ตลาดไข่ไก่ในฮ่องกง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 4, 2011 16:04 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ในแต่ละเดือนฮ่องกงบริโภคไข่ไก่ประมาณ 150 ล้านฟอง โดยทั้งหมดเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ปี 2553 ฮ่องกงนำเข้าไข่ 1,759 ล้านฟอง เป็นมูลค่า 112, ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 แหล่งนำเข้าที่สำคัญได้แก่ จีน(ร้อยละ 59.9) สหรัฐ(ร้อยละ 20.4) และไทย(ร้อยละ 9.3)

ในช่วงปี 2551 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 19.9 เนื่องจากไข่จากจีนมีปัญหาเรื่องคุณภาพ แต่หลังจากนั้นปริมาณการนำเข้าจากไทยลดลงเป็นลำดับ ในขณะที่ไข่ไก่จากจีน สหรัฐอเมริกามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ตามมาอย่างมีนัยสำคัญ

ราคา

ราคา อัตราแลกเปลี่ยน 1 USD ประมาณ 7.8 เหรียญฮ่องกง (1 HKD ประมาณ 4 บาท)

  • ราคานำเข้า โดยเฉลี่ยประมาณ ฟองละ 0.47 เหรียญฮ่องกง
  • ราคาขายส่ง ในตลาด Western Market ณ วันที่ 28 เมษายน 2554 ของราคาไข่ไก่ที่มีขนาดกลาง จากจีนฟองละ 0.65 เหรียญฮ่องกง และจากสหรัฐอเมริกาฟองละ 0.07 เหรียญฮ่องกง
  • ราคาขายปลีก ในตลาดสดและซุปเปอร์มาเก็ต Park N Shop ณ วันที่ 28 เมษายน 2554

โดยทั่วไปไข่ไก่จากจีนจะมีราคาถูกกว่าไข่ไทยประมาณร้อยละ 10-15 ในขณะที่ไข่จากสหรัฐฯ ในช่วงต้นปีก็ลดราคาลงมาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ส่วนราคาไข่จากไทยจะอยู่ในระดับกลาง แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาราคาไข่ไทยขยับสูงขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกับราคาไข่จากสหรัฐฯ ในขณะที่ไข่จากจีนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยในเดือนพฤษภาคม 2554 ราคาไข่ไก่ขนาดเบอร์ 0 จากจีน อยู่ที่ฟองละ 1.04 เหรียญฮ่องกง มาเลเซีย เท่ากับ 1.65 เหรียญฮ่องกง ไทย เท่ากับ 1.8 เหรียญฮ่องกง ไข่สหรัฐฯ เท่ากับ 2.40 เหรียญฮ่องกง ส่วนราคาไข่จากญี่ปุ่น เกาหลี นิวซีแลนด์ จะมีราคาแพงกว่าไข่จากไทย เนื่องจากมีการเพิ่มมูลค่าเพิ่ม จากกล่าวอ้างถึง organic, free range, omega3, raise by kimchi ฯลฯ บนบรรจุภัณฑ์นอกเหนือจาก แหล่งที่มา (product from...)

ผลกระทบกรณีไทยชะลอการส่งออกไข่ไก่ลงในฮ่องกง

1. ผู้นำเข้าฮ่องกงจะเพิ่มการนำเข้าจากแหล่งชั้นทดแทนทันที โดยแยกเป็น

  • ตลาดระดับล่างที่มีความอ่อนไหวต่อราคามาก ก็จะนำเข้าจากจีนมากขึ้น
  • ตลาดระดับกลางบนที่เน้นเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย ก็จะนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ เกาหลีแทน
  • ตลาดที่คุ้นเคยกับแบรนด์จากประเทศไทยเป็นอย่างดี ต้องการคุณภาพที่เชื่อถือได้ แต่ราคาเหมาะสม อาจหันไปนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านไทย เช่น มาเลเซียแทน

2. ตลาดฮ่องกงนับเป็นตลาดที่มีความคุ้นเคยและยอมรับแบรนด์สินค้าอาหารของไทยเป็นอย่างดี แม้จะมีคู่แข่งด้านราคาจากจีนก็ตาม ดังนั้น จึงควรรักษาความได้เปรียบตรงนี้ไว้ เพราะหากสินค้าจากประเทศคู่แข่งอื่นเข้ามาทดแทนได้ ก็ยากที่จะแย่งชิงกับคืนมา

สคร. ณ เมืองฮ่องกง

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ