ในเดือนกันยายน ๒๕๕๔ นี้ ผู้บริโภคมันฝรั่งทอดกรอบจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เมื่อรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นภาษีอาหารที่ใส่ในบรรจุภัณฑ์ โดยการจัดเก็บภาษีเช่นนี้ จะมีผลไปถึงพวกขนมขบเคี้ยวรสเค็มและรสหวานด้วย แต่ไม่รวมถึงแฮมเบอร์เกอร์และร้านอาหารจานด่วนอื่นๆ ซึ่งจากนี้ไปสื่อต่างๆ จัดให้มันฝรั่งทอดกรอบ (chips)อยู่ในกลุ่มภาษีอาหารที่ไม่มีประโยชน์ มากกว่าที่จะอยู่ในกลุ่มของภาษีแฮมเบอร์เกอร์ นอกจากนั้นรัฐบาลยังกล่าวว่า จะนำเงินที่ได้เพิ่มจากภาษีนี้ไปรณรงค์ในด้านสุขภาพอีกด้วย
ตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายนเป็นต้นไป อาหารว่างที่ใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่ประกอบด้วยปริมาณเกลือ ๑ เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักหรือมากกว่า จะต้องจ่ายภาษีจำนวน ๒oo โฟรินท์ (หรือประมาณ o.๗๔ ยูโร) ต่อกิโลกรัม โดยอาจจะสามารถเพิ่มราคาขึ้นเป็น ๑o เปอร์เซ็นต์ สำหรับมันฝรั่งทอดกรอบที่มีขนาดห่อปกติ ๙o กรัม สำหรับเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาล ๘ เปอร์เซ็นต์ ต่อ ๑oo มิลลิลิตร จะต้องจ่ายภาษีเป็น 5 โฟรินท์ ต่อลิตร ในกรณีที่เครื่องดื่มเหล่านี้ประกอบด้วยปริมาณของน้ำผลไม้น้อยกว่า ๒๕ เปอร์เซ็นต์
สำหรับเครื่องดื่มชูกำลัง จะถูกคิดภาษีเป็น ๒๕ เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีปริมาณของสารคาเฟอีนที่ผสมอยู่มาก (ซึ่งไม่รวมถึงกาแฟ) อาหารที่ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติ เช่น ซุปก้อนจะต้องจ่ายภาษีจำนวน ๒oo โฟรินท์ ต่อกิโลกรัม ในกรณีที่ปริมาณเกลือมากกว่า ๕ เปอร์เซ็นต์ ส่วนช็อคโกแลตบาร์และ เค้ก จะต้องจ่ายภาษีจำนวน ๑oo โฟรินท์ ต่อกิโลกรัม
สคร. บูดาเปสต์
ที่มา หนังสือพิมพ์ เดอะ บูดาเปสต์ไทม์ ฉบับที่ ๙ เล่มที่ ๒๙ วันที่ ๑๕ ถึง ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔
ที่มา: http://www.depthai.go.th