ฟินแลนด์เป็นประเทศเดียวในกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์ที่ใช้เงินสกุลยูโร เป็นตลาดขนาดเล็กเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในยุโรป เศรษฐกิจฟินแลนด์ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2551-2552 ค่อนข้างรุนแรง โดย GDP ลดลงถึงร้อยละ 8.2 เนื่องจากการส่งออกของอุตสาหกรรมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งฟินแลนด์เป็นผู้นำการผลิตลดลงอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจฟินแลนด์ค่อยๆ ฟื้นตัวทีละน้อยเศรษฐกิจโดยรวมของฟินแลนด์คาดว่าจะขยายตัวในปี 2554 ร้อยละ 2.9 จากการขยายตัวของประเทศคู่ค้า เช่น เยอรมันนี สวีเดน และรัสเซีย เป็นผลทำให้การส่งออกของฟินแลนด์มีแนวโน้มดีขึ้นไปด้วย และรวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของภาคการลงทุน อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2554 คาดว่าอยู่ที่ร้อยละ 2 เป็นผลอันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นของครัวเรือนและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิต แต่การออมมีแนวโน้มลดลง
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า ฟินแลนด์ถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 52 ของไทย โดยในช่วงเดือนมกรมคม-พฤษภาคม 2554 การส่งออกจากไทยไปยังฟินแลนด์มีมูลค่า 169.49 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.07 เมื่อกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ในครัวและบ้านเรือน เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ
“เศรษฐกิจฟินแลนด์มีแนวโน้มการลงทุนที่ดีขึ้น อัตราว่างงานคิดเป็นร้อยละ 8.4 ในปี 2554 ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น กฎระเบียบทางการค้า การนำเข้าเป็นไปตามกฎระเบียบของสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ผู้บริโภคนิยมสินค้าแฟชั่น สินค้าฟุ่มเฟือย และแบรนด์ดัง ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมากรมส่งเสริมการส่งออกได้จัดโครงการสร้างนักออกแบบแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลกครั้งที่ 10 เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการด้านแฟชั่นและดีไซเนอร์ให้หันมาสร้างแบรนด์ของตัวเองกันมากขึ้นเพื่อสร้างมูลค่าให้แก่สินค้าไทย และล่าสุดทางกรมฯ ได้เชิญคุณฐากูล พาณิชกุล เจ้าของแบรนด์ THAKOON ซึ่งปัจจุบันเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในอเมริกา มิเชล โอบามา ภริยาประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็เลือกใส่เสื้อผ้าในคอลเลคชั่น THAKOON มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำงานวงการแฟชั่นระดับนานาชาติ พร้อมกับแนะกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้กับนักออกแบบไทยและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่น รวมทั้งแนะดีไซเนอร์รุ่นใหม่ให้สร้างสรรค์ผลงานที่นวัตกรรม ซึ่งจะทำได้ต้องคิดนอกกรอบ โดยไม่ลืมศึกษาวิถีวัฒนธรรมไทยและพื้นฐานของแฟชั่นไทย
และทางกรมฯ ยังได้พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ทางกรมฯ ได้จัดสัมมนาหัวข้อ "ธุรกิจติดปีก จุดประกายความคิด SMEs พลังแห่งการสร้างสรรค์ 360 องศา" เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เติมเต็มความรู้ในการทำธุรกิจแบบ Creative Economy ซึ่งเป็นหนทางในการก้าวสู่เวทีการค้าโลก รวมทั้งปรับความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs โดยการนำไปพัฒนาธุรกิจของตนเองในการก้าวสู่การขยายธุรกิจ สร้างโอกาสในการเติบโต ซึ่งแนวคิดจากการสัมนาจะทำให้สามารถวิเคราะห์อัตราการแข่งขันและการเติบโต เพื่อเสริมสมรรถนะธุรกิจตนเองให้ก้าวสู่เวทีการแข่งขันในระดับโลกต่อไป” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้มีรายได้สูงจากประเทศใกล้เคียง โดยเฉพาะรัสเซียนิยมเดินทางมาพักผ่อน จับจ่ายใช้สอยรวมทั้งการทำธุรกิจ ดังนั้นผู้ส่งออกไทยจึงอาจใช้ฟินแลนด์เป็นประตูการค้า การทำธุรกิจเชื่อมต่อไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น เยอรมันนี สวีเดน และรัสเซีย ซึ่งสินค้าสินค้าหรือบริการที่จะนำเสนอในตลาดนี้ ควรจะมีคุณภาพมาตรฐาน นำแฟชั่น และสื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้บริโภคในตลาดนี้
ที่มา: http://www.depthai.go.th