รายงานภาวะสินค้ารองเท้าหนังในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 1, 2011 12:01 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1.สินค้า

  • ขอบเขตสินค้า : รองเท้าหนัง หมายถึง รองเท้าที่มีหนังเป็นส่วนประกอบของรองเท้า ในพิกัดสินค้าหมวด (HS 6403)

2. ภาวะตลาด

2.1. การบริโภค

  • กลุ่มเป้าหมาย: สินค้าร้อยละ 40 สำหรับใช้จำหน่ายในประเทศ ส่วนที่เหลือสำหรับส่งออกต่อ
  • ขนาดตลาด : ยูเออีมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 7.1 ล้านคน เป็นชาวอินเดียและปากีสถานร้อยละ 50 อีกร้อยละ 25 เป็นชาวต่างชาติอื่นๆ
  • ส่วนแบ่งตลาดการเปลี่ยนแปลง +/-

ยูเออีนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้มีการเปลี่ยนแปลงพอสรุปได้คือ

                 นำเข้ารวม           ปี 2008 มูลค่า 320.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ปี 2009 มูลค่า 318.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 0.6%

ปี 2010 มูลค่า 350.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าเพิ่มขึ้น 10%

ภาพรวมการส่งออกรองเท้าจากไทยไปยูเออี

ปี 2009 มูลค่า 59.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ปี 2010 มูลค่า 57.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง -3.5%

ปี 2011(เดือนมกราคม-มีนาคม) มูลค่า 14.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัว 28.3% จากมูลค่า 11.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ส่งออกในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ประเทศที่นำเข้า : ขณะนี้ยูเออีนำเข้ารองเท้าจากประเทศต่างๆทั่วโลกมากกว่า 80 ประเทศ โดยนำเข้ารองเท้าหนัง หนังเทียมเทียม รองเท้ายางมากที่สุดจาก ประเทศที่นำเข้าปี 2010 ได้แก่ จีน อิตาลี อินเดีย เวียดนาม บราซิล สเปน ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฝรั่งเศส เป็นต้น

2.2. ลักษณะรองเท้า กลุ่มผู้ซื้อ

แม้ยูเออีเป็นประเทศเล็กมีพลเมืองน้อย ตลาดรองเท้าในประเทศยูเออีก็เป็นตลาดใหญ่เพราะนอกจากการนำเข้าเพื่อใช้ในประเทศสำหรับจำหน่ายให้กับประชากรที่ประกอบด้วยชาวต่างชาติ และชาวอาหรับพื้นเมืองแล้ว สินค้าอีกจำนวนหนึ่งยังใช้ส่งออกต่อ (Re-export) ไปยังประเทศอื่นๆอีกด้วย ดังนั้นในตลาดนี้จึงมีรองเท้าหลายชนิด หลายราคาแตกต่างกัน

ลักษณะการแต่งกายของประชากรในประเทศนี้ก็มีความแตกต่างกัน และเครื่องแต่งกายกับรองเท้าจะสัมพันธ์กัน

รองเท้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นรองเท้าแตะชาย หากเป็นสินค้าคุณภาพดีประกอบด้วยหนังแท้ คุณภาพรองใช้วัสดุ PU พื้นรองเท้าเป็น พื้นเย็บ พื้นใช้วัสดุPU ขนาดใช้ของ EU มีขนาดระหว่าง 37 - 46 ส่วนใหญ่นิยมสีเข้ม เช่น ดำ น้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน สีอ่อนนิยมสีเนื้อ และขาว เป็นต้น

2.3 กลุ่มสินค้าที่นำเข้า : รองเท้ากลุ่มนี้เป็นสินค้าราคาถูกถึงปานกลางมีลักษณะสินค้าดังนี้

2.3.1. สินค้าราคาปานกลาง เป็นรองเท้าที่นำเข้าจากหลายประเทศสำหรับชาย หญิง และเด็ก รูปแบบมีทั้งแบบสากลนิยม และรองเท้าแตะซึ่งเป็นที่นิยมของชาวอาหรับพื้นเมือง

รองเท้าสตรีนั้นมีทั้งแบบเรียบสีคลาสสิคไม่ฉูดฉาด และรองเท้าสีสดใสตกแต่งด้วยลูกปัดหรือใช้สีทองประกอบ สตรีชาวอาหรับพื้นเมืองนิยมซื้อและเปลี่ยนรองเท้าตามแฟชั่นตลอดเวลา รองเท้าจะซื้อหลากสีเพื่อเข้ากับชุดกระโปรงตัวยาวคลุมข้อเท้าที่มีลวดลายสีสดเข้ากับเสื้อผ้า เป็นที่น่าสังเกตุว่าสาวอาหรับไม่นิยมสวมรองเท้าไม่มีส้นหรือส้นเตี้ย ส่วนสาวชาติอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้ เช่น ชาวยุโรป ญี่ปุ่น อินเดีย ฟิลิปปินส์ ชาวอาหรับส่วนเหนือจากเลบานอน และซีเรีย มักจะใส่รองเท้ารูปแบบคลาสสิคสีเรียบ หรือรองเท้าตามแฟชั่นยุโรป ส่วนรองเท้าหุ้มส้นชายแบบคลาสสิคซื้อหาโดยชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว และเป็นสินค้าสำหรับส่งออกต่อไปประเทศใกล้เคียง นอกจากนั้นเป็นรองเท้ากีฬาที่ผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป

2.3.2. สินค้าราคาถูก เป็นรองเท้าหนังเทียมของชายหญิงและเด็กราคาถูก สินค้ากลุ่มนี้กว่าร้อยละ 60 เป็นสินค้าผ่านแดนที่นำเข้าเพื่อส่งออกต่อไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศแอฟริกา ประเทศยุโรปตะวันออก กลุ่มประเทศ CIS สินค้ากลุ่มนี้เน้นราคาถูก

รองเท้าสตรีจะเป็นรองเท้าที่ทำเลียนแบบรองเท้าตลาดบนรองเท้าชายเป็นรองเท้าหุ้มส้นทำด้วยหนังเทียม หรือวัสดุพีวีซีประกอบรองเท้าแตะ รองเท้ากีฬาซึ่งนิยมสวมใส่ประจำวันมากขึ้น รองเท้าราคาถูกนำเข้าจากประเทศผู้ผลิตแถบเอเซียทั้งสิ้น รูปแบบรองเท้ากีฬานี้เป็นแบบสากล

2.3 การผลิต:

ตลาดรองเท้าในยูเออี ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเกือบทั้งสิ้น เพราะรองเท้าที่ผลิตได้ในประเทศมีเพียงเล็กน้อย และจากการสำรวจความต้องการใช้รองเท้าในประเทศนี้ปรากฏว่าผู้บริโภคที่เป็นชาวต่างชาติต่อคนซื้อรองเท้าเฉลี่ย 3 คู่ต่อปี ชาวอาหรับพื้นเมืองซื้อรองเท้าแตะใส่มากกว่าใช้รองเท้าหุ้มส้นและหาซื้อเปลี่ยนใช้บ่อยกว่าชาวต่างชาติ ประมาณว่าผู้บริโภคชาวอาหรับพื้นเมืองต่อคนซื้อรองเท้าแตะโดยเฉลี่ย 8 คู่ต่อปี

ในขณะนี้มีโรงงานผลิตเครื่องหนังและรองเท้าประมาณ 7 แห่ง ปัญหาที่อุตสาหกรรมรองเท้าในประเทศนี้เผชิญอยู่คือการแข่งขันด้านราคากับสินค้านำเข้า ยูเออีเก็บภาษีนำเข้ารองเท้าร้อยละ 5 และไม่มีการตั้งกำแพงภาษีเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมรองเท้าในประเทศ จึงไม่จูงใจให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เท่าใดนัก

อย่างไรก็ตามจากการติดตามศึกษาอุตสาหกรรมรองเท้าพบว่าปีหนึ่งๆสามารถทำรายได้ให้กับประเทศผู้ผลิตผู้ส่งออกมูลค่ามหาศาล การส่งออกรองเท้าของโลกปีละประมาณ 11 พันล้านคู่ (คิดเป็นมูลค่าขายส่งประมาณ 150 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ)

แต่การผลิตรองเท้าในยูเออีนี้ให้เป็นอุตสาหกรรมนั้นมีความเป็นไปได้น้อย เพราะต้องอาศัยการนำเข้าวัตถุดิบ คนงาน เครื่องจักรจากต่างประเทศทั้งสิ้น รวมทั้งตลาดที่รองรับมีขนาดเล็ก และต้องเผชิญกับสินค้านำเข้าราคาถูกจากประเทศแถบเอเซีย ดังนั้นขณะนี้ประเทศยูเออีจึงยังคงต้องอาศัยการนำเข้ารองเท้าจากต่างประเทศเป็นหลักอยู่นั่นเอง

2.4. การส่งออก : ปี 2010 ยูเออีส่งออกต่อ (Re-export) รองเท้ากล่มนี้มูลค่าประมาณ 26.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดรองรับที่สำคัญคือ อิหร่าน โซมาเลีย คูเวต ลิเบีย ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ อิรัค เคนย่าและบาห์เรน เป็นต้น

2.5 ช่องทางการนำเข้า/การตลาด/การจัดจำหน่าย

การค้าส่ง : ตลาดค้ารองเท้าอยู่ในย่าน Murshid Bazar และ Naif Road ซึ่งขณะนี้มีบริษัทจีนเปิดร้านขายส่งรองเท้าในดูไบ

ราคาถูก

การค้าปลีก: สินค้าราคาแพงและระดับราคาปานกลางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป สินค้าราคาถูกจำหน่ายในย่ายขายสินค้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าและเสื้อผ้า

การจัดจำหน่ายและนำเข้า: ผู้นำเข้ามี 2 กลุ่มคือ

                        - ผู้นำเข้า /ผู้ค้าส่ง          ร้อยละ 40
                        - นายหน้า                 ร้อยละ 40
                        - ผู้ค้าปลีก                 ร้อยละ 20

3. ฤดูกาลซื้อสินค้า

ฤดูกาลซื้อรองเท้าในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาจแบ่งออกได้ดังนี้

  • ช่วงเทศกาลสำคัญๆ เช่น ในช่วงหลังฤดูถือศีลอด หรือเทศกาล Eid Al Fitr ช่วงหลังกลับจากประกอบพิธีฮัจจ์หรือเทศกาล Eid Al Adha ช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ มีการซื้อกระเป๋าและเครื่องหนังขนาดเล็กกันมาก
  • ช่วงก่อนออกเดินทางพักร้อนประมาณเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม

4. แนวทางการเจาะตลาดดูไบของประเทศส่งออกที่สำคัญ

จีน สามารถครองตลาดยูเออีเฉลี่ยปีละร้อยละ 35-37 ในช่วงปี 2008-2010 โดยจีนเป็นผู้ครองตลาดสินค้าราคาถูก คุณภาพต่ำ ในการเจาะตลาดได้มีการจัดตั้ง Chinese Shoes Commodity City ขึ้น ณ แหล่งตลาดค้าส่งในดูไบ มีการเปิดร้านจำหน่ายรองเท้าโดยตรงจากโรงงานของจีน และผู้ค้าจากแคว้นต่างๆของจีนจำนวนประมาณ 45-50 ร้าน เน้นการจำหน่ายรองเท้าพื้นพลาสติกและยาง แต่ใช้เทคนิคทำให้ดูเป็นรองเท้าหนัง จำหน่ายรองเท้าในลักษณะขายส่งราคาถูก (โหลละประมาณ 50-100 เดอร์แฮม เท่ากับ 14.00-27.00 เหรียญสหรัฐฯ) นอกจากนี้จีนยังเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเกือบทุกงานที่จัดขึ้น รวมทั้งจัดงาน Solo ดูไบเป็นประจำทุกปี

อิตาลี เป็นผู้ส่งออกสินค้ารองเท้าหนังในตลาดดูไบมีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 20-22 หลายปีติดต่อกัน การเข้าตลาดของอิตาลีจะเน้นการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในรัฐดูไบ ส่งคณะผู้แทนการค้า และการจัด Promotion และเชิญผู้ค้าที่สนใจมาพบปะกับคณะผู้ส่งออกจากอิตาลี ลักษณะเป็น Mini Exhibition ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ามีการจัดทั้งร้านจำหน่ายสินค้า International Brand จากอิตาลีหลายแห่งในตลาดดูไบ ซึ่งนับเป็นแนวทางการนำเข้าตลาดของสินค้า Brand อิตาลี ที่สำคัญอีกด้วย เพราะจะครอบคลุมทั้งตลาดดูไบและชาวต่างชาติที่อาศัยในดูไบ รวมทั้งนักท่องเที่ยวและชาวอาหรับที่มักจะเดินทางผ่านดูไบ สามารถซื้อรองเท้าเกือบทุก Brand ที่ผลิตจากอิตาลีที่มีจำหน่ายทั่วโลกในตลาดดูไบได้เช่นเดียวกัน

อินเดีย ผู้ผลิตและส่งออกรองเท้าชายทำด้วยหนังแท้มูลค่ามากรองจากจีน สัดส่วนการผลิตรองเท้าชายประมาณร้อยละ 58 ของการผลิตทั้งสิ้น รองเท้าหนัง brand names ที่ผลิตในอินเดียได้แก่ Florsheim, Gabor, Clarks, Salamander และ St. Micheal’s เป็นต้น ปัจจัยหนุนการผลิตของอินเดียที่สำคัญคือค่าแรงงานต่ำ วัตถุดิบหนังมีมากแต่คุณภาพต่ำ รวมทั้งตลาดรองรับในประเทศมีขนาดใหญ่ สินค้าที่ส่งออกไปยูเออี ส่วนใหญ่เป็นรองแตะ ราคาถูก

เวียดนาม รองเท้าเป็นสินค้าส่งออกลำดับต้นของเวียดนาม ปัจจุบันมีผู้ผลิตรองเท้าในประเทศฯกว่า 500 ราย มีแรงงานในอุตสาหกรรมนี้กว่า 10,000 คน ตลาดส่งออกรองเท้าหลักของเวียตนามคือสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ สำหรับตลาดยูเออีมีการนำเข้ารองเท้าจากเวียดนามมูลค่าสูง และสัดส่วนตลาดเฉลี่ยร้อยละ 5 มีผู้นำเข้าจากยูเออีไปลงทุนเปิดโรงงานผลิตรองเท้าแตะชายในเวียดนามเพื่อสำหรับส่งออกไปตลาดประเทศอาหรับและอัฟริกา

อินโดนีเซีย ภายในปี 2555 อินโดนีเซียจะแซงหน้าเวียดนามในการเป็นผู้ส่งออกรองเท้ารายใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่าการส่งออกประมาณ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติทยอยย้ายฐานการผลิตจากจีนและเวียดนามไปอินโดนีเซีย ปัจจุบัน อินโดนีเซียโดยมีกำลังการผลิตกว่า 3 ล้านคู่ต่อปี ขนาดของอุตสาหกรรมใหญ่เป็นอันดับสามรองจากจีนและเวียดนาม สินค้าที่ส่งไปจำหน่ายในยูเออีมีราคาถูกกว่าสินค้าชนิดเดียวกันจากไทยประมาณร้อยละ 30

มาเลเซีย มีอัตรการขยายตัวของสินค้ากลุ่มนี้เมื่อปี 2553 ถึงร้อยละ 62 สินค้าส่วนใหญ่เป็นรองเท้าแฟชั่นสตรี ผลิตภายใต้ยี่ห้อของตนเองและวางจำหน่ายในร้านแบบ Stand Alone ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

ไทย ส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปยูเออีเมื่อปี 2553 ลดลงร้อยละ 3.5 แต่ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2554 ไทยสามารถส่งออกขยายตัวร้อยละ 28.3 สินค้ารองเท้าแตะทำด้วยหนังจากไทยมีคุณภาพดี ราคาแข่งขันกับประเทศที่ผลิตสินค้าราคาแพง อาทิ อิตาลี สเปญ และรองเท้าแตะทำด้วยหนังจากไทยเป็นรองเท้าแตะที่ชาวอาหรับพื้นเมืองนิยมใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นที่รู้จักในคุณภาพและรูปแบบของผู้ซื้อและผู้นำเข้าเป็นอย่างดี แต่ในขณะนี้มีการผลิตสินค้าชนิดเดียวกันจากประเทศจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ในราคาที่ถูกกว่า

สำหรับการเจาะตลาดดูไบของไทย นอกจากจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในตลาดแล้ว

ผู้ส่งออกของไทยบางรายที่มีลูกค้าประจำมักจะเดินทางมาเยี่ยมลูกค้าปีละหลายครั้ง นอกจากนี้ ผู้นำเข้าในตลาดดูไบมักจะเดินทางไปเยือนไทย โดยเฉพาะในช่วงการจัดงานเครื่องหนังของไทย Thailand Leather Fair อีกด้วย

5. สรุป

1. ยูเออีโดยเฉพาะดูไบเป็นเสมือนประตูสู่ตลาดการค้าของตะวันออกกลาง และอัฟริกาตอนเหนือ นักธุรกิจดูไบมักจะได้รับการเสนอขายสินค้าจากแหล่งต่างๆทั่วโลกหลากหลายทั้งชนิด ราคาและคุณภาพสินค้า ทางเลือกในการซื้อสินค้าจึงมีมากมาย หากผู้ส่งออกของไทยถึงแม้มีลูกค้าอยู่แล้วก็ตามแต่มิได้มีการวางแผนการเข้าตลาดตะวันออกกลางที่ดี ขาดการติดต่อผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการเดินทางเข้าเยี่ยมลูกค้าสม่ำเสมอ อาจจะขยายตลาดตะวันออกกลางได้อย่างไม่เต็มที่ การสั่งซื้อมักจะขาดตอน ดั้งนั้นการเดินทางมาเยือนตลาดตะวันออกกลางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ายังจำเป็นอย่างยิ่งในการเข้าตลาดตะวันออกกลาง

2. รองเท้าที่ยูเออีนำเข้ากว่าร้อยละ 70 ใช้เพื่อสำหรับใช้ส่งออกต่อ (Re-export) แต่จากเหตุการณ์ไม่สงบในหลายประเทศ เช่น ลิเบีย เยเมน และบาห์เรน ซึ่งเป็นตลาดรองรับสินค้ารองเท้าของยูเออีที่แต่ละปีมีมูลค่าการซื้อขายมากในกลุ่ม 10 ประเทศแรก อาจจะเป็นตัวแปรทำให้ภาพรวมการนำเข้าสินค้าของยูเออีลดลง

3. การรักษาตลาดรองเท้ากลุ่มนี้ของไทยอาจจะเจาะตลาดบนถึงกลางซึ่งยังมีกำลังการซื้อที่ดี แต่ทั้งนี้จะต้องรักษาคุณภาพสินค้า ออกแบบรองเท้าแบบใหม่เสมอ และยอมรับคำสั่งซื้อขนาดเล็ก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองดูไบ

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ