แม้ตลาดรถยนต์อินเดียจะร้อนแรง แต่ตลาดยานยนต์ 2 ล้อกลับร้อนแรงยิ่งกว่า โดยคาดว่าปีนี้จะมียอดขายกว่า 15 ล้านคัน เพิ่มขึ้นถึง 20 % เมือเทียบกับปี 2553
ฮีโร่ฮอนด้าและ Bajaj Auto จะยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยยอดขายจักรยานยนต์และสกูตเตอร์รวมราว 10 ล้านคัน ส่วนค่าย TVS และฮอนด้ามอเตอร์ไซเคิลจะมียอดขายรวมราว 3.5 ล้านคัน สำหรับ Mahindra & Mahindra, ซูซูกิและยามาฮ่าจะมียอดขายรวม 1.5 ล้านคัน
โดยทั่วไปยานยนต์ 2 ล้อจะขายดีในเมืองเล็กๆ ซึ่งมีการขยายตัวของตลาดอย่างรวดเร็ว ประกอบกับราคาน้ำมันมีแนวโน้มขึ้นราคาอีก ยิ่งเป็นตัวส่งให้ยอดขายยานยนต์ 2 พุ่งไม่หยุด และยอดขายในปีนี้อาจพุ่งขึ้นสูงถึง 2 ล้านคัน
แต่เมื่อพิจารณารายสินค้า พบว่าจักรยานยนต์รุ่นแอคติวาของฮอนด้ามอเตอร์ไซค์แอนสกูตเตอร์ HMSI มียอดขายสูงสุด ส่วน รุ่นสกูตตี้และวีโกของค่า TVS มียอดขายเป็นอันดับ 2 ลูกค้าผู้หญิงนิยมสกูตเตอร์แบบไม่มีเกียร์เป็นพิเศษซึ่งขายดีในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่ารู้สึกปลอดภัยกว่าไปยืนเบียดบนรถเมล์ ส่วนลูกค้าผู้ชายก็เริ่มหันมาซื้อรถสกูตเตอร์มากขึ้นเพราะประหยัดน้ำมันและสะดวกคล่องตัวกว่ารถเมื่อต้องเดินทางในเมืองที่การจราจรติดขัดมาก
นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน กล่าวว่า ในปีนี้จักรยานยนต์ทุกค่าจะต่อสู้แย่งส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างดุเดือด การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์และจักรยานยนต์จะส่งผลดีต่อการส่งออกยางพาราไทย ปัจจุบันอุตสาหกรรมผลิตยางรถยนต์มีความต้องการนำเข้ายางพาราพุ่งสูงขึ้น โดยสมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ (ATMA) กล่าวว่าอินเดียต้องการนำเข้ายางพารามีสูงถึง 200,000 ตันต่อปี แหล่งนำเข้าสำคัญอันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย(48%) รองลงมาเป็น ไทย (37%) และศรีลังกา (7%) ตามลำดับ
ที่มา: http://www.depthai.go.th