ปี 2551 นับได้ว่าเป็นปีทองของสินค้าเครื่องดื่มในสหรัฐฯ เนื่องจากมีการนำเสนอ สินค้าเครื่องดื่มชนิดใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,870 รายการ แต่ตลาดสินค้าเครื่องดื่มในสหรัฐฯ ไม่ค่อยจะแจ่มใสนักในช่วงเวลา 2 ปี (2552-2553) ที่ ผ่านมา โดยจำนวนการนำเสนอเครื่องดื่มแบบใหม่สู่ตลาดลดลงร้อยละ 44.50 สืบเนื่องจากผู้บริโภคสหรัฐฯ ระมัดระวังการใช้จ่ายในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น ตัวดี จึงไม่ต้องการทดลองเครื่องดื่มชนิดใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดสินค้าเครื่องดื่มคาดการณ์ว่า ตลาดสินค้า เครื่องดื่มในสหรัฐฯ จะกระเตื้องขึ้นในปี 2554 และในปีต่อๆ ไป ด้วยอัตราการขยายตัวร้อยละ 1 - 1.5 และ ร้อยละ 1.8 - 2.2 ในปี 2555 โดยมีปัจจัยการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นส่วนสนับสนุน
อนาคตของเครื่องดื่มในในสหรัฐฯ
ชนิดเครื่องดื่มมีแนวโน้มขยายตัว ชนิดเครื่องดื่มที่ได้ความนิยมลดลง 1. น้ำผลไม้ 1. เครื่องดื่มชนิดชูกำลังธรรมดา 2. เครื่องดื่มชนิดผสมโซดา 2. น้ำดื่มชนิดมีรสชาติ 3. เครื่องดื่มผลไม้ที่มีรสชาติ 3. เครื่องดื่มชนิดผสม 4. เครื่องดื่มชนิดพร้อมดื่มประเภทชา 4. ชา 5. เครื่องดื่มชูกำลังประยุกต์ (Ready to Drink Energy)
มีแนวโน้มเครื่องดื่มที่มีลู่แจ่มใสในตลาดสหรัฐฯ
- เครื่องดื่มที่เป็นธรรมชาติ (Natural)
- มีสารัตถประโยชน์ (Functional)
- มีส่วนผสมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ และมีการประยุกต์รสชาติ (Innovative Ingredients, Flavors and Applications)
- มีคาเฟอีนในเครื่องดื่มผลไม้
บริษัท Rooibee Red Tea นำเสนอ Organic Red Tea และมี Antioxident สูงกว่า Green Tea ร้อยละ 50 ซึ่งให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย และมีคุณสมบัติตาม Trend เครื่องดื่มในด้าน ความเป็นธรรมชาติ มีสารัตถประโยชน์
บริษัท The Healthy Beverage Company (Steaz's Brand) นำเสนอเครื่องเครื่องในแนวเสริมสุขภาพ ในแนวน้ำผลไม้เสริมด้วยคาเฟอีนเพื่อเพิ่มพลังงาน (Energy) และ ไม่มีคาลอรี่ เช่น Zero Calorie Black Cherry, Zero Calorie Orange, Zero Calorie Blueberry Pomegranate และน้ำชาผสมน้ำผลไม้ เช่น Mint Ice Tea และ Blueberry Pomegranate เป็นต้น ซึ่งเป็นเครื่องดื่มตาม Trend ของตลาด
บริษัท Nestle USA และ Jamba Juice Company ได้พัฒนาสินค้าเครื่องดื่มชนิดใหม่ในรูป Ready-to-drink Energy Drink และนำเสนอต่อตลาดในต้นปี 2554 โดยการนำน้ำผลไม้ จริงเสริมด้วยคาเฟอีน มีรสชาติผลไม้ชนิดต่างๆ ประกอบด้วย น้ำทับทิม น้ำบลูแบรี่ น้ำสตอแบรรี่ น้ำกล้วย และ น้ำแอปเปิ้ล โดย ไม่ใส่วัตถุกันเสียหรือ รสชาติเทียม ไม่มีสารแทนความหวานใน น้ำตาล (High-fructose corn syrup-HFCS) ไม่มีไขมันแปรรูป (Trans Fat)
บริษัท Campbell Soup นำเสนอ V8 V-Fusion + Tea Vegetable & Fruit Drink ซึ่งเป็นการนำชาผสมด้วยน้ำผลไม้และน้ำผัก 9 ชนิด เช่น ราสเบอร์รี่ น้ำทับทิม น้ำสับปะรด น้ำกล้วย น้ำมะม่วง น้ำแครอท เป็นต้น
ปัจจุบัน ตลาดเครื่องดื่มของสหรัฐฯ ได้เริ่มขยายตัว ผลักดันให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม สหรัฐฯ นำเสนอเครื่องดื่มเข้าตลาดเพื่อสนองความต้องการผู้บริโภค โดยเน้นการนำเสนอเครื่องดื่มชนิดที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในตลาดสูง ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ ให้คุณค่าด้านเสริมสุขภาพและเพิ่มพลังงาน
ผู้ผลิต/ส่งออกสินค้าเครื่องดื่มของไทยที่สนใจขยายตลาดเครื่องดื่มไปยังสหรัฐฯ ควร ให้ความสนใจเครื่องดื่มชนิดที่เป็นธรรมชาติ มีสารัตถประโยชน์ (Functional) มีส่วนผสมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ มีการประยุกต์รสชาติ หรือมีการผสมคาเฟอีนเข้าไปกับน้ำผลไม้ และให้ความสำคัญด้านรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้า
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th