“ส่งออก” เดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ไทย เผยครึ่งปีแรกโกยเงินเข้าประเทศกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐฯ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก ปี 2554 พร้อมเผยโฉมนักออกแบบ 53 แบรนด์ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ และจะได้ร่วมแสดงผลงานภายในงาน BIG + BIH October 2011 เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ รวมทั้งการเข้าร่วมแสดงสินค้าในต่างประเทศ
นางนันทวัลย์ เผยว่า ตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ส่งออกเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นสินค้าที่มีความหลากหลาย ดังนั้นควรมุ่งพัฒนาการออกแบบหรือวัสดุที่ใช้ผลิตเพื่อสร้างความน่าสนใจแก่ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่าการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า และนักออกแบบไทยมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบที่ดี อีกทั้งประเทศไทยมีวัตถุดิบที่หลากหลายสามารถผลิตสินค้าได้หลากรูปแบบ รวมถึงมีฝีมือในการผลิตที่มีคุณภาพ ประณีต ละเอียดอ่อนซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อในต่างประเทศ
“ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่าการส่งออกของสินค้ากลุ่มนี้ถึง 1,455.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2553 ถึงร้อยละ 5.9 เนื่องจากไทยส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปยังตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมัน เป็นต้น อีกทั้งอาจมีผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวประกอบกับลูกค้าหันมาสั่งซื้อสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น และผู้ประกอบการไทยยังมีความได้เปรียบด้านรูปแบบสินค้าที่โดดเด่น มีการออกแบบที่ดี และส่งมอบสินค้าตรงตามเวลา ซึ่งผู้ประกอบไทยปัจจุบันเน้นการสร้างแบรนด์มากขึ้น และการใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้า (FTA) ที่ไทยมีกับต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย อาเซียน” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมดังกล่าวฯ ของไทยก็ยังคงประสบปัญหาในเรื่องของการแข่งขันของตลาดเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันในด้านราคาและรูปแบบผลิตภัณฑ์ การแข่งขันในตลาดต่างประเทศรุนแรง โดยเฉพาะสินค้าจากจีน มาเลเซีย เวียดนาม และไต้หวัน การแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ความสามารถในการแข่งขันในต่างประเทศของสินค้าไทยลดลง เป็นต้น
ด้าน มล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการฯ นี้ว่า “โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก” (Talent Thai 2011) ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน รวม 7 ปี ทั้งนี้เพื่อสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านที่มีศักยภาพ สามารถผลักดันให้เกิดการพัฒนารูปแบบสินค้าเครื่องใช้ ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งเพื่อร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านอย่างทั่วถึง และพัฒนาขีดความสามารถของนักออกแบบให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างกลุ่มนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านที่มีศักยภาพเป็นต้นแบบในการพัฒนานักออกแบบรุ่นต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม และจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ขยายมูลค่าการส่งออก รวมทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ในการเป็นประเทศที่ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านที่มีการออกแบบดี โดยโครงการฯ ได้สนับสนุนนักออกแบบมาแล้วนับร้อยแบรนด์ ซึ่งนักออกแบบที่เข้าร่วมโครงการฯ นี้ในทุกๆรุ่นส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จกับการสร้างแบรนด์ของตนเองและเป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น อาทิ แบรนด์ ANON PAIROJ , DOTS , TRIMOTE , KORAKOT , NOV. o5 เป็นต้น ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากโครงการฯ ได้มีการจัดกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาศักยภาพให้แก่นักออกแบบอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น 1) กิจกรรมการรับสมัครและคัดเลือกนักออกแบบ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ Next Now New โดยแบ่งตามความพร้อมและศักยภาพของนักออกแบบแบรนด์นั้นๆ ซึ่งทุกปีเราได้รับเกียรติจากคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านมาช่วยในการคัดเลือกนักออกแบบเข้าร่วมโครงการฯ พร้อมชี้แนะถึงจุดแข็ง และจุดอ่อนของแต่ละแบรนด์ เพื่อนำไปปรับใช้กับแบรนด์ของแต่ละคน 2) กิจกรรมการพัฒนาความรู้และเพิ่มศักยภาพทางการตลาดและการสร้าง แบรนด์ให้กับนักออกแบบทั้ง 3 กลุ่ม โดยการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ และ3) กิจกรรมส่งเสริมช่องทางทางการตลาด และการประชาสัมพันธ์ให้กับนักออกแบบทั้งใน และต่างประเทศ ประกอบด้วย การเข้าร่วมงาน แสดงสินค้าของขวัญและของแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน (BIG + BIH) และงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เช่น งาน Salone Internazationale del Mobile ในโซน Satellite ณ ประเทศอิตาลี และงาน Maison & Object ณ ประเทศฝรั่งเศส อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
“โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก ปี 2554” (Talent Thai 2011) นั้น กรมฯ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านได้คัดเลือกนักออกแบบเพื่อเข้าร่วมโครงการฯจำนวนทั้งสิ้น 53 แบรนด์ ซึ่งมีทั้งนักออกแบบที่เคยเข้าร่วมโครงการฯ และนักออกแบบหน้าใหม่ที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นครั้งแรก โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่ม “New” มีประสบการณ์หรือมีแบรนด์เป็นของตนเองไม่เกิน 1 ปี จำนวน 15 แบรนด์ กลุ่ม “Now” มีประสบการณ์หรือมีแบรนด์เป็นของตนเองมาแล้ว 1 - 3 ปี จำนวน 30 แบรนด์ และกลุ่ม “Next” มีประสบการณ์หรือมีแบรนด์เป็นของตนเองมาแล้ว 3 — 8 ปี จำนวน 8 แบรนด์ โดยได้จัดให้มีการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการฯ และเปิดตัวนักออกแบบที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการ ณ ห้องฟังก์ชั่น รูม 1-2 โรงแรม VIE HOTEL ซึ่งได้รับเกียรติจากนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในงานแถลงข่าวฯ โดยในปีนี้ทางกรมฯ ก็ได้เตรียมกิจกรรมที่จะพัฒนาและเพิ่มพูนศักยภาพทั้งในด้านการออกแบบ และในด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ตลอดโครงการฯ โดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม — ธันวาคม 2554 ได้แก่ 1) การแสดงผลงานสำหรับกลุ่ม Next และกลุ่ม Now ในคูหา Talent Thai ในงานแสดงสินค้าของขวัญและของแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน (BIG + BIH 2011 ) ณ ไบเทค บางนา 2) การสนับสนุนนักออกแบบไทยกลุ่ม Next และ Now เข้าร่วมจัดแสดงผลงานในต่างประเทศ อาทิ งาน Salone Internazationale del Mobile ในโซน Satellite ณ ประเทศอิตาลี และงาน Maison & Object ณ ประเทศฝรั่งเศส และ 3) การอบรมให้ความรู้ด้านการออกแบบ และด้านการตลาดส่งออกแก่นักออกแบบโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ คุณสุวรรณ คงขุนเทียน ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ "โยธกา" คุณธนาวัฒน์ สุขัคคานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทีเรียร์วิชั่น จำกัด และผู้ผลิตรายการ Showroom และคุณวิทวัส ชัยปาณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ครีเอทีฟ จูซ/จีวัน จำกัด นักการตลาดชื่อดังของเมืองไทย ) ในหัวข้อ “นักออกแบบไทย..เส้นทางสู่สากล” และการอบรมแก่กลุ่ม New เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าร่วมโครงการในปี 2012 และ 4) การประชาสัมพันธ์นักออกแบบในโครงการอย่างต่อเนื่องและกิจกรรมอื่น ๆ ตามความเหมาะสม” ม.ล.คฑาทอง กล่าวเพิ่มเตม “ในอนาคตเราจะสามารถร่วมกันพัฒนาและผลักดันให้เกิดการพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแก่นักออกแบบไทยที่มีศักยภาพด้านการส่งออกให้สามารถออกแบบและผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านในเชิงพาณิชย์เพื่อการส่งออก และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ขยายมูลค่าการส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในด้านการแสวงหาความรู้ประสบการณ์ด้านการตลาดและการส่งออกจนเป็นนักออกแบบในระดับนานาชาติ เพื่อเผยแพร่ผลงานและความสามารถของนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แก่ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศผลิตสินค้าที่มีการออกแบบที่ดี และผลักดันให้ตราสินค้าของนักออกแบบไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็นผู้นำด้านสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าตกแต่งบ้านในระดับเอเชีย และระดับสากลในที่สุด” นางนันทวัลย์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: http://www.depthai.go.th