สรุปภาวะตลาดผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางของไทยในเยอรมนี เดือนมิถุนายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 27, 2011 15:39 —กรมส่งเสริมการส่งออก

อุตสาหกรรมในประเทศ

ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศยังคงมีความต้องการผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางสูงต่อเนื่อง สินค้าสำคัญๆ ที่ตลาดต้องการจะเป็น ชิ้นส่วน ส่วนประกอบเครื่องจักรกล ส่วนยางรถยนต์ ตลาดในประเทศมีความต้องการมากกว่าตลาดในต่างประเทศ

ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2554 ยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำด้วยยางของผู้ผลิตในประเทศเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 4,320 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.2 โดยเป็นยางรถยนต์มูลค่า 1,814 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 ในจำนวนนี้เป็นการจำหน่ายในประเทศมูลค่า 1,229 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.3 ในต่างประเทศมูลค่า 585 ล้านยูโร ลดลงร้อยละ 2.3 สำหรับผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ที่สำคัญยังคงเป็นแท่นยาง ปะเก็น และยางผสมสารเคมีพิเศษสำหรับการใช้งานพิเศษต่างๆ เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,506 ล้านยูโร มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.1 เป็นการจำหน่ายในประเทศมูลค่า 1,413 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.4 การขายในต่างประเทศมูลค่า 1,092 ล้านยูโร มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8

สินค้าส่งออกของไทย

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตลาดเยอรมนียังคงมีความต้องการสินค้าทำด้วยยางสูงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้ารายการนี้ไปตลาดเยอรมนีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยในช่วง 5 เดือนแรกปี 2554 (ม.ค.-พ.ค.) มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางของไทยไปเยอรมนี ที่สำคัญๆ ได้แก่

  • ถุงมือยางใช้ในด้านการแพทย์ มูลค่า 49.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 69.8 คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 51.8 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 14 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ มาเลเชีย เนเธอร์ แลนด์ และออสเตรีย มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 45, 12 และ 8 ตามลำดับ
  • ยางใหม่สำหรับยานพาหนะ มูลค่า 37.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 39.1ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งเล็กน้อยประมาณร้อยละ 1.7 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฝรั่งเศสมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14 เช็คร้อยละ 9 สโลเวเกียร้อยละ 8
  • หลอดและท่อยาง มูลค่า 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 2.0 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 0.6 แหล่งนำเข้าสำคัญๆ ได้แก่ ฮังการี เช็ค และอิตาลี มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 15, 12 และ 11 ตามลำดับ

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ