กรมส่งเสริมการส่งออกสนับสนุนผู้นำเข้าเร่งใช้ประโยชน์ JTEPA ผลักดันส่งออกผลไม้ไทยไปญี่ปุ่น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 11, 2011 13:34 —กรมส่งเสริมการส่งออก

กรมส่งเสริมการส่งออกมอบหมายสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงโตเกียวจัดคณะผู้แทนการค้าผลไม้สดจากญี่ปุ่น ประกอบด้วยบริษัทนำเข้ารายใหญ่ ควงคู่กับซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เดินทางมาประเทศไทยระหว่างวันที่ 5-15 กรกฏาคม 2554 โดยจะจัดให้คณะพบหารือกับกลุ่มเกษตรกร และเจรจาซื้อกับบริษัทส่งออก เป็นการเพิ่มความมั่นใจเรื่องมาตรฐาน การควบคุมคุณภาพตลอดขบวนการผลิตผลไม้ของไทย ว่า มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ว่ามีผลไม้พร้อมส่งออก เพื่อว่าบริษัทเหล่านี้จะได้วางแผนการขายได้สอดคล้องกัน คณะที่เดินทางมานี้ จะเข้าเยี่ยมชมสวนผลิตผลไม้สดที่ได้มาตรฐานในจังหวัดเชียงราย จันทนบุรีและตราด เน้นผลไม้ที่ญี่ปุ่นให้สิทธิพิเศษเพิ่มภายใต้ JTEPA โดยเฉพาะสับปะรดผลเล็ก ได้แก่พันธุ์ภูแล และพันธุ์นางแล และกล้วย พร้อมขยายตลาดผลไม้ที่ตลาดกำลังขยายได้ดี เช่น มะม่วง มังคุด ทะเรียน

คณะที่เดินทางมาครั้งนี้ ประกอบด้วยบริษัทนำเข้าและซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ระดับประเทศ เช่น AEON Co., - AIC Inc.; Ito-Yokada-Union Co., Vox Trading; Showa Boeki Co.,; York Benimaru - KI Fresh Access Inc. ซึ่งจะทำให้ผลไม้ไทยเจาะเข้าสู่ผู้บริโภคทุกภูมิภาคทั่วญี่ปุ่น ทุกบริษัทมีความกระตือรือล้น และจริงจังที่จะพบกลุ่มชาวสวนผู้ผลิต และพบบริษัทส่งออกที่ได้มาตรฐาน ความสนใจของบริษัทนำเข้าไม่ได้จำกัดเฉพาะผลไม้สด แต่รวมถึงผลไม้แห้งและแปรรูป ผักสดและแปรรูป ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดซื้อระบุว่า ความตื่นตัวเรื่องสุขภาพและ Dietary ทำให้ตลาดผลไม้แห้งและแปรรูปเป็นที่นิยม และเตรียมจะจัดส่งเสริมการขายในปีนี้

ภาวะอากาศที่แปรปรวนและอุณหภูมิของโลกที่อุ่นขึ้น ทำให้ผลไม้เมืองร้อนแทรกซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาหารในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น ปีหนึ่งๆ ญี่ปุ่นนำเข้าผลไม้เมืองร้อนที่เป็นผลไม้สด จำนวน 1.6-1.7 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนร้อยละ 85 ของผลไม้สดที่นำเข้า

ผลไม้สดที่ญี่ปุ่นยอมให้นำเข้าในรูปผลสด มี 6 ชนิด ได้แก่ มะม่วง มังคุด ทุเรียน กล้วย มะพร้าวอ่อน และสับปะรด โอกาสส่งออกของไทยยิ่งสูงขึ้นเมื่อมีการลงนานความตกลง JTEPA ซึ่งญี่ปุ่นยินยอมลดภาษีนำเข้าผลไม้สด ได้แก่ มะม่วง มังคุด ทุเรียน และมะพร้าวเหลือศูนย์ ญี่ปุ่นยังขยายโควต้าผลไม้จากไทย 2 ชนิด ได้แก่ กล้วย โดยให้โควต้าปลอดภาษี 4,000 ตันในปีแรก เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2550 จากนั้นทะยอยเพิ่มเป็น 8,000 ตันภายใน 5 ปี ภาษีนอกโควต้าจัดเก็บร้อยละ 10 หากนำเข้าระหว่างเมษายน-กันยายน และเก็บร้อยละ 20 เมื่อนำเข้าระหว่างเดือนตุลาคม-มีนาคม นอกจากนี้ ได้ให้โควต้าปลอดภาษี สำหรับสับปะรดสด ขนาดน้ำหนักผลละไม่เกิน 900 กรัม จำนวน 100 ตันในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 500 ตันภายใน 5 ปี ภาษีนอกโควต้าจัดเก็บอัตรา 17 %

ในจำนวนผลไม้สดที่ญี่ปุ่นให้นำเข้าจากไทย มะม่วง และมังคุด เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เรียกได้ว่าผู้บริโภคต่างรอคอยให้ถึงฤดูผลิตและส่งออกของไทย ผลไม้ที่รู้จักกันดีและได้รับความนิยมมากขึ้น ได้แก่ ทุเรียน มะพร้าวอ่อน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีการนำเข้ากล้วยหอมทอง และกล้วยไข่จากไทยเข้าไปวางขายในญี่ปุ่นบ้าง แต่พบว่าไม่มีการนำเข้าสับปะรดสดจากไทยเลย เมื่อสอบถามบริษัทนำเข้าก็แปลกใจที่ไม่เคยคิดถึงสับปะรดไทยและเชื่อว่าผู้บริโภคก็ยังไม่รู้จัก เชื่อมั่นว่าคณะผู้แทนที่เดินทางมาครั้งนี้จะทำให้ผลไม้ใหม่อีก 2 ชนิด ได้แก่ สับปะรด กล้วย เป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของผลไม้ไทยในญี่ปุ่น

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ