กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดงานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ 2554 ครั้งที่ 24 (Made in Thailand 2011 : Export Opportunity for SMEs) ระหว่างวันที่ 13—17 กรกฎาคม 2554 ณ อาคาร 5 - 8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี หลังจากได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่มีการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนา และขยายการค้าของไทยสู่ทั่วโลก โดยเน้นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ให้ขยายสัดส่วนการส่งออกไทยกับอาเซียนจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30 ของยอดรวมการส่งออกกับต่างประเทศของไทยในปี 2558 และเพื่อตอกย้ำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้า และศูนย์กระจายสินค้าของภูมิภาค
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า การจัดงานแสดงสินค้า เมดอินไทยแลนด์ 2554 ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 ภายใต้แนวคิด Export Opportunity for SMEs เพื่อเผยแพร่ศักยภาพการในผลิตสินค้าคุณภาพระดับส่งออกของประเทศไทยทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจบริการของผู้ประกอบการไทยที่มีชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ และยังเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศได้เข้ามาเจรจาธุรกิจ แสวงหาพันธมิตรทางการค้าและเสาะหาสินค้าคุณภาพสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก นอกจากนี้การจัดงานครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์และศักยภาพของสินค้าไทยพร้อมกระตุ้นภาคการส่งออกรวมทั้งเศรษฐกิจและการหมุนเวียนเงินตราภายในประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยที่จะแนะนำสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมสู่ผู้บริโภคทั่วโลก
“ในปีนี้ทางกรมฯ ได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยในการพัฒนาศักยภาพตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดสากล โดยการจัดงานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ 2554 ในครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากนักธุรกิจนานาชาติ โดยกรมฯ ได้เชิญคณะผู้แทนการค้าจากตลาดส่งออกสำคัญจากทั่วโลกมาร่วมเยี่ยมชมงานซึ่งคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะมียอดการสั่งซื้อภายในงานกว่า 80 ล้านบาท และคาดว่าตลอดทั้งปีจะมียอดสั่งซื้อประมาณกว่า 970 ล้านบาท” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
งานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ 2554 ครั้งที่ 24 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13—17 กรกฎาคม2554 ณ อาคาร 5-8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี บนพื้นที่กว่า 27,000ตรม.ภายในงานมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การจัดนิทรรศการ Product Show Case ตามอุตสาหกรรม นิทรรศการ Demark การจัดคูหา Business Matching อาหารและเครื่องดื่ม เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน แฟชั่นและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม สินค้าด้านยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนธุรกิจบริการ สปาและธุรกิจแฟรนไชส์ ฯลฯ และที่สำคัญมีร้านค้าดาราที่นำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาร่วมจำหน่ายในงานกว่า 15 ร้านค้า อาทิ ลูกชิ้นปู-เด๋อ, ตี๋-ไอติมทอด, LACARA - จินตหรา สุขพัฒน์ เป็นต้น โดยในระหว่างวันที่ 13—15 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. จะเป็นวันเจรจาธุรกิจ และระหว่างวันที่ 16—17 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. จะเป็นวันจำหน่ายปลีก
งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยได้ร่วมนำสินค้ามาจัดแสดง และจำหน่ายในงานอย่างยิ่งใหญ่กว่าครั้งที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการส่งออก จึงได้ขยายเวลาการเปิดรับสมัคร ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานแสดงสินค้า 5 สินค้าทั่วไป กิจกรรมส่งเสริมการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก โทร. 02-507-8380-84 หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.depthai.go.th หรือ www.thaitradefair.com ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2554
ที่มา: http://www.depthai.go.th