กรมส่งเสริมการส่งออก ปั้นโครงการตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com ตั้งเป้าเปิดตัวเป็นทางการก.ค.นี้ พร้อมจัดทีมให้คำปรึกษาที่มีประสบการณ์ด้าน on-line ตั้งแต่การคัดเลือกสินค้า การใส่ข้อความเป็นภาษาต่างประเทศ วิธีการถ่ายภาพ เพื่อขายสินค้าใน E-Marketplace จนกระทั่งสามารถซื้อขาย ได้ในอนาคตโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น คาดสิ้นปีมีสินค้าเข้าร่วมกว่า 60,000 รายการ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ให้เกียรติเป็นประธานเปิดตัว thaitrade.com : Thailand B2B E-Marketplace (Business to Business) พร้อมเผยว่า ปัจจุบันแนวโน้มตลาดทั่วโลก เน้นการทำธุรกรรมผ่านทางอินเตอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการใช้พื้นที่บนเว็บไซต์เป็นสื่อกลางในการซื้อขายสินค้าต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก จนเป็นที่มาของคำว่า E-Marketplace ในปัจจุบัน ช่องทางการตลาดบนโลกออนไลน์ หรือ E-Marketplace ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลขึ้นในระบบ และในอนาคตยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะสังคมปัจจุบันได้พัฒนาสู่การเป็นสังคมออนไลน์อย่างเต็มตัว ขณะเดียวกันระบบการตลาดบนโลกออนไลน์ยังมีความได้เปรียบจากระบบการตลาดเดิมๆ โดยเฉพาะการเป็นช่องทางการตลาดที่มีต้นทุนต่ำ แต่สามารถติดต่อกับผู้ซื้อได้ทั่วโลกอย่างไร้ขีดจำกัดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เป็นช่องทางการตลาดใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในระดับสากล
กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่ทำหน้าที่กำกับดูแลนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าระดับประเทศ ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์อันมหาศาล ของการนำระบบการตลาดออนไลน์ในลักษณะธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) มาเป็นช่องทางการตลาดใหม่ สำหรับส่งเสริมสินค้าไทยจากผู้ประกอบการไทยออกไปสู่ตลาดโลก ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นช่องทางลัดสำหรับให้ผู้ประกอบการไทยสามารถก้าวกระโดดไปในตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว จึงได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญด้านการส่งเสริมและพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ จัดทำโครงการตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยการปรับปรุงต่อยอดจากเว็บไซต์ www.thaitrade.com เดิมเพื่อให้รองรับการเป็นตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะธุรกิจกับธุรกิจ(B2B) ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2554 นี้
“e-commerce เริ่มมีบทบาทในการทำธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น มีบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลกเป็นจำนวนมากทำธุรกรรมผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทยก็เช่นกัน ที่มีผู้ประกอบการใช้ อินเตอร์เน็ต เทคโนโลยี ทำการสั่งซื้อสินค้า ขายสินค้า ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายไม่ว่าคนๆ นั้นจะอยู่ ณ ที่ใดในโลกใบนี้ สามารถสื่อสารกันแบบ 2 way communication ซึ่งthaitrade.com เป็นตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ขาย และผู้ซื้อทั่วโลก อนาคตจะมีการรองรับให้ผู้ซื้อและผู้ขายทำธุรกิจผ่าน mobile device ได้สะดวกยิ่งขึ้น และ thaitrade.com จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็น one stop service สำหรับผู้ส่งออกในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อลูกค้าต่างประเทศ การเชื่อมต่อกับระบบการควบคุมสินค้าคงคลัง มีระบบแจ้งเตือนผู้ขายอัตโนมัติ รวมไปถึงการพัฒนาระบบ e-procurement เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน thaitrade.com ในอนาคต
thaitrade.com จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีส่วนช่วยธุรกิจของผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการส่งออกได้หลายทางด้วยกัน อาทิ thaitrade.com สามารถสร้างความเป็นไปได้ในการส่งออก โดยคู่ค้าทั่วโลกสามารถพบเห็นสินค้าหรือบริการของผู้ส่งออกได้บนเว็บไซต์ thaitrade.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ B2B E-Marketplace ภายใต้การกำกับดูแลของ กรมส่งเสริมการส่งออก(DEP) ที่มีภาพลักษณ์แห่งความน่าเชื่อถือในระดับสากล โดยมีทีมบุคลากรมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษา พร้อมช่วยวางแผนส่งเสริม ด้านตลาดออนไลน์และออฟไลน์ วิเคราะห์ข้อมูลการค้าที่ผู้ประกอบการควรรู้ และมีทีมผู้ช่วยขายทำหน้าที่ประสานงานซื้อ-ขายในระดับเบื้องต้นแทนกรณีที่ผู้ขายไม่สะดวก มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและการตลาดเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการก้าวสู่ธุรกิจออนไลน์ได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคง อีกทั้ง ยังมีเครือข่ายจากกรมส่งเสริมการส่งออกที่จะทำให้สินค้าของผู้ประกอบการไทย ได้เข้าถึงผู้ซื้อที่มีศักยภาพ ได้อย่างรวดเร็วและตรงเป้าหมาย ได้แก่ 1.สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กว่า 65 แห่งจาก 43 ประเทศทั่วโลก 2.กรมฯ มีประสบการณ์ด้านการจัดงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการทำให้การจัดกิจกรรม Business matching บนโลกออฟ์ไลน์เป็นตัวเสริมกิจกรรมบนโลกออนไลน์ได้อีกทาง นอกจากนี้ thaitrade.com จะทำตลาดผ่านสื่อ online ต่างๆ ที่จะทำให้ thaitrade.comเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก ดังนั้นการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน thaitrade.com จึงเต็มไปด้วยศักยภาพแห่งอนาคตของโลก ที่มีกำลังซื้อมหาศาลเปิดกว้างรอคุณอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
หลังจากที่ผู้ประกอบการสมัครเป็นสมาชิก thaitrade.com และได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ ระบบจะทำการขึ้นบัญชีข้อมูลผู้ขายในฐานข้อมูล E-Marketplace ของกรมฯ ซึ่งสมาชิกจะสามารถนำเสนอขายสินค้าและบริการผ่านเว็บไซด์ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และสามารถใช้ Password ที่ได้รับเข้าสู่ระบบค้นหารายชื่อคู่ค้า และสมัครร่วมกิจกรรมต่างๆ แบบออนไลน์ได้ทันที โดยได้รับการดูแลอย่างเพื่อนคู่คิด ที่พร้อมสนับสนุนทุกข้อมูลข่าวสาร บทวิเคราะห์ทางด้านตลาดจากผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่องผ่าน E-Newsletter ตลอดจนส่งเสริมให้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น เพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกของ E-Marketplace ได้อย่างเต็มตัว และที่สำคัญที่สุดการบริการทุกขั้นตอนนั้นฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่เป็นสมาชิก กับ thaitrade.com เท่านั้น
และเพื่อเป็นการเปิดมุมมองด้าน E-Maketplace และแนวคิดกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ใหม่ๆ เพื่อขยายโอกาสและช่องทางหากำไรให้กับผู้ประกอบการส่งออกไทย กรมส่งเสริมการส่งออก จึงได้กำหนดจัดงานสัมมนา “เปิดโลกกว้างทางธุรกิจด้วย E-Marketplace” ขึ้นในวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2554 เวลา 13.30-16.30 น. ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน (รร.เรดิสันเดิม ใต้ทางด่วนพระราม 9) เพื่อเปิดมุมมองการทำธุรกิจด้วยการตลาดออนไลน์และ Update แนวทางการตลาดดิจิตอลสมัยใหม่ รวมถึงเทคนิคและเครื่องมือการตลาด E-commerce เพื่อเรียนรู้และเข้าใจการใช้ประโยชน์จาก E-Marketplace พร้อมรับฟังการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากกูรูและผู้เชี่ยวชาญหลากหลายที่มีประสบการณ์ตรงในโลกธุรกิจดิจิตอล อาทิ รศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด SMEs และที่ปรึกษาด้านการตลาดบริษัทชั้นนำหลายแห่ง, คุณวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด(มหาชน), คุณสรรเสริญ สมัยสุต หนึ่งในผู้บุกเบิกอีคอมเมิร์ซประเทศไทย weloveshopping.com และผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และคุณจิรายุ วิริยะพิบูล ผู้ประกอบการไทย ที่เป็นสมาชิกระดับ Gold ใน alibaba.com (E-Marketplace ระดับ world class) ผู้บริหาร บริษัท Exportcity Manufacturing Co., Ltd ผลิตหัตถกรรมดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องประดับจากกล้วยไม้จริงส่งออกกว่า 2,000 ชนิด โดยงานสัมมนาดังกล่าว ผู้เข้าร่วมงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สนใจสมัครหรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 02-5309790 หรือ DEP Call Center 1169 โทรมือถือ 089-8937138 หรือ www.registerthaitrade.com E-mail : ecommerce@depthai.go.th “ทั้งนี้กระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าในการสร้าง thaitrade.com ให้กลายเป็น E-Marketplace ระดับ Worldclass สำหรับให้ผู้ประกอบการไทยระดับ SMEs ที่มีอยู่กว่า 2,000,000 รายทั่วประเทศ และตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2554 นี้ จะมีผู้ประกอบการไทยเข้าเป็นสมาชิก thaitrade.com ไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย และมีสินค้าไม่ต่ำกว่า 60,000 ชิ้น โดยมีจำนวนผู้ซื้อมาลงทะเบียนไม่น้อยว่า 5,000 ราย ส่วนเป้าในการสร้างความนิยมให้กับเว็บไซต์ กรมฯ คาดว่าเมื่อดำเนินการตามแผนงานแล้ว thaitrade.com จะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทางออนไลน์ในลักษณะ Business to Business ที่เป็นช่องทางใหม่เพื่อขยายการขายสินค้าไปทั่วโลก และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระดับสากลให้กับผู้ขาย” นางนันทวัลย์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: http://www.depthai.go.th