งานแสดงสินค้าอาหาร TUTTO FOOD ระหว่างวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2011

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 23, 2011 11:30 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ข้อมูลทั่วไปของงานฯ

งานแสดงสินค้า TUTTO FOOD เป็นงานแสดงสินค้าอาหาร ตั้งแต่ในรูปวัตถุดิบไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารอิตาเลียน มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นจุดนัดพบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นแหล่งศึกษาแนวโน้มตลาดการผลิตและแนวโน้มผู้บริโภค รวมทั้งผู้จัดฯ ต้องการให้งานฯ ดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าใหม่ที่จะเป็นประตูเปิดไปสู่ยุโรปและตลาดโลก เป็นศูนย์กลางที่จะเชื่อมทุกอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน นอกจากนั้น ยังต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารประจำชาติของอิตาลีที่มีวัฒนธรรมและเอกลักษณ์มายาวนานให้เป็นหนึ่งในสินค้า made-in-italy เหมือนกับสินค้าอื่นๆ ให้ชัดเจนขึ้น

จัดโดยบริษัท Fiera Milano S.p.A. (Strada Statale del Sempione, 28-20017 Rho, Milano www.tuttofood.it) ณ ศูนย์แสดงสินค้า RHO fiera เมืองมิลาน ช่วงเดือนพฤษภาคม ทุกสองปี งานฯ ครั้งที่ผ่านมาจัดระหว่างวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2011 นับเป็นการจัดงานฯ ครั้งที่ 3

สินค้าที่นำมาจัดแสดงภายในงาน ได้แก่ เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม เนื้อสัตว์สด/แปรรูป Preserved food อาหารประจำท้องถิ่น ภูมิภาคต่างๆ ของอิตาลี อาหารควบคุมพลังงาน อาหารสำหรับเด็ก อาหารสด/แช่แข็ง Gastronomy Dairy/Cheese products น้ำมัน อาหารสำเร็จรูป/กิ่งสำเร็จรูป พาสต้า ธัญญพืช ขนมอบ อาหารเพื่อสุขภาพ สมุนไพร บรรจุภัณฑ์และ Accessories และสินค้า/บริการใหม่ ๆ

สำหรับ Exhibitors ประกอบด้วย ผู้ผลิต / Distributors / Traders / Service Suppliers สมาคมฯในสาขาที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแสดงในงานฯ ด้วย ทั้งนี้ งานฯ เปิดสำหรับนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

สถิติงานฯ

งานแสดงสินค้าอาหาร TuttoFood จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2007 ภายใน 4 อาคาร (อาคาร 13,15,22, 24) ถึงแม้การจัดงานครั้งที่ผ่านมาจะเป็นเพียงครั้งที่ 3 แต่นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม มีผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 (ข้อมูลจาก Auma.de) จำนวนผู้เข้าร่วมแสดงงานฯ 1,750 ราย เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33 นำเสนอสินค้ากว่า 2,000 ยี่ห้อ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เข้าร่วมแสดงงานฯ เป็นบริษัทอิตาเลียน และมีผู้เข้าแสดงงานจากประเทศกลุ่มสมาชิก EU และยุโรป อเมริกา เอเชีย อัฟริกา เข้าร่วมด้วย

สำหรับผู้เข้าชมงานฯ ครั้งนี้กว่า 40,000 รายจาก 67 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจำนวนผู้เยี่ยมชมงานฯ จากต่างชาติที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23 โดยมี International buyer จากยุโรปที่สำคัญ ได้แก่ เยอรมันซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ฝรั่งเศส ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ สเปน รัสเซีย เชค โปร์แลนด์ สแกนดิเนเวีย เป็นต้น และจากประเทศอื่น ๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล อาเจนติน่า เม็กซิโก เวเนซูเอล่า อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย ตุรกี อาหรับอิมิเรตส์ และจีน เป็นต้น มีผู้นำเข้ารายใหญ่เข้าร่วมเยี่ยมชมงานฯ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์/ไฮเปอร์มาร์เก็ตโดยตรงอีกด้วย โดยมีซูปเปอร์มาร์เก็ตสำคัญที่เข้าร่วมเยี่ยมงานฯ ในครั้งนี้ ได้แก่ Walmart, Carrefour, Rewe, Aldi, Lidl, Auchan, Tesco, Sainsbury's, William's-Sonoma, Dean and Deluca, Coop, Ipercoop, Conad, Bennet, Eurospin, Bloomingdale and City Super Hong Kong เป็นต้น ทั้งนี้ ไทยมีซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังมาร่วมเยี่ยมชมงานฯ ด้วย ครั้งนี้ มีงานแสดงสินค้าอีก 2 งานที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกร่วมกับงานฯ TuttoFood ได้แก่

1)งานฯ Safe Food Tech เป็นงานที่จัดแสดงเทคโนโลยี เครื่องมือ เครื่องจักร และ ระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาหาร ได้แก่ Processing and packaging technology , Hygiene technology, Quality control technology, Ancillary equipment for "no risk" production, Active & intelligent packaging, Identification and tracking systems, Services for food safety, รวมทั้ง สถาบัน/สมาคมที่เกี่ยวข้อง จัดแสดงในอาคาร 18

2) งานฯ BtoBio Expo เป็นงานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์ เนื่องจากอิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสูงในตลาดโลก(มูลค่าตลาดประมาณ 3 พันล้านยูโร/ปี) จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นช่องทางใหม่ในการส่งเสริมด้านการตลาดให้ผู้บริโภครู้จักสินค้าดังกล่าวมากขึ้น มีผู้เข้าร่วม แสดงในงานฯ ครั้งนี้ 200 ราย

ภาพรวมตลาดโดยย่อ

อุตสาหกรรมอาหารในอิตาลีนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญ เป็นอันดับสองของประเทศ โดยในปี 2010 มียอดจำหน่ายมูลค่า 123 พันล้านยูโร (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยข้อมูลสมาคม Federalimentare) อุตสาหกรรมอาหารโดยรวมมีสัญญาณการเติบโตจากมูลค่าการส่งออก แต่การบริโภคภายในประเทศยังคงที่ สืบเนื่องจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจส่งผลให้ประชาชนชะลอการบริโภคเพื่อรอดูสถานการณ์ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สินค้าอาหารอื่นๆ ชะลอการขยายตัว แต่กลุ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์กลับมีอัตราการเติบโตสวนกระแสวิกฤติเศรษฐกิจ โดยในตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในอิตาลีมีมูลค่าการค้าคิดเป็น 3 พันล้านยูโร อิตาลีถือเป็น main player ทั้งการเป็นผู้ผลิต (50,000 ราย) และเป็นประเทศผู้ส่งออก (มูลค่าการส่งออก 900 ล้านยูโร) รายใหญ่ในตลาดโลก ส่วนการบริโภคภายในประเทศมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 7.5/ปี (2004-2009) กระจายไปในร้านอาหารออร์แกนนิค โรงอาหารในโรงเรียน/โรงพยาบาล และผู้บริโภคขั้นสุดท้าย ทุกช่องทางการจำหน่ายเพิ่มการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ในอัตราก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ข้อคิดเห็นของสำนักงานฯ

งานแสดงสินค้าอาหาร TuttoFood ในครั้งนี้ดีกว่าครั้งที่ผ่านมามาก แม้ว่าจะยังคงมีอาหารอิตาเลียนเป็นส่วนใหญ่ แต่มีการนำเสนออาหารรูปแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะการนำเสนอสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้เป็นจุดเด่นในงานฯ ครั้งนี้ โดยได้ดึงดูดผู้เข้าชมงานฯ/Buyers หน้าใหม่จากประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นตลาดหลักของสินค้ากลุ่มดังกล่าว ได้แก่ แคนาดา สหรัฐอเมริกา อิสราเอล ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ อังกฤษ สเปน ฮอลแลนด์ เบลเยี่ยม กรีซ และประเทศในยุโรปตะวันออกอื่นๆ เป็นต้น โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23

จากการได้เข้าเยี่ยมชมงานฯ TuttoFood ในครั้งนี้ ทำให้สำนักงานฯ ได้รับทราบข้อมูลสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะสินค้าพร้อมรับประทานที่นำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบแช่แข็ง บรรจุภัณฑ์สูญญากาศ เป็นต้น การขยายโอกาสทางด้านการตลาดโดยเฉพาะตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์และอาหารเพื่อสุขภาพที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในอิตาลีและยุโรป ทั้งนี้ สำนักงานฯ เห็นว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ส่งออกไทยในการพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์และอาหารเพื่อสุขภาพในประเทศเพื่อเข้าสู่ตลาดดังกล่าวเพราะตลาดนี้ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน

ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ