จากสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยของโลก ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งในอิตาลีเห็นได้จากสถิติการขยายตัวที่สูงขึ้นแม้ว่าจะมีภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นแต่กลับส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคอาหารทะเลแช่แข็งมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าอาหารทะเลแช่แข็งส่งผลต่อสุขภาพพอๆ กับอาหารสดแต่ราคาไม่แพงและง่ายต่อการนำไปใช้ปรุงอาหาร และคากว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ผู้ผลิตจะสามารถสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งในเรื่องคุณภาพ และการพัฒนาด้านคุณค่าทางโภชนาการด้วย โดยเฉพาะในปัจจุบันการใช้ชีวิตแบบใหม่ได้รวมเอาอาหารทะเลแช แข็งเข้าไว้เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของอาหารประจำวันในครอบครัวอิตาลีไปแล้ว
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า อิตาลีเป็นหนึ่งในตลาดหลักของสหภาพยุโรปสำหรับสินค้ากุ้ง เห็นได้จากอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นใน อิตาลี โดยกุ้งถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูป เช่น พิซซ่า แกงและสลัดอาหารทะเล ชุปปลา ค๊อกเทลกุ้งและอาหารว่าง และการนำไปบริโภค ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบปอกเปลือกแล้วบรรจุและนำไปขายในแบบแช่เย็น แช่แข็งหรือบรรจุกระป๋อง ซึ่งนำไปจำหน่ายในภาคการรับบริการจัดเลี้ยงและกลุ่มผู้ค้าปลีก
ด้านนางสุชนา ชูเชิด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรมเผยว่า ปัจุบันชาวอิตาลีมีแนวโน้มความต้องการกุ้งเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงคริสมาสต์เนื่องจากผู้บริโภคที่มีฐานะดีจะนำกุ้งมาปรุงอาหารที่หรูหราในการจัดเลี้ยงฉลอง ในขณะเดียวกันช่วงฤดูร้อนร้านอาหารตามชายทะเลก็จะขายอาหารทะเลเพิ่มขึ้นให้แก่นักท่องเที่ยว การบริโภคกุ้งในอิตาลีส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี ซึ่งมีการบริโภคมากเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับทางภาคใต้ นอกจากนี้ในภาคการบริการจัดเลี้ยงมีเมนูกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด และกุ้งทอดที่เป็นที่นิยมบริโภคกันอย่าง แพร่หลายรวมถึงอาหาร finger food ด้วย สำหรับในภาคธุรกิจค้าปลีกในปี 2553 พบว่ายอดขายของกุ้งแช่แข็ง กุ้งปอกเปลือกมีจำนวนเพิ่มสูงมาก แม้ว่าจะมีวิกฤตด้านเศรษฐกิจและวิกฤตหนี้สินเกิดขึ้นก็ตาม จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าหลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงจะส่งผลให้ยอดขายกุ้งในปี 2554 เพิ่มสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้จากการที่ครอบครัวชาวอิตาเลี่ยนนิยมดำนินชีวิตแนวใหม่จึงส่งผลให้กลุ่มสินค้าแช่แข็งและกลุ่มของดองเพิ่มขึ้น
นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 5 เดือนของปี 2554 (ม.ค.-พ.ค.) ไทยมีมูลค่าการส่งออกกุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง ไปอิตาลีถึง 5.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 103.46 และประเทศคู่แข่งทำสำคัญของไทย ได้แก่ เอกวาดอร์ซึ่งส่งออกกุ้งไปยังอิตาลีมากที่สุด ตามด้วยอาร์เจนติน่า อินเดีย และไทย นอกจากนี้ยังมี จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่คาดว่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญในอนาคตอีกด้วย” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
แต่อย่างไรก็ดี แม้จะมีคู่แข่งเยอะแต่ไทยยังได้เปรียบในเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพสูงและสม่ำเสมอ ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร ผู้กระจายสินค้าและผู้บริการจัดเลี้ยง รายใหญ่ที่ต้องการความเข้มงวดในเรื่องคุณภาพของสินค้า
อนาคตของอุตสาหกรรมกุ้งจะขึ้นอยู่กับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและระบบการควบคุมคุณภาพในประเทศกำลังพัฒนาที่สามารถเข้าสู่มาตรฐานของสหภาพยุโรปที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และการ ควบคุมด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นผู้ส่งออกกุ้งของไทยจึงต้องมุ่งเน้นด้านการเพิ่มมูลค่าสินค้ากุ้ง เช่น การบรรจุภัณฑ์และน้ำหนักชนิดพิเศษ สินค้ากุ้งชุบเกล็ดขนมปังหรือพร้อมรับประทาน เป็นต้น พร้อมทั้งจะต้องจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรฐานสุขอนามัยแบบใหม่เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค
ที่มา: http://www.depthai.go.th