ช่วงหลังปฎิวัติวัฒนธรรม ปี 1979 ทัศนคติของคนจีนในเรื่องครอบครัวแบบเดิมๆก็เปลี่ยนไปตามเศรษกิจที่เจริญขึ้นแบบก้าวกระโดด ประชากรเพศหญิงสมัครใจเป็นโสดมากขึ้น กระแสเศรษฐกิจคนโสดระลอกนี้ค่อย ๆ เด่นและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน
ผู้ช่วยนักวิจัยด้านสังคมศาสตร์ชาวเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า จำนวนคนโสดเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และยิ่งอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ใกล้เมืองมากเท่าไหร่ แนวโน้มคนโสดยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จากการวิจัยในปักกิ่งพบว่าปี 2005 คนโสดอายุระหว่าง 30-50 ปี เป็นเพศหญิงเกินกว่าครึ่ง นั่นเป็นสาเหตุที่นำมาซึ่ง "เศรษฐกิจแบบคนโสด"
หยวนซิน อาจารย์สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประชากรของมหาวิทยาลัย Nankai ในนครเทียนจินเหนือของจีนกล่าวว่า "เศรษฐกิจคนโสดมีแนวโน้มว่าจะส่งผลระยะยาวกับโครงสร้างเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศ"
คนโสดไม่น้อยอาศัยอยู่คนเดียว มีงานทำ ส่วนใหญ่มีสถาพทางเศรษฐกิจดี มีกำลังซื้อค่อนข้างมาก มีบทบาทต่อตลาดมากทีเดียว จากการวิจัยพบว่า สาวโสด 30.35% กำลังออมเงินซื้อบ้าน เปรียบเทียบแล้วเป็นอัตราที่มากกว่า "การซื้อเสื้อผ้าและการเสริมความงาม" เพราะการซื้อบ้านทำให้ผู้หญิงรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีบ้านเป็นของตนเอง แต่เนื่องด้วยบ้านราคาสูง และบ้านขนาดเล็กก็มีอยู่น้อยทำให้ความคิดนั้นเป็นจริงได้ยาก พวกผู้หญิงรู้สึกว่าไม่เพียงแต่บ้านเท่านั้น แต่ขนาดบรรจุภัณฑ์ของใช้ประจำวันและสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ล้วนไม่ใช่ขนาดสำหรับคนโสดไว้ใช้สอยกัน
ในเมื่อคนโสดเพิ่มจำนวนมากขึ้น ก็เป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่ควรจะต้องใส่ใจความต้องการของคนโสด เพราะคนโสดเหล่านี้จะมีผลต่อตลาดในอนาคตอย่างแน่นอน
การให้กำเนิดบุตรเป็นปัญหาใหญ่ของสาวโสดในจีน ถ้าสาวโสดเกิดมีบุตรขึ้นมาไม่เพียงแต่จะไม่ได้สิทธิ์ประกันภัยการให้กำเนิดบุตรแล้ว ยังต้องเสียค่าเลี้ยงดูและคุ้มครองเด็กให้กับสังคมด้วย ยกตัวอย่าง เซี่ยงไฮ้ ในปี 2010 สาวโสดที่อยู่ในวัยแต่งงานถ้าให้กำเนิดบุตรหนึ่งคนจะต้องจ่ายเงินให้รัฐบาลถึง 15,919 หยวน แต่ถ้าเป็นที่ไต้หวัน หากสาวโสดให้กำเนิดบุตรจะได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันกับสาวที่แต่งงานแล้ว
นักศึกษาจบใหม่ กลุ่มชนชั้นกลางและสาวออฟฟิศ เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนเนื่องจาก
ข้อ 1. คนโสด ไม่มีภาระครอบครัว การใช้จ่ายใด ๆ ก็เป็นไปอย่างง่ายดายเพื่อสนองความต้องการของตน ไม่ต้องคิดมาก กลุ่มคนเหล่านี้มากกว่า 30% เป็นโสด มีกำลังซื้อสูง ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและการบริโภคที่ต่างออกไปจากคนมีครอบครัว การสำรวจจากสื่อต่าง ๆ เปิดเผยว่า สาวโสดจีน 30-35% ให้ ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก 30.02% ใช้เงินไปกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง
จากผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้านและรถขนาดเล็กจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน , รวมถึงเครื่องใช้ในครัวเรือนไปจนถึงธุรกิจบริการด้านความบันเทิง และด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะได้รับประโยชน์จากคนโสด
ข้อ 2 การที่ไม่มีทายาททำให้คนโสดหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น คนโสดเหล่านี้คิดในแง่ระยะยาวว่า ตนเองนั้นไม่มีทายาทที่จะมาดูแลในอนาคตเลยทำให้ตระหนักถึงสุขภาพร่างกายมากขึ้น เพราะฉะนั้นธุรกิจการแพทย์, ธุรกิจด้านสุขภาพบำบัด, ธุรกิจเสริมความงามมีแนวโน้มที่จะได้รับผลดี และยังอาจส่งผลต่อเนื่องไปยังธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิต
เนื่องจากการแต่งงานต้องใช้เงินมาก ซึ่งถือเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คนรุ่นใหม่นิยมที่จะเป็นโสดกัน เพราะการแต่งงานนั้น หมายถึงว่าคุณต้องมีบ้านหลังใหญ่ มีรถยนต์ และยังต้องเตรียมเงินก้อนใหญ่ไว้สำหรับเลี้ยงดูบุตรอีก รวมแล้วเป็นเงินจำนวนมหาศาล ธุรกิจที่คิดว่าน่าจะมีผลกระทบคืออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก คงจะมีแนวโน้มถดถอยลง จากการศึกษาข้อมูลพบว่าทั้งประเทศจีนตอนนี้มีเด็กอยู่ประมาณ 107 ล้านคน รายได้ประจำปีโดยประมาณของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอยู่ที่ 500 พันล้านหยวน (62.5 พันล้านดอลล่าร์) แต่ต่อไปถ้าเกิดว่า 30% ของคนรุ่นใหม่ยังคงสมัครใจเป็นโสด มูลค่าการค้ามวลรวมสำหรับอุตสาหกรรมชนิดนี้คงลดลงเหลือประมาณ 150 พันล้านหยวน(18.75 พันล้านดอลล่าร์)
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเศรษฐกิจแบบคนโสดจะทำให้ธุรกิจต่าง ๆ เติบโตขึ้นแค่ไหน สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ "การออม" การใช้จ่ายต่าง ๆ ควรเป็นไปอย่างสมดุลทั้งรายรับรายจ่าย เราควรออมเงินสำรองเพื่อใช้ในการวางแผนสำหรับอนาคตและใช้ในยามฉุกเฉิน
แหล่งที่มา : Guangzhou Daily ฉบับลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 หน้า A8
สคร. เมืองกวางโจว
ที่มา: http://www.depthai.go.th