โตโยต้าอินเดียกระอักพิษนิวเคลียร์ปลาดิบ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 3, 2011 15:16 —กรมส่งเสริมการส่งออก

โตโยต้าและฮอนด้าในอินเดียเจอพิษนิวเคลียร์ Japan ขาดแคลนชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นอย่างหนัก ส่งผลดีต่อไทยในการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปอินเดียได้มากขึ้น

นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงาน โตโยต้าที่บังกะลอร์เดินเครื่องผลิตเพียง 30% ใน ขณะที่โรงงานฮอนด้าที่นอยด้าชานกรุงนิวเดลีประกาศลดการผลิตลงถึงครึ่งหนึ่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป การชะลอการผลิตมีแนวโนมจะยืดเยื้อไปถึงปลายปี 2554 ไม่ต่างไปจากปัญหาที่เกิดกับโรงงานผลิตรถญี่ปุ่นทั่วโลก

ค่ายรถทั้งสองจำต้องชะลอการวางตลาดรถเล็กรุ่นใหม่ในปีนี้ออกไป ฮอนด้าต้องเลื่อนการวางตลาดรถรุ่นบริโอไปเป็นเดือนกันยายน ช้ากว่าในไทยหลายเดือน ส่วนโตโยต้าก็ชะลอการวางตลาดรถรุ่นลิวาออกไปเป็นเดือนกรกฎาคม แน่นอนว่าลูกค้าหลายคนคงจะรอไม่ไหวและหันไปซื้อรถ ฮุนได มารูติ ฟอร์ดและโฟล์คสวาเก้น

แม้ฮอนด้าซิตีจะเป็นรถยอดฮิตติดตลาด แต่รถโฟล์ครุ่นเวนโตก็ไล่บี้มาติดๆ ขณะที่รถออฟโรดและรถดีเซลของมารูติซูซูกิก็ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้น ฮอนด้าคงจะต้องทำการบ้านมากขึ้นเสียแล้วเพื่อไม่ให้ลูกค้าหนีไปหมด สำหรับรถอินโนวารถยอดนิยมในอินเดียจากค่ายโตโยต้าที่เคยขายได้ 5,000 คันต่อเดือน แต่เมื่อการผลิตหายไป 70% ลูกค้าจะรอไหวหรือ? ในเมื่อคู่แข่งกำลังผลักรถรุ่นใหม่ออกมายั่วกิเลสลูกค้าทุกวัน สำหรับรถรุ่นอิติโอสของโตโยต้าจะมียอดสั่งจองยาวเหยียดกว่า 2 หมื่นคัน แต่ลูกค้าคงทิ้งใบจองแน่ถ้าต้องคอยกันเป็นปี และคู่แข่งคงจะไม่อยู่เฉยๆ เป็นแน่ ฮุนไดและมหินดรากำลังลับดาบไว้คอยท่าแล้ว การสะดุดครั้งนี้ของฮอนด้าและโตโยต้าดูจะเป็นการสะดุดราคาแพงเกินไปเสียแล้ว

โตโยต้าและฮอนด้าคงจะไม่ลืมมิตรแท้อย่างประเทศไทยที่คอยช่วยเหลืออยู่ และซื้อชิ้นส่วนรถยนต์จากประเทศไทยให้มากขึ้น และคงจะต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้การผลิตชิ้นส่วนฯให้ไทยมากขึ้น แทนที่จะหวงเทคโนโลยีชั้นสูงไว้ในประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียว หากไม่ต้องการสูญเสียตลาดรถยนต์ที่มียอดขายเกือบ 3 ล้านคันต่อปีเช่นอินเดีย ทั้งนี้สินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ส่วนใหญ่ได้รับสิทธิพิเศษภายใต้ความตกลง FTA ไทย-อินเดีย และ FTA อาเซียน-อินเดีย

“นอกจากโอกาสทางการค้าในสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว น้ำยางและยางแผ่นก็เป็นที่ต้องการสูงเช่นกันในอุตสาหกรรมยางรถยนต์” นายไพศาลฯ เพิ่มเติมในตอนท้าย

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ