รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้า เดือนกรกฎาคม 2554 ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ประเทศ ญี่ปุ่น(โตเกียว)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 29, 2011 15:36 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาวะการค้า

1. ญี่ปุ่นกลับมาได้ดุลการค้าระหว่างประเทศ ในเดือนมิถุนายน 70.7 พันล้านเยน หลังจากที่ขาดดุลการค้าต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 เดือนเนื่องจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคมส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยภาคการผลิตและการส่งออกกลับมามีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

2. ค่าเงินเยนญี่ปุ่นแข็งตัวสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐ โดยอยู่ที่ระดับ 78 เยน/เหรียญสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อราคาส่งออกของสินค้าและทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าญี่ปุ่นลดลง

3. รัฐสภาได้ผ่านงบประมาณฟื้นฟูพื้นที่ประสพภัยก้อนที่ 2 จำนวน 2 ล้านล้านเยนในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่เงินงบประมาณฟื้นฟูฯ ก้อนแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม จำนวน 4 ล้านล้านเยน อย่างไรก็ดี การฟื้นฟูพื้นที่ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า สาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาความไม่มั่นคงของรัฐบาล ทำให้การลงทุนเพื่อก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังไม่เกิดผล ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าการก่อสร้างเพื่อทดแทนส่วนที่เสียหายจะสูงถึง 23 ล้านล้านเยน

4.การใช้จ่ายของผู้บริโภคในญี่ปุ่น (ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 60 ของ GDP) เริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากที่ชาวญี่ปุ่นงดการรื่นเริงเป็นระยะเวลาหลายเดือนเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น จากผลการสำรวจของ Nikkei พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในสาขาเกี่ยวกับการบริโภคในเดือนกรกฎาคมกลับมาเพิ่มสูงขึ้น โดยสูงขึ้นกว่าผลสำรวจในเดือนมกราคมก่อนเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติเล็กน้อย และอยู่ในระดับสูงที่สุดนับจากเกิดเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008

5. นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศให้โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นทั้งหมดผ่านการทำ Stress test ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเรียกคืนความมั่นใจของประชาชนต่อความปลอดภัยของโรงงานนิวเคลียร์และหลีกเลี่ยงวิกฤตโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ประสพความเสียหายเช่นเดียวกับกรณีโรงงานในจังหวัดฟุกุชิมาหากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นอีก ส่งผลให้ปัจจุบันโรงงานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวนหนึ่งต้องหยุดการทำงานและคาดว่าจะทำให้ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานชนิดอื่นๆ มาเพื่อทดแทนพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น

6. จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนลดลงร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับปีก่อน เหลือเพียง 436,100 คน โดยลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่นับจากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นฟื้นตัวได้ช้ากว่าสาขาอื่นๆ

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ