สถานการณ์การนำเข้าส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนพฤษภาคมของประเทศจีน

ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายน การนำเข้าส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่ารวม 431,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนร้อยละ 30.8 ของมูลค่าการนำเข้าส่งออกทั้งหมด โดยประกอบไปด้วย การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่า 248,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.0 การนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่า 183,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 และการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนพฤษภาคม เติบโตร้อยละ 8.2 น้อยกว่าอัตราการเติบโตของเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ร้อยละ 9.5 ร้อยละ 8.9

เดือนพฤษภาคม การส่งออกวัตถุดิบอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์สื่อสาร และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเติบโตขึ้นร้อยละ 5.4 ร้อยละ 14.9 และร้อยละ 2.3 ตามลำดับ น้อยกว่าอัตราการเติบโตของเดือนเมษายนถึงร้อยละ 30.8 ร้อยละ 15.8 และร้อยละ 10.8 คอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เติบโตขึ้นร้อยละ 2.5 ร้อยละ 10.0 และร้อยละ 20.2 อ่อนตัวลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 6.6 ร้อยละ 4.1และ ร้อยละ 8.8

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งออกมากที่สุดได้แก่อุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยมีอัตราการเติบโตขึ้นสูงกว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 18.3 และร้อยละ 11.7 นับจากเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม การส่งออกอุปกรณ์สื่อสารคิดเป็นมูลค่ารวม 46,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเติบโตร้อยละ 35.3 มีสัดส่วนร้อยละ 18.7 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด การส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นมูลค่ารวม 31,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.7 มีสัดส่วนร้อยละ 12.5 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด อัตราการเติบโตของการส่งออกคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยโดยการส่งออกคอมพิวเตอร์มีมูลค่า 83,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมีมูลค่า 36,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 การส่งออกส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นมูลค่า 33,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 เกือบเท่ากันกับอัตราการเติบโตเฉลี่ย สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งออกหลักมีแนวโน้มอ่อนตัวลง นับจากมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม การส่งออกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คคิดเป็นมูลค่า 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 อ่อนตัวลงจากอัตราการเติบโตของเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนร้อยละ 0.3 การส่งออกโทรศัพท์มือถือคิดเป็นมูลค่า 21,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 อ่อนตัวลงจากอัตราการเติบโตของเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนร้อยละ 9.1 การส่งออกแผงวงจรไฟฟ้าคิดเป็นมูลค่า 12,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 อ่อนตัวลงจากอัตราการเติบโตของเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนร้อยละ 0.2 การส่งออกจอ LCD คิดเป็นมูลค่า 11,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 อ่อนตัวลงจากอัตราการเติบโตของเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนร้อยละ 2.2

เดือนพฤษภาคม การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังประเทศยุโรปและอเมริกามีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอเมริกาคิดเป็นมูลค่า 9,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 3.3 โดยการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านลดลงร้อยละ 14.2 การส่งออกส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ 9.2 และการส่งออกคอมพิวเตอร์ลดลงร้อยละ 2.5 การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเยอรมันคิดเป็นมูลค่า 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 14.7 โดยการส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ 19.9 การส่งออกคอมพิวเตอร์ลดลงร้อยละ 22.2 และการส่งออกสินค้าสื่อสารลดลงร้อยละ 1.3 การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังประเทศอังกฤษคิดเป็นมูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 6.9 โดยการส่งออกคอมพิวเตอร์ลดลงร้อยละ 32.3 การส่งออกวัตถุดิบอิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ 15.5 และการส่งออกอุปกรณ์วิทยุและโทรทัศน์ลดลงร้อยละ 14.1

การส่งออกผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังประเทศแถบเอเชียยังคงมีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างเร็ว นับจากเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม การส่งออกไปยังฮ่องกงคิดเป็นมูลค่า 60,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.5 โดยการส่งออกอุปกรณ์สื่อสารคิดเป็นมูลค่า 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.5 และการส่งออกคอมพิวเตอร์คิดเป็นมูลค่า 16,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.2 การส่งออกไปยังญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่า 17,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 โดยอัตราส่งออกคอมพิวเตอร์คิดเป็นมูลค่า 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าคิดเป็นมูลค่า 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5 และการส่งออกส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นมูลค่า 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 การส่งออกไปยังไต้หวันคิดเป็นมูลค่า 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 โดยส่งออกส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นมูลค่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.1 และการส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 ซึ่งการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังสามประเทศและแถบอาณาเขตนี้มีอัตราการเติบโตสูงกว่า อัตราเฉลี่ยร้อยบะ 11.5 ร้อยละ 3.7 และร้อยละ 5.7

นับจากเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน การส่งออกไปยังอเมริกาและเนเธอแลนด์ต่างเติบโตร้อยละ 11.5 และร้อยละ 13.0 และการส่งออกไปยังเยอรมันลดลงร้อยละ 0.2 ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ย

เดือนพฤษภาคม การส่งออกในรูปแบบการแปรรูปในการให้วัสดุ(processing on giving materials) คิดเป็นมูลค่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 16.2 เทียบกับเดือนเมษายนต่ำลงร้อยละ 34.4 การส่งออกในรูปแบบการแปรรูปในการนำเข้าวัสดุ(processing imported materials) คิดเป็นมูลค่า 34,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 เทียบกับเดือนเมษายนต่ำลงร้อยละ 10.4 การส่งออกในรูปแบบการค้าทั่วไปคิดเป็นมูลค่า 10,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 สูงกว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 18.5

นับจากเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม การส่งออกในรูปแบบการค้าทั่วไปคิดเป็นมูลค่า 46,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.8 สูงกว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 16.8 การส่งออกในรูปแบบการค้าทั่วไปมีสัดส่วนร้อยละ 18.5 ของมูล่าการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งงหมด เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 และการค้าในรูปแบบการแปรรูปเพื่อส่งออกมีสัดส่วนร้อยละ 75.4 เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 2.8 โดยการส่งออกในรูปแบบการแปรรูปในการให้วัสดุคิดเป็นมูลค่า 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 1.4 การส่งออกในรูปแบบการแปรรูปในการนำเข้าวัสดุคิดเป็นมูลค่า 166,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7

เดือนพฤษภาคม การส่งออกของบริษัทการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า 32,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 1.3 ต่ำกว่าเดือนเมษายนร้อยละ 9.2 การส่งออกของบริษัทร่วมทุน คิดเป็นมูลค่า 8,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 0.9 ต่ำกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 9.1 ต่ำลงจากเดือนเมษายนร้อยละ 8.5 การส่งออกของบริษัททุนเอกชนคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.4 สูงกว่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 22.2

นับจากเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม การส่งออกของบริษัทเงินทุนภายในคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 47,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนร้อยละ 19.1 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยการส่งออกของบริษัทเอกชนคิดเป็นมูลค่า 25,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8 สูงกว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 24.8 การส่งออกของบริษัทการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศคิดเป็นมูลค่า 159,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 การส่งออกของบริษัทร่วมทุนคิดเป็นมูลค่า 39,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 และการส่งออกของบริษัทร่วมมือระหว่างประเทศคิดเป็นมูลค่า 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 ?? การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของภาคตะวันออกอ่อนตัวลง และการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของภาคกลางและภาคตะวันตกมีแนวโน้มเติบโตค่อนข้างเร็ว

เดือนพฤษภาคม การส่งออกของมณฑลกวางตุ้ง เจียงซู นครเซี่ยงไฮ้ เจ้อเจียง และซานตงคิดเป็นมูลค่า 22,000 11,500 7,800 2,100 และ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 ร้อยละ 8.63 ร้อยละ 2.8 ร้อยละ 13.2 และร้อยละ -17.4 ตามลำดับ ต่ำลงจากเดือนเมษายนร้อยละ 9.9 ร้อยละ 7.1 ร้อยละ 9.2 ร้อยละ 8.3 และร้อยละ 21.7 ตามลำดับ

นับจากเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม การส่งออกผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของมณฑลเสฉวน ฉงชิ่ง ซินเจียง มองโกเลียในมีอัตราการเติบโตร้อยละ 63.0 ร้อยละ 1161.2 ร้อยละ 60 และร้อยละ 69.9 ซึ่งยังคงรักษาแนวโน้มอัตราการเติบโตค่อนข้างเร็วอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: http://www.depthai.go.th