The Columbus Region: เขตเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวในสหรัฐอเมริกา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 7, 2011 11:19 —กรมส่งเสริมการส่งออก

เมื่อกล่าวถึงเมืองใหญ่ของมลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเมือง Cleveland ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของมลรัฐ (ใกล้กับมลรัฐ Pennsylvania) หรือเมือง Cincinnati ซึ่งตั้งอยู่ทาง

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐ (ติดกับมลรัฐ Kentucky) เป็นลำดับแรก ก่อนที่จะนึกถึงเมืองโคลัมบัส ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมลรัฐโอไฮโอ หรืออาจกล่าวได้ว่า คนอเมริกันไม่ค่อยเห็นความสำคัญของเมืองโคลัมบัสมากนักในเชิงธุรกิจ เนื่องจาก เมืองโคลัมบัสมิได้เป็นศูนย์ กลางการผลิตสินค้าหรืออุตสาหกรรมที่โดดเด่นของมลรัฐโอไฮ หากเปรียบเทียบกับเมือง Cincinnati หรือ เมือง Cleveland

เมืองโคลัมบัสเป็นเมืองหนึ่งในภูมิภาคตอนกลางของสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพทางธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และเป็นเมืองที่น่าสนใจในเชิงธุรกิจไม่น้อยไปกว่าเมืองอื่นๆ ในมลรัฐโอไฮโอหากนักธุรกิจไทยสนใจและต้องการขยายการค้าและการลงทุนต่อไปในอนาคต

การริเริ่มแผน The Columbus Region

The Columbus Region เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากเจตนารมณ์และความร่วมมือเมืองภาครัฐ เอกชน และ องค์กรของเมืองโคลัมบัสและเมืองบริวาร (Columbus & Regional) ที่ต้องการเพิ่มบทบาทให้พื้นที่ในย่านเมืองโคลัมบัสและเมืองบริวาร ให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านเศรษฐกิจการค้าของรัฐโอไฮโอและของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2020 (พ.ศ. 2563) เมืองโคลัมบัสและเมืองบริวารจะเป็นพื้นที่ๆ มีอัตราการเจริญเติบโตและการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวดเร็วมากที่สุดของสหรัฐฯ และจะเป็นผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจ และก้าวขึ้นมาเป็นเมืองชั้นนำของสหรัฐฯ

มารู้จัก The Columbus Region

1. ภาพรวม

พื้นที่ The Columbus Region ประกอบ ด้วยเขตปกครอง (County) จำนวน 8 เขต ได้แก่ Delaware, Fairfield, Licking, Madison, Morrow, Pickaway, Union และ Franklin ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เมืองโคลัมบัส และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้

มีประชากรประมาณ 1.8 ล้านคน (เฉพาะเมืองโคลัมบัสซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ อันดับที่ 16 ของประเทศสหรัฐฯ มีประชากรประมาณ 7 แสนคน หรือเฉพาะเขตปกครอง Franklin County มีประชากรประมาณ 1.1 ล้านคน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 34 ของสหรัฐฯ)

ประชากรส่วนใหญ่สืบเชื่อสายมาจากชาวยุโรปที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกา ได้แก่ เยอรมัน (ร้อยละ 19.4) ไอรีส (ร้อยละ 11.7) อังกฤษ (ร้อยละ 7.9) โปรแลนด์ (ร้อยละ 7.2) และอิตาเลี่ยน (ร้อยละ 5) ในเมืองโคลัมบัสและเมืองบริวาร มีคนเชื้อสายฮิสแปนิกเพียงร้อยละ 4.5 และเอเซียเพียงร้อยละ 4.1 แต่ก็มีตัวเลขการอพยพเข้ามาอยู่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เศรษฐกิจสำคัญของเขต ได้แก่ การศึกษา การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ R & D และอุตสาหกรรมยานยนต์ (เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ Honda Motor ที่เมือง Maryville)

ได้รับการจัดอันดับที่ 2 ในด้านอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ รวดเร็วในเขตตอนกลางของสหรัฐฯ (Midwest)

มีสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย และ วิทยาลัย จำนวน 27 แห่ง มีนักศึกษากว่า 125,000 คน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย Ohio State University-Columbus ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ มีนักศึกษา 54,064 คน

เป็นที่ตั้งสำนักงานของบริษัทใหญ่ระดับ "Fortune 1,000" จำนวนของ 15 บริษัท และในจำนวนดังกล่าว เป็นบริษัทใหญ่ระดับ "Fortune 500 " จำนวน 6 บริษัท ได้แก่ The Limited, Cardinal Health, Big lots และ Nationwide Insurance เป็นต้น

2. โครงสร้างการคมนาคมขนส่ง

ทางบก มีทางหลวงสายหลักที่สำคัญจำนวน 8 สายวิ่งผ่านเมือง เช่น Interstate หมายเลข 70, หมายเลข 71, หมายเลข 270 และ หมายเลข 670

การขนส่งทางรถไฟและทางเรือจำนวน 4 แห่ง สามารถลำเลียงขนส่งได้มากกว่า 600,000 ตู้/ปี และสามารถให้บริการขนส่งไปยังเมืองท่า Norfolk รัฐ Virginia ภายในระยะเวลา 1 วัน

การขนส่งทางอากาศสามารถเชื่อมโยงไปยังท่าอากาศยานต่างๆ ของประเทศได้ถึง 35 แห่ง มีสายการบินจำนวน 9 สาย ณ สนามบิน Port Columbus ได้แก่สายการบิน Air Canada, Air Tran, American, Continental, Delta, Midwest, Southwest, United and US Airways

3. โครงสร้างระบบเศรษฐกิจและการค้า ประกอบด้วย
     ภาครัฐบาล ร้อยละ 18.0            ภาคธุรกิจบริการ ร้อยละ 16.7
ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง ร้อยละ 15.4    การศึกษาและสุขภาพ ร้อยละ 13.2
ธุรกิจบริการอาหาร ร้อยละ 9.2       ธุรกิจการเงินและประกันภัย ร้อยละ 7.1
อุตสาหกรรมการผลิต ร้อยละ 6.9      การคมนาคมการขนส่ง ร้อยละ 4.6
ก่อสร้าง เหมืองแร่ ร้อยละ 3.5       อื่นๆ ร้อยละ 5.7

4.  การลงทุนจากต่างประเทศในเขต Columbus Region

มีบริษัทญี่ปุ่นมาลงทุนประกอบกิจการในเขต Columbus Region มากที่สุดจำนวน 83 บริษัท โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์ นักลงทุนจากประเทศ อื่นๆ ได้แก่ เยอรมัน 35 บริษัท อังกฤษ 34 บริษัท แคนาดา 23 บริษัท ฝรั่งเศส 20 บริษัท สวิตเซอร์แลนด์ 20 บริษัท เนเธอร์แลนด์ 11 บริษัท ไอร์แลนด์ 9 บริษัท สวีเดน 8 บริษัท ประเทศอื่นๆ จากทวีปยุโรป 13 บริษัท และประเทศอื่นๆ จากทวีปเอเซีย 9 บริษัท

จุดแข็งของ The Columbus Region

1. Advanced Manufacturing: ผลประกอบการของอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้นวัตกรรม ขั้นสูงในเขตColumbus Region มีมูลค่า 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2551 มากกว่าภาคธุรกิจอื่นๆ หรือแม้แต่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และจากสถิติพบว่าตัวเลขผลประกอบการระหว่างปี 2554 - 2551 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.9 (ต่อพนักงาน/คน) อุตสาหกรรมสำคัญ ในเขตนี้ได้แก่ อุตสาหกรรมด้านยางและพลาสติก เหล็ก ด้านเคมีภัณฑ์ ผู้ผลิตรายที่ใหญ่และสำคัญที่สุดได้แก่ บริษัท Honda of America

2. IT Technology: นิตยสาร Forbes ปี 2551 ระบุให้เขตColumbus Region เป็น "No.1 up-and-coming tech City" ในสหรัฐฯ และมีบริษัทด้าน IT จำนวน 1,697 บริษัท และมีการว่าจ้างงานกว่า 32,824 คน ในปี 2552

3. Logistics: มีบริษัทด้านธุรกิจ Logistics จำนวน 3,218 ราย พนักงานกว่า 80,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.18 ของสหรัฐฯ ในปี 2551 และหลักสูตรการสอนสาขาวิชา Supply Chain/ Logistics Program ของมหาวิทยาลัย Ohio State University (Fisher College of Business) ได้รับการจัดอันดับเป็นหลักสูตรที่ดีลำดับที่ 8 ของสหรัฐฯ ในปี 2552 มีส่วนเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจโลจิสติกส์ของเขต The Columbus Region

4. Biosciences: รัฐ Ohio ได้รับการจัดอันดับเป็น Top 10 ในสหรัฐฯ ด้าน Biotechnology Strength และ Biofuels Manufacturing Research

5. Advanced Energy: การกำหนดนโยบายด้านพลังงานที่โดดเด่น (อันดับ 3) ของ สหรัฐฯ ที่เกี่ยวกับ New Advanced Energy Portfolio Standard (AEPS) โดยให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบใหม่ภายในรัฐอย่างต่ำสุดร้อยละ 25 ภายในปี 2025 (2568) หรือให้ใช้พลังงาน Renewable Energy ขั้นต่ำสุดร้อยละ 12.5 อีกทั้งจัดตั้ง The Columbus Hub of Advanced Energy Manufacturing and Storage ขึ้น เพื่อให้สถาบัน/ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมได้ใช้ในการพัฒนาความชำนาญการ/ทักษะในการสร้างธุรกิจต่างๆ

6. การวิจัยและค้นคว้า (Research & Development): มหาวิทยาลัย Ohio State University (OSU) จัดเป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 2 ของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนการวิจัยในด้านต่างๆ OSU มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของประเทศทางด้านการวิจัยสาขา Chemical Engineering และ เป็นอันดับที่ 3 สาขา Material Science โดยได้รับเงินสนับสนุนการวิจัยจากภาครัฐและเอกชนปีละไม่ต่ำกว่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีสถาบันวิจัยเอกชน 2 บริษัท ที่มีชื่อเสียงของโลก ได้แก่ Battelle Memorial Institute และ Chemical Abstract Services มาตั้งศูนย์วิจัยในพื้นที่ Columbus Region

7. ภาคแรงงาน (Workforce) และแรงงานที่มีฝีมือ (Talent) : มีจำนวนแรงงานเกือบ 1 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขต The Columbus Region โดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 34.7 (ร้อยละ 51.3 เป็นแรงงานที่มีอายุตั้งแต่ 20 ถึง 54)

ด้านการศึกษา : มีจำนวนสถาบันอุดมศึกษามากกว่า 25 แห่ง มีจำนวนนักศึกษา กว่า 125,000 คน และมีผู้สำเร็จการศึกษาปีละ 22,000 คน และแรงงานเป็นผู้ที่มีความรู้ขั้นต่ำระดับอนุปริญญาร้อยละ 37.5

อัตราค่าจ้าง : ค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยภาคการผลิต ด้านคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ Mathematical Sciences และภาคการบริการธุรกิจการเงิน อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าจ้างแรงงานโดยเฉลี่ยของสหรัฐฯ เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ในเขต Midwest ของสหรัฐฯ

สหภาพแรงงาน: อัตราสหภาพแรงงานคิดจากตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเขตร้อยละ 5.2 ต่ำกว่าอัตราทั่วไปในเมืองอื่นๆ ของสหรัฐฯ (ร้อยละ 6.9)

8. บรรยากาศด้านการลงทุน : รัฐ Ohio ปรับปรุงโครงสร้างอัตราภาษีใหม่เพื่อ สนับสนุนและดึงดูดการลงทุน ดังนี้ Corporate Income/Franchise Tax - ยกเลิก ไม่มีการเรียกเก็บ

 S-Corp, LLC, LP Income Tax        -  อัตราภาษีสูงสุดของรัฐ ร้อยละ 6.24 สำหรับรายได้ที่สูงกว่า

200,000 เหรียญสหรัฐฯ

 Business Privilege Tax            -  รายรับก่อนหักภาษีจากการส่งออกได้รับการยกเว้น

หากเกิน 1 ล้านเหรียญฯ อัตราภาษี 150 เหรียญ บวก

ร้อยละ 0.26 ของรายรับ

 Sales and Use Tax                 -  ร้อยละ 5.5 with select manufacturing purchased exempt
 Personal Property Tax             -  ยกเลิก ไม่มีการเรียกเก็บ
 Real Property Tax                 -  เสียเฉพาะภาษีท้องถิ่น (Local Tax) สำหรับที่ดิน อาคาร

และการปรับปรุง ไม่เสียภาษีรัฐ (State Tax)

 Personal Income Tax               -  อัตราภาษีสูงสุดของรัฐ ร้อยละ 6.24 สำหรับรายได้ที่สูง

กว่า 200,000 เหรียญสหรัฐฯ New Capital Investments Tax - ร้อยละ 3.6 ซึ่งต่ำกว่ารัฐใกล้เคียง เช่น รัฐ Illinois (4.3)

รัฐ Indiana (6.2) รัฐ Michigan (6.5)รัฐ Minnesota (5.1)

และ รัฐ Wisconsin (6.2)

ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจและการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลมลรัฐโอไฮโอ ซึ่งผลักดันให้รัฐบาลมลรัฐต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงาน ซึ่งปัจจุบันเมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ พยายามผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมสร้างศักยภาพของตัวเองขึ้นมาให้โดดเด่น เพื่อดึงดูดการค้าและการลงทุน และดำรงการแข่งขันกับเมืองใหญ่ระดับเดียวกัน

รัฐโอไฮโอเป็นมลรัฐที่มีความเหมาะสม และมีศักยภาพในด้านการค้าและการลงทุน รัฐมีความเข้มแข็งระหว่างภาครัฐฯ เอกชนและอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และหน่วยงานทางการค้าทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง (Supply chain)หากพิจารณาเขตพื้นที่ Columbus Region ซึ่งเป็นเขตหนึ่งในรัฐโอไฮโอเช่นกัน จึงมีศักยภาพในด้านการค้าและ

การลงทุนไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในรัฐโอไฮโอ ที่พยายามให้สิทธิประโยชน์แก่นักธุรกิจและผู้ลงทุน เขตพื้นที่ Columbus Region มีความน่าสนใจหลายประการ เช่น ในด้านต้นทุนค่าจ้างแรงงานต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองใหญ่ๆ หลายเมืองในสหรัฐฯ โครงสร้างอัตราภาษีต่ำและมีข้อเสนอพิเศษเพื่อสนันสนุนการลงทุน เป็นแหล่งแรงงานที่มีการศึกษาและมีฝีมือให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งต่างเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจขยายกิจการหรือลงทุน อย่างไรก็ตามเขต

Columbus Region มีข้อเสียเปรียบมหานครใหญ่ๆ เช่น นครนิวยอร์ค นครลอสแองเจลิส เมืองชิคาโก เมืองมินิอาโปลิส เมืองแอตแลนต้า เมืองซานฟรานซิสโก เมืองฮูสตัน หรือเมืองไมอามี่ ในด้านการคมนาคมขนส่งทางอากาศ เนื่องจาก ไม่มีสายการบินระหว่างประเทศ (International Carrier) บินเข้า-ออก ที่เมือง Columbus ซึ่งทำให้การเดินทาง ทางอากาศจำเป็นต้องไปต่อเครื่องบินที่เมืองใหญ่อื่นๆ ทำให้การเดินทางไม่สะดวกและล่าช้า

คณะกรรมการบริหาร The Columbus Region 2020 เชื่อว่า การดำเนินการผลักดันและสร้างศักยภาพ จุดแข็ง และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน จะเป็นปัจจัยผลักดันให้เขต Columbus Region บรรลุ

เป้าหมายการเป็นเขตเศรษฐกิจการค้าทัดเทียมกับเมืองอื่นๆ ในรัฐโอไฮโอและในระดับของประเทศ หากผู้ประกอบการไทย/นักลงทุนไทยที่สนใจจะขยายกิจการ ลงทุน หรือร่วมลงทุนในพื้นที่เขต Columbus Region สามารถขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก

Ms. Deborah Scherer

Director, Global Market

Columbus Region 2020

150 S. Front Street, Suite 200

Columbus, OH 43215

Tel. 614) 225-6030

Email. dh@columbusregion.com

Website: www.columbusregion.com

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ