปี

เจนไนยังเป็นประตูสู่อินเดียที่ดีสำหรับประเทศไทย เนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศไทยและมีทางหลวงสุวรรณจตุรพักตร์ เชื่อมโยงกับเมืองเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น บังกะลอร์ ปูเน่ มุมไบ สุรัต เวโดดารา อาห์เมดาบัด นิวเดลี อัครา อลาฮาบัด กันปูร์ พารานาสี ออรังกาบัด โกลกัตตา วิสาขาปัตนัม และกุนตูร์ ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมงานมั่นใจได้แน่นอนว่าสินค้าไทยจะสามารถกระจายสู่ทั่วประเทศอินเดียได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้นเจนไนเองยังเป็นตลาดรองรับสินค้าไทยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคนเจนไนมีกำลังซื้อสูงเพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมสำคัญของเจนไน ได้แก่ การผลิตรถยนต์ (30 % ของการผลิตรถยนต์ในอินเดีย ซึ่ง Hyundai มีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมืองเจนไน ) IT (Software & Hardware), BPO และบริการที่เกี่ยวเนื่องกับ IT (เจนไนมีการส่งออก software และ ITES มากเป็นอันดับสองรองจากบังกะลอร์) Medical Hub เครื่องหนัง รองเท้า อัญมณี เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาพยนต์ (โกลลิวูด) การผลิตกระดาษจากชันอ้อย การท่าเรือ ปัจจุบันมีบริษัทไทย เข้าไปลงทุน เช่น CP (โรงงานอาหารสัตว์) เดลตา (ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์) และบ้านพฤกษา (บ้านจัดสรร)

ผลจากการที่เจนไนมีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ มี FDI เป็นอันดับต้นๆ ของอินเดีย และมีท่าเรือที่ทันสมัยและดีเยี่ยม อีกทั้งปัจจุบันคนอินเดียมีกำลังซื้อสูงขึ้น มีเศรษฐีใหม่คนชั้นกลางกว่า 300 ล้านคน อันเนื่องมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้าน IT และยานยนต์ ส่งผลให้เจนไนมีศักยภาพรองรับสินค้าไทยป้อนสายการผลิตและผู้บริโภคหลายชนิด เช่น สินค้าอาหาร สิ่งปรุงแต่งรสอาหาร ผลไม้แปรรูป น้ำผลไม้ ชิ้นส่วนยานยนต์ พลาสติกและผลิตภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องหนัง/หนังฝอก/รองเท้า/ชิ้นส่วน เฟอร์นิเจอร์ ทองรูปพรรณ (อินเดียบริโภคทองคำมากที่สุดในโลก) พลาสติก/เมลามีน ยาง/ผลิตภัณฑ์ กระดาษ กล่องกระดาษ อลูมิเนียม หม้อแปลง ลิฟต์ บันไดเลื่อน ไม้อัด ไม้ยางพารา ไฟเบอร์บอร์ด กระดาษ ของเล่น/ของเล่นเพื่อการศึกษาเฟอร์นิเจอร์/ของใช้เด็ก โทรทัศน์ เครื่องใช้ไฟฟ้า พัดลม ตู้เย็น เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องปรับอากาศ และเครื่องสำรองไฟฟ้า

นอกจากนั้น ปัจจุบันสินค้าส่งออกของไทยได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลดภาษีภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย (TIFTA) และกรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) ทำให้สินค้าส่งออกหลายรายการมีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดอินเดียได้มากขึ้น เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

FTA ไทย-อินเดีย ไทยและอินเดียได้ตกลงลดภาษีระหว่างกันในรายการสินค้าเร่งลดภาษี (Early Harvest Scheme) จำนวน 82 รายการ โดยทั้ง 82 รายการมีอัตราภาษี 0% ปัจจุบัน ไทย-อินเดียอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมการเปิดเสรีสินค้าในส่วนที่เหลือ สินค้าที่มีศักยภาพส่งออกไปอินเดียภายใต้ FTA ไทย — อินเดีย ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ อะลูมิเนียมเจือ เครื่องประดับเพชรพลอย โพลิคาร์บอเนต ชิ้นส่วนยายนยนต์ พัดลม และเครื่องจักรกลการเกษตร

ตรวจสอบข้อมูลสินค้าที่ได้รับประโยชน์จาก FTA ไทย — อินเดีย(TIFTA)ได้ที่

http://www.dft.go.th/level4Frame.asp?sPage=the_files/$$12/level3/fta_ind.htm&level3=1068

FTA อาเซียน-อินเดีย มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ครอบคลุมสินค้ากว่า 4,800 รายการ โดยสินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ กรดเทเรฟทาลิก เครื่องยนต์ดีเซล เอทิลีน ผ้าใบยางรถยนต์ ถังเชื้อเพลิง ยางสังเคราะห์ และเครื่องรับวิทยุ เป็นต้น

ตรวจสอบข้อมูลสินค้าที่ได้รับประโยชน์จาก FTA อาเซียน — อินเดีย(AIFTA) ได้ที่

http://www.dft.go.th/level4Frame.asp?sPage=the_files/$$12/level3/Asean_India.htm&level3=1236

นายไพศาลฯ ให้ความมั่นใจได้ว่า Thailand Trade Exhibition ปีนี้ สินค้าไทยจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวอินเดียเช่นเคย แต่ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นคือ สินค้าที่เตรียมไปอาจไม่พอขาย

โดย ดร. ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ

ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ