สรุปสถานการณ์ประเทศบาหเรน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 16, 2011 11:13 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1.หลังจากได้มีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชิอะห์เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองในประเทศบาห์เรน กับกองกำลังของรัฐบาลที่เป็นนิกายสุนหนี่ ได้ใช้กำลังเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วง ที่บริเวณวงเวียนไข่มุกใจกลางกรุงมานามาเมืองหลวงของบาห์เรน จนทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิต 4 คนและบาดเจ็บเกือบ 200 คน

2.ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และ GCC อื่นได้ส่งกองกำลัง Peninsula Shield ทหารกว่า 1,000 นาย เข้าไปยังบาห์เรนเพื่อช่วยรัฐบาลฯปราบกลุ่มผู้ประท้วงฯ ซึ่งถือว่าเป็นการส่งกองทัพข้ามแดนครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในระหว่างที่เกิดเหตุความวุ่นวายทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง จนทำให้สหประชาชาติหรือยูเอ็นได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจในระดับสูงสุด และทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อป้องกันการใช้กำลังและความรุนแรง ส่วนสหรัฐฯได้เรียกร้องให้กองกำลังประเทศอ่าวอาหรับเคารพสิทธิของประชาชนในบาห์เรน

3. รัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือน (มีนาคม-พฤษภาคม 2554) ประกาศยกเลิกเมื่อเดือนมิถุนายน 2554 ที่ผ่านมารัฐบาลบาห์เรนพยายามที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศว่าภาวะทั่วไปของบาห์เรนนั้นกลับคืนสู่ความมั่นคงและมีเสถียรภาพ ได้จัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2554 หรือ Royal Investigation (RII) Commission จากหน่วยงานต่างๆและผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลุ่มการเมือง สหภาพแรงงาน ผู้ได้รับบาดเจ็บ และพยาน ทั้งนี้รัฐบาลจะไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการปฎิบัติหน้าของ RII ได้

4. เพื่อคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2554 รัฐบาลบาห์เรนเปิดการเจรจาแห่งชาติ หรือ Bahrain National Dialogue ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มปฎิรูปประกอบด้วยประชาชนจากภาคต่างๆ รัฐบาลยังได้แต่งตั้งโฆษกเพื่อจัดแถลงข่าวรายงานความคืบหน้าของการเจรจา ซึ่งได้จัดให้มีขึ้นสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อหาทางปรองดองในชาติให้ชาวบาห์เรนนิกายสุหนี่(ฝ่ายผู้ปกครองประเทศและรัฐบาล)กับสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านประชาขนบาห์เรนทั่วไป(ที่ส่วนใหญ่เป็นนิกายชีอะห์) โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้มีคณะกรรมการที่เป็นต่างชาติเข้าร่วมอยู่ด้วย

การเจรจามุ่งเน้นใน 4 หัวข้อ คือ การเมือง เศรษฐกิจ ประเด็นทางสังคม และสิทธิมนุษยชน พรรคฝ่ายค้าน Wefaq ตัดสินใจเข้าร่วมการเจรจาในนาทีสุดท้าย แต่การเจรจาที่ผ่านมาหลายครั้งไม่ราบรื่น สมาชิกพรรคหลายคนประท้วงโดยการเดินออกจากที่ประชุม ประชาชนหลายฝ่ายไม่ได้เข้าร่วมตามที่รัฐบาลประกาศไว้ สื่อมวลชนบิดเบือนผลการเจรจา และในระหว่างการเจรจากลุ่มการเมืองฝ่ายค้านประกาศชักชวนประชาชนร่วมชุมนุมรณรงค์เพื่อปฎิรูปทางการเมือง

5. เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม คณะกรรมการการเจรจาแห่งชาติได้สรุปมติการเจรจาแห่งชาติ ดังนี้

  • จะขยายอำนาจของสภาผู้แทนราษฏรโดยเฉพาะอำนาจในการยอมและไม่ยอมรับรัฐบาลชุดใหม่และจะไม่มีการแบ่งแยกนิกายในกลุ่มองค์กรการเมือง
  • จัดตั้งศูนย์ปรองดองแห่งชาติให้อำนาจสภาผู้แทนฯดูแลรับผิดชอบด้านสิทธิมนุษยชนและสังคม - ให้เสรีภาพสื่อในการเข้าถึงข่าวและการแสดงความคิดเห็น
  • ให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจโดยให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยปกป้องค่าจ้างและผลตอบแทน ประกาศปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการทหารตำรวจและพลเรือนอีกร้อยละ 36-37 ตั้งเกณฑ์เงินใหม่ ภาครัฐจัดสรรงบประมาณกว่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการดำเนินการดังกล่าว
สรุป

1. ความไม่สงบในบาห์เรนมาจากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางศาสนาเป็นสำคัญ จึงทำให้มีแนวโน้มยืดเยื้อ ระบบเศรษฐกิจของบาห์เรนเป็นแบบทุนนิยมโดยรัฐ คือมีหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจเป็นแกนนำในการผลิตและการลงทุน ทำให้การผลิตขาดประสิทธิภาพ การขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ และในการจ้างงานยังใช้ระบบเส้นสาย

2. สถานการณ์ในบาห์เรนโดยทั่วไปสงบ ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปในลักษณะใด เพราะผลการเจรจาแห่งชาติเป็นการสรุปผลจากฝ่ายรัฐบาลฝ่ายเดียว และฝ่ายแนวร่วมต่อต้านรัฐบาลยังคงเดินหน้าเรียกร้องการปฎิรูป

3. รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าไทย ประเภทของใช้ที่จำเป็นสำหรับปัจจัย 4 อาทิ อาหาร เสื้อผ้าเครื่องหนัง การรักษาพยาบาล ซึ่งประเทศไทยมีข้อได้เปรียบอยู่แล้ว

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองดูไบ

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ