เบเยอร์ เตรียมแผนรุกตลาดโพลีคาร์บอเนตในจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 31, 2011 14:03 —กรมส่งเสริมการส่งออก

Bayer Material Science AG วางแผนลงทุนในตลาดโพลีคาร์บอเนตที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศจีน เพราะจีนถือเป็นตลาดที่ติดอันดับหนึ่งในสามของโลกในการใช้โพลีคาร์บอเนต ทั้งนี้ ทางบริษัทวางแผนเปิดโรงงานการผลิตโพลีคาร์บอเนตที่มหานครเซี่ยงไฮ้ และสร้างศูนย์กลางการออกแบบที่มหานครฉงชิ่ง (เป็นศูนย์กลางแห่งที่สามในประเทศจีน) และภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะย้ายสำนักงานใหญ่จากเมือง Leverkusen ประเทศเยอรมัน มาตั้งสำนักงานที่มหานครเซี่ยงไฮ้

โพลีคาร์บอเนต คือ พลาสติกคุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิตอิเล็กทรอ นิกส์ รถยนต์ เครื่องมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น DVD, MP3 เครื่องเล่นดิจิตอล อาทิ iPod, iPhone หรือ แว่นกันแดด เป็นต้น

จากข้อมูลของเบเยอร์แสดงให้เห็นว่า มีการใช้โพลีคาร์บอเนตในอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องมากกว่า 6% ในตลาดเกิดใหม่อย่างประเทศจีน

Rettig กล่าวว่า กลยุทธ์ของบริษัท มีเป้าหมายในการรักษาตำแหน่งผู้นำธุรกิจทั้งจีนและ แถบเอเซียแปซิฟิก ปัจจุบัน แถบเอเซียแปซิฟิคสามารถผลิตโพลีคาร์บอเนตได้มากกว่า 60% ของโลก และคาดว่าจะสามารถผลิตได้ถึง 65% ภายในปี 2558 สำหรับประเทศจีน ถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับการผลิตโพลีคาร์บอเนต ทางบริษัทมองเห็นความสำคัญและความเป็นไปได้ในการสนับสนุนตลาดของจีน ตลอดจน เน้นความสำคัญต่อ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เบาต่อการเคลื่อนย้าย และความคงทนในงานก่อสร้าง

Bayer Material วางแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตโพลีคาร์บอเนตในมหานครเซี่ยงไฮ้ เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตให้ได้ 500,000 ตันต่อปี ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 1 พันล้านยูโร (1.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559 ในขณะเดียวกัน จะลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมเคมีแห่งใหม่ในมหานครฉงชิ่ง ด้วยเงินลงทุน 110 ล้านยูโร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2555 และจะขยายกิจการไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนตามแบบมหานครเซี่ยงไฮ้และมณฑลกว่างโจว

Bayer Material Science เป็นหนึ่งในบริษัทโพลีเมอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยยอดขาย 10.2 พันล้านยูโร ในปี 2553 โดยประเทศจีนถือเป็นตลาดใหญ่อันดับที่สองในโลกของ Bayer Material Science และเป็นตลาดอันดับสามของเบเยอร์กรุ๊ป

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

ที่มา: หนังสือพิมพ์จงกั๋วรื่อเป้า (China Daily) วันที่ 19 พฤษภาคม 2554

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ