อุตสาหกรรมการผลิตสินค้า IT เป็น 1 ใน 3 อุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของมณฑลฟูเจี้ยน และเป็นอุตสาหกรรมชูโรงที่รัฐบาลมณฑลฟูเจี้ยนให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ 5 ปีฉบับที่ 12 กรมสารสนเทศประจำมณฑลฟูเจี้ยนได้ออกมาแถลงนโยบายประจำปีว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำอย่างเร่งด่วนหลังจากที่เริ่มเข้าสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ 5ปี ฉบับที่ 12 นี้คือการสืบต่อการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านสินค้าไอที สารสนเทศระหว่างมณฑลฟูเจี้ยนและไต้หวันในเชิงลึกและเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น เพื่อจะผลักดันอุตสาหกรรมไอทีของมณฑลฟูเจี้ยนเติบโตต่อไปอย่างก้าวหน้า
ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของมณฑลฟูเจี้ยน มีวาระที่สำคัญคือการส่งเสริมอุตสาหกรรม IT ให้มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพให้มากกว่าเดิม โดยผลิตภัณฑ์หลักที่จะได้รับการส่งเสริมคือมอนิเตอร์จอแบนแบบใหม่ๆ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ทางอินเตอร์เน็ตอุปกรณ์สื่อสารชั้นสูง ซอฟท์แวร์ตลอดจนการบริการทางด้านข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้จะเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลกลางของประเทศจีนที่วางให้เมืองริมทะเลมณฑลฟูเจี้ยนรวมเซี่ยเหมินเป็น.ฐานการผลิตหลักสินค้าไอที ก้าวขึ้นสูงการเป็นศูนย์รวมแหล่งผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร จอมอนิเตอร์ หลอดไฟฟ้า LED และอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ ที่สำคัญในเขตช่องแคบไต้หวัน
พร้อมกันนั้นจะมีการเพิ่มความร่วมมือกับไต้หวันในด้านธุรกิจไอทีมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในวงการผลิตภัณฑ์หลักที่กล่าวมาข้างต้น โดยจะมีการจับมือทั้งระหว่างนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานผลิตของทั้งสองแห่ง และจะส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการคิดค้นและพัมนาสินค้าใหม่ๆ เทคโนโลยีชั้นสูงใหม่ๆ รวมถึงมีการวางมาตรฐานการผลิตสินค้าให้ตรงกันเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสินค้าสากล
ปี พ.ศ.2553 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไอทีของมณฑลฟูเจี้ยนฟื้นตัวและเติบโตเพิ่มขึ้น มูลค่าการซื้อขายมีถึง413,350 ล้านหยวน สูงกว่าปี 2552 ถึงร้อยละ 25.3 สูงติดอันดับ 6 ของประเทศจีน และยังเป็นที่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่จะเลือกมาลงทุนในอุตสหกรรมไอที
เมื่อดูข้อมูลสถิติจาก World Trade Atlas พบว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าอิเลคทรอนิคส์ เครื่องใช้ไฟ้า อุปกรณ์ไอที สื่อสารจำนวนมาก ในปี 2553 ที่ผ่านมา การส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าว (Electrical Machinery) มีมูลค่าถึง 388,915 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประเทศปลายทางที่ส่งออกไปมากที่สุด 10 อันดับแรกคือ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัณ เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน อินเดีย สิงคโปร์ อิตาลี สำหรับประเทศไทยติดอยู่อันดับที่ 20 มูลค่า3,631 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ38.6 มูลค่า ส่วนการส่งออกไปยังไต้หวันมีมูลค่า 10,201 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.01
ในขณะเดียวกันประเทศจีนก็เป็นประเทศที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าในกลุ่ม Electrical Machinery จำนวนมาก ในปี 2553 ที่ผ่านมาจีนนำเข้าสินค้าในกลุ่มดังกล่าวถึง 314,405 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ28.97 คิดเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการนำเข้ามากสุดในบรรดาสินค้าทั้งหมดที่จีนนำเข้า ประเทศคู่ค้าสำคัญที่จีนนำเข้าคือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา เยอรมัณ ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ และไทย ตัวเลขการนำเข้าจากไต้หวันราว 50,838 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.39 และนำเข้าจากไทย ราว 7,858 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.31 ส่วนปี 2554 นี้คาดว่าการนำเข้าจากไทยยังคงจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขการนำเข้าจากไทยเดือนมกราคม 2554 มีถึง 669 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมายอดการนำเข้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 47.28
ที่มา: http://www.depthai.go.th